เวลาเราไปสัมภาษณ์งานที่ไหนก็มักหอบหิ้วสารพัดผลงาน ทั้งเรซูเม่ ทั้งประวัติการเรียน อีกทั้งฮาร์ดก็อปปี้และเอกสารมากมายมหาศาล เรียกได้ว่าถ้าจัดงานอีเวนท์แนะนำตัวเองได้ก็คงทำไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณเชื่อตามผลวิจัยจากแดนผู้ดีชิ้นนี้แล้วล่ะก็ สมัครงานครั้งหน้าก็แค่เตรียมแต่งตัวให้หล่อเนี๊ยบสวยเช้งเข้าไว้เป็นพอ
การศึกษาของ Hyper Island สถาบันเพื่อการศึกษาระดับโลกทำการสำรวจนักธุรกิจชั้นนำกว่า 500 คนจากทั่วเกาะอังกฤษพบว่า กว่า 78% ของนายจ้างให้ความสำคัญกับ “บุคลิกภาพ” ของผู้สมัครงานเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่มีเพียง 39% ที่ให้ความสำคัญกับ “ความสามารถ” ที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นจริงๆ เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทค้นพบบุคคลผู้เก่งกาจและเป็นเพชรเม็ดงามแล้ว กว่า 20% ของซีอีโอยอมรับว่าปวดหัวมากในการรักษาและพัฒนาบรรดา ‘right guy’ เหล่านี้ให้อยู่กับบริษัทได้ไปนานๆ เพราะสุดท้าย คนเหล่านี้ก็มักจะมีอภิมหาโปรเจกต์แล้วออกไปทำธุรกิจของตัวเองซะเยอะ
Johanna Frelin ซีอีโอของ Hyper Island ระบุว่าสิ่งที่พวกเขาค้นพบนั้น แม้เราจะพบว่าบุคลิกภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการจ้างงานเหนือความสามารถ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปัจจุบันต่างระบุตรงกันว่าพวกเขาชื่นชอบ “พวกอัจฉริยะ” ที่มีความสามารถโดดเด่นหลายอย่างและสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่น คุณสมบัติที่ต้องการคือทำงานเป็นทีมเก่ง เรียนรู้ไวและสามารถทำให้ทั้งบริษัทมีบรรยากาศที่สนุกสนานได้
Frelin ปิดท้ายด้วยการพยากรณ์ว่า ปัญหาการจ้างงานชนิดใหม่ที่เราน่าจะพบได้ในอนาคตอันใกล้ คือการที่พวกหน้าตาดีแต่ไร้ความสามารถมีอยู่เต็มจนล้นบริษัท ซึ่งจะแก้อย่างไรนะเหรอ…ก็ไล่ออกนะสิ (โหดเหี้ยมมมม)