หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ Ashley Madison แต่หากบอกว่ามันคือบริการ “หาคู่” สำหรับคนที่มีแฟนอยู่แล้วคงจะเริ่มอ๋อกันทีเดียวเพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าพวกเขาเพิ่งถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 500 ล้านดอลล่าร์ไปหยกๆเนื่องจากปล่อยให้ข้อมูลรั่วไหลและมีผู้ฆ่าตัวตายจากเหตุนั้น
และนี่จะเป็นอวสานของแอพฯ สุดอื้อฉาวนี้หรือไม่? เรามาตามดูกันดีกว่าครับ
หลังจากข่าวรั่วออกไป ความเปลี่ยนแปลงแรกที่เกิดฟ้าผ่าคือ Noel Biderman CEO คนปัจจุบันต้องถูกปลดกลางอากาศโดย Avid Life Media ให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับความปลอดภัยและยืนหยัดจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความลับของผู้ใช้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม คำยืนยันนี้ดูจะไม่ได้ผลมากนักเมื่อผู้ใช้กว่า 37 ล้านคน (กว่า 31 ล้านรายเป็นชาย) ลดจำนวนอย่างรวดเร็ว เพราะความรู้สึกถูก “หักหลัง” ของผู้บริโภคไม่อาจจางหายไปได้เพียงแค่ปลดผู้นำ
“มันจบไปแล้ว” Greg Monaco ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Monaco Lange กล่าวและว่า การสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งสิ่งที่จำเป็นมากคือความเชื่อใจ ยิ่งสำหรับแอพฯ อื้อฉาวทำนองนี้ด้วยแล้ว เมื่อความน่าเชื่อถือของ Ashley Madison หายไปเช่นนี้การรีแบรนด์กลับมาให้เหมือนเดิมย่อมเป็นไปไม่ได้
เมื่อชื่อแสดงถึงความเป็นคนโกหก
หากอยากรีแบรนด์ สิ่งแรกที่ต้องเปลี่ยนคือชื่อแบรนด์ และต้องพ่วงมากับการโปรโมทเรื่องการจัดการแบบใหม่ ระบบรักษาความลับ และแม้แต่ออฟฟิศแห่งใหม่ พวกเขาต้องรีบทำเพื่ออยู่รอดต่อไป
ฟังดูเหมือนง่ายแต่แท้จริงมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
“ในทางหนึ่ง มันก็เหมือนกับการไปบอกแบงค์หรือร้านขายส่งให้กู้ความเชื่อถือมาหลังจากหักหลังลูกค้าไปนั้นแหละ” Robert Passikoff นักเขียนเทคนิคการตลาดขายดีตลอดกาลกล่าวและว่า ประเด็นคือ Ashley Madison ยังถือเป็นบริการที่อยู่ใน Blue Ocean หรือคู่แข่งน้อยมากดังนั้นการคัมแบคยังพอเป็นไปได้เพราะไม่มีบริการอื่นแทนที่ได้มากนัก
นอกจากนี้ Ashley Madison ยังมีจุดแข็งในการนำ “เรื่องแฟนตาซี” ของผู้ใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องจริง ประสบการณ์ “มีชู้” ซึ่งเป็นเรื่องยากมากๆ ในยุคที่กฏหมายรุนแรงกลับเป็นเรื่องง่ายขึ้นเมื่อทั้งชายหญิงมีใจตรงกัน
มากกว่านั้นกลยุทธ์ที่สำคัญคือต้องพยายามทำให้ภาพของข้อมูลที่ถูกแฮคออกไปนั้นเป็นการ “ถูกกระทำ” Ashley Madison เป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์และถูกองค์กรโรคจิตตามราวีทั้งที่ทำธุรกิจสุจริต และการที่จะทำอย่างนั้นได้ต้องอาศัยพลังของ CEO พอสมควร
แต่เขาถูกปลดออกไปแล้วนี่? นั้นแหละปัญหาใหญ่ในตอนนี้ ดังนั้นสิ่งที่ AM สามารถทำได้ตอนนี้คือการนำเทคโนโลยี จ้างช่างเทคนิคชั้นเซียน และโปรโมททุกทางเพื่อประกาศว่าข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ
และหากจำเป็น อาจต้องรับประกันด้วยอนาคตของบริษัท ขอปิดบริการหากเกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลซ้ำสอง
Source http://www.adweek.com/news/advertising-branding/can-ashley-madison-cheat-death-166624