5 จุดเด่นที่ทำให้ Canon EOS M3 เป็นกล้องมิร์เรอร์เลสที่ไม่ควรมองข้าม

ถ้าพูดการใช้กล้องถ่ายรูป พวกเราอาจจะเกิดความสงสัยว่าปัจจุบันความต้องการใช้งานกล้องถ่ายรูป ยังคงมีความนิยมอยู่หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นของการปรับแต่งภาพ สามารถตอบโจทย์การถ่ายได้เป็นอย่างดีทำให้หลายๆ คนไม่สนใจที่จะซื้อกล้องอีกต่อไป ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคทำให้ยอดขายกล้องทั่วโลกลดลง แต่มีกล้องอยู่ประเภทหนึ่งที่กลับมียอดขายที่ดีก็คือ “กล้องประเภท มิร์เรอร์เลส” นั่นเอง ที่จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ทั้งใช้สมาร์ทโฟน ใช้อินเทอร์เน็ต แต่มีไลฟสไตล์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งยังคงมีความหลงใหลในการถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร และสมารท์โฟนก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ กล้องมิร์เรอร์เลสยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ทำให้ทุกวันนี้ ตลาดกล้องมิร์เรอร์เลสได้รับความนิยมสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมีการเติบโตขึ้นประมาณ 35-40%เพราะเป็นกล้องที่มีคุณสมบัติรวมความต้องการของผู้ใช้ทั่วไป ตั้งแต่ขนาดบอดี้กล้องที่เล็กและน้ำหนักเบา จึงพกพาได้สะดวก มีฟังก์ชั่นการทำงานครอบคลุม สามารถเปลี่ยนเลนส์เพื่อความหลากหลายในการใช้งาน และให้ภาพที่คมชัดไม่แตกต่างจากกล้อง DSLR มากนัก ดังนั้นการแข่งขันจึงร้อนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ถือเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ ที่จะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพคุ้มค่าที่สุด

สำหรับใครกำลังมองหากล้องถ่ายรูปตัวใหม่ ไม่ว่าจะไว้ถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพวิวตอนไปเที่ยว ถ่ายรูปแสงสียามค่ำคืน อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจ่ายเงินในกระเป๋าออกไป อยากให้ลองสัมผัส Canon EOS M3 กล้องมิร์เรอร์เลสจาก Canon ที่มี 5 คุณสมบัติเด่นไม่เป็นรองกล้องแบรนด์อื่นๆ แน่นอน และนี่คือข้อดี 5 ข้อที่ทำให้ Canon EOS M3 ถ่ายภาพได้ดีกว่ากล้องรุ่นอื่นๆ

1) User Friendly ใช้งานง่าย ถ่ายภาพสวย

ปัจจัยหนึ่งของการเลือกซื้อกล้องสักตัว การใช้งานต้องง่าย ฟังก์ชั่นการทำงานต้องคุ้นเคย เรียกว่า User Friendly สำหรับใครที่ใช้กล้อง Canon DSLR มาแล้ว ถ้าได้ลองใช้ EOS M3 จะรู้สึกเลยว่าไม่แตกต่าง จะรู้สึกคุ้นเคยตั้งแต่ใช้ครั้งแรก หรือถ้าใครที่เริ่มต้นใช้กล้องมิร์เรอร์เลสครั้งแรก EOS M3 ออกแบบให้คล้ายสมาร์ทโฟน ทำงานผ่านหน้าจอ Touch Screen และยังควบคุมผ่านแอพฯ Canon Camera Connect ช่วยให้สะดวกสบาย การออกแบบภายนอกสไตล์วินเทจ ใส่ใจรายละเอียดทั้งการใช้งาน และการออกแบบ

ด้วยตัวกล้องที่มีขนาดเล็ก บางคนอาจจะรู้สึกไม่ถนัด EOS M3 จึงเพิ่มขนาด Grip ให้จับได้ถนัดมากขึ้น ปุ่มชัตเตอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีช่องมองภาพ (View Finder) เป็น Option เสริมและสามารถถอดออกได้ตามความต้องการใช้งาน ขณะที่หน้าจอ LCD ปรับได้ 180 องศา หมดปัญหาสำหรับคนที่ชอบ Selfie หรือถ่ายภาพมุมสูง

ส่วนระบบการ Zoom ของ EOS M3 เป็นแบบ Manual ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับระยะการ Zoom ได้ตามที่ต้องการ (Manual Zoom) และสุดท้ายคือถอดแบตเตอร์รี่ออกมาชาร์จได้ และเปลี่ยนแบตเตอร์รี่สำรองไปเก็บภาพช่วงเวลาสำคัญต่อได้ทันที

2) Ready to Use เด็ดขาด รวดเร็ว ทันท่วงที

คุณสมบัติอีกประการของกล้องมิร์เรอร์เลสคือ สามารถใช้งานได้รวดเร็วไม่ต่างจากกล้องคอมแพ็ค แต่ให้คุณภาพภาพที่ดีกว่า หลายครั้งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมาย EOS M3 มีฟังก์ชั่น Quick Control สามารถเข้าถึงการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว สามารถ่ายรูปภาพผ่านระบบ Touch Screen ได้ทันที

หรือในโหมดปกติ EOS M3 ใช้เวลา Start Time ประมาณ 1.6 วินาที อยู่ในเกณฑ์ที่รวดเร็วพร้อมใช้ หรือจะพักใช้งานโดยไม่ปิดเครื่อง ก็สามารถตั้งเวลาเข้าสู่ Sleep Mode เริ่มต้นที่ 10 วินาที นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงาน ไม่ต้องกลัวแบตเตอร์รี่หมด แต่ก็พร้อมใช้งานได้อย่างทันท่วงที

สำหรับ M Mode manual สำหรับคนที่ชอบการถ่ายแบบกล้อง DSLR ตั้งค่า speed shutter, ค่า F , ISO เพื่อให้ได้ภาพตามความต้องการ สวยงามกว่าระบบ Auto และด้วยความต้องการแชร์ภาพในทันที ทำให้ EOS M3 สามารถเชื่อมข้อมูลกับสมาร์ทโฟนด้วยระบบ NFC หรือ Wi-Fi เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้หลายคนมองหา หรือถ้าจะเชื่อมกับ iPhone ก็สามารถทำได้ด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว (Camera Connect) เป็นระบบ Easy Share ของ EOS M3 ที่สร้างความแตกต่างให้กับ EOS M3 ได้อย่างน่าสนใจ

3) High Quality คุณภาพไฟล์ ดั่งใจนึก ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

ขึ้นชื่อว่า Canon จุดเด่นคือคุณภาพของภาพถ่ายที่ได้ สำหรับ EOS M3 มีจุดเด่นนั้นอยู่อย่างสมบูรณ์ทั้งไฟล์ภาพและวิดีโอ มีคุณภาพไม่ต่างจากกล้อง DSLR ให้สีภาพใกล้เคียงของจริงมากที่สุด เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนแม้ในพื้นที่แสงน้อย หรือในเวลากลางคืน มีการจัดการ ISO & Lowlight ได้ดี ช่วยให้การปรับแต่งรูปทำได้ง่าย

นอกจากนี้ Resolution ของภาพมีความละเอียด สามารถคุม Skin tone ได้ใกล้เคียงความเป็นจริง และสามารถบันทึกภาพแบบ Raw File ได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ใช้ระดับมืออาชีพ ที่เลือกกล้องมิร์เรอร์เลส ไว้ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน การมีระบบบันทึกภาพ Raw File เป็นฟังก์ชั่นที่ขาดไม่ได้เช่นกัน และยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ให้เลือกใช้งานอีกเพียบ เช่น ถ่ายภาพต่อเนื่อง, หน่วงเวลาหรือใช้รีโมท และช่องต่อไมโครโฟน

แน่นอนว่า นอกจากภาพนิ่งแล้ว ความนิยมในการถ่ายวิดีโอเก็บไว้ การแชร์ไฟล์วิดีโอ ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น EOS M3 จึงพัฒนาคุณภาพของวิดีโอ ให้รองรับได้หลายขนาดไฟล์ตามต้องการ เช่น VGA, HD และ Full-HD ปรับภาพได้หลายอัตราส่วน เช่น 3:2, 4:3, 1:1 และ 16:9

4) Focus จับภาพคมชัดฉับไว

กล้องที่จับโฟกัสได้ช้า อาจทำให้พลาดวินาทีสำคัญ นี่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ตากล้องมืออาชีพ รวมถึงนักถ่ายภาพให้ความสำคัญ ซึ่ง EOS M3 ทำงานออกมาได้อย่างน่าพอใจ มีระบบ Face Detection และ Tracking ที่ทำได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอดังนั้นจึงสามารถจับโฟกัสได้ตลอดทุกการเคลื่อนไหว ปรับโฟกัสระหว่างบันทึกวิดีโอ แม้แต่ในพื้นที่แสงน้อย หรือเวลากลางคืน

นอกจากการจับโฟกัสที่รวดเร็วแล้ว EOS M3 ยังคำนึงถึงผู้ใช้มือใหม่ ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยและต้องการพัฒนาฝีมือ มีฟังก์ชั่น Creative Assist มาช่วยในการปรับตั้งค่าต่างๆ ปรับหน้าชัดหลังเบลอ-ความมืดสว่าง-ความเข้มของสีได้ทันที Creative Filter จะช่วยสร้างสรรค์ภาพถ่าย ปรับแต่งได้จากในตัวกล้อง

5) Accessories เติมเต็มทุกความต้องการ

หนึ่งในตัวแปรการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค คือ กล้องมีเลนส์และอุปกรณ์เสริมมาให้เลือกใช้งานอย่างเพียงพอหรือไม่ เพราะความต้องการของผู้ใช้มีความหลากหลาย Canon รู้ถึงรสนิยมที่แตกต่าง จึงได้จัดทัพอุปกรณ์เสริมไว้ ตั้งแต่เลนส์ EFM เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย EF mount adapter เพื่อให้ใช้งานกับเลนส์ EF และ EFS (ที่ใช้สำหรับกล้อง DSLR) แฟลชภายนอก Speedlite EX-Series ในพื้นที่มืด หรือต้องการแสงที่มากขึ้น รองรับการใช้รีโมทคอนโทรล RC-6 รวมถึงตัวรับสัญญาณ GPS และเพิ่มความเท่ด้วย Jacket และสายคล้องหนังสีน้ำตาล

ปิดท้ายเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ในคุณภาพของ Canon EOS M3 กล้องมิร์เรอร์เลส ที่มีฐานการผลิตตัวเครื่องอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น บอกได้เลยว่า EOS M3 เป็นมากกว่ากล้องมิร์เรอร์เลส ถ้าจะมองหากล้องตัวใหม่ ไม่ควรมองข้าม EOS M3 ด้วยประการทั้งปวง