ในที่สุดศาลสูงของสหรัฐอเมริกาฯ มีความเห็นให้ผู้บริโภคมีสิทธิยื่นฟ้องแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ในคดีว่าด้วย “การผูกขาด บน App Store” ซึ่งมีกลุ่มผู้ใช้ iPhone จำนวนหนึ่งได้ยื่นฟ้อง Apple ว่า การเรียกเก็บส่วนแบ่ง 30% จากการจำหน่ายแอปพลิเคชันผ่าน App Store เสมือนเป็นการเปิดทางให้บรรดาผู้พัฒนาคิดจำหน่ายแอปในราคาสูงขึ้น!
คดีดังกล่าว ได้ต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี 2011 โดยผู้ยื่นฟ้องให้เหตุผลว่า ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งไม่สามารถดาวน์โหลดแอปจากแหล่งอื่นเพราะ iPhone ถูกผูกติดอยู่กับ App Store เท่านั้น ทำให้พวกเขาเลือกจะฟ้องร้องต่อ Apple ในประเด็นผูกขาดทางธุรกิจ
อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นคดีความยืดเยื้อกันมานานเกือบ 9 ปี เนื่องจากทาง Apple เองก็ต่อสู้! ด้วยเหตุผลว่า Apple ไม่ได้ผูกขาดแต่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้พัฒนาและผู้ซื้อแอปเท่านั้น ทั้งยังมองว่าผู้บริโภคไม่มีสิทธิฟ้องร้องบริษัทในประเด็นดังกล่าว แต่ท้ายที่สุด ศาลสูง ก็ตัดสินด้วยคะแนน 5 : 4 เสียง ว่า “ผู้บริโภคมีสิทธิฟ้องบริษัทในประเด็นการผูกขาด เพราะพวกเขาคือผู้ซื้อโดยตรงจาก Apple” และยังระบุว่า นอกจากการผูกขาดธุรกิจจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ยังเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ถึงแม้คำตัดสินจะออกมาในรูปนี้ แต่ Apple ก็เคยชี้แจงเอาไว้ว่า ราคาแอปเป็นสิทธิที่นักพัฒนาเป็นผู้กำหนดเองโดยที่บริษัทไม่มีบทบาทต่อเรื่องดังกล่าว และไม่เคยปิดกั้นการพัฒนาแอปบนแพลทฟอร์มอื่น ๆ แม้แต่ของคู่แข่ง แต่แน่นอนว่า App Store คือช่องทางเดียวสำหรับผู้ใช้ iPhone iPad ในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์
นี่ถือเป็นก้าวใหญ่ที่ Tech Company จะต้องหันมาให้ความสำคัญเรื่องการผูกขาดบนแพลทฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเพียงมีข่าวดังกล่าวออกมา…ก็ส่งผลให้หุ้นของ Apple ร่วงลง 5.3 % ทันที
ที่มา : CNN