ชวนวิเคราะห์ทำไม Bitcoin มาเร็ว ไปเร็ว แล้วทำไมไม่มีผลต่อเศรษฐกิจทั้งที่อัตราการลงทุนปรับตัวรวดเร็ว

  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  

สำหรับคนที่ลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) คงเป็นที่ทราบว่า ช่วงปลายปีที่ผ่านมาลากยาวมาถึงต้นปีนี้ราคาของเงินดิจิทัลปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเงินสกุล Bitcoin เรรียกว่าแทบเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำเอาคนที่ถือ Bitcoin สามารถสร้างกำไรจากอัตราการเปลี่ยนแปลงของมูลค่า Bitcoin ได้อย่างมาก ส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เติบโตขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Dogecoin เป็นต้น โดยหลักการลงทุนในเงินดิจิทับไม่ต่างไปจากการลงทุนค่าเงิน ที่ซื้อเก็บไว้ช่วงมูลค่าลดต่ำลงและขายออกในช่วงที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยขึ้นกับความต้องการของตลาด

 

จีนป่วนตลาดเงินดิจิทัล

ต้องยอมรับว่า การออกมาประกาศของ Elon Musk ในการสนับสนุนให้สามารถใช้เงินดิจิทัลในการซื้อขายรถยนต์ Tesla ได้ รวมถึงการเข้าไปลงทุนในเงินสกุล Dogecoin ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวอย่างมากในประเทศจีน ทำให้หลายคนเริ่มหันมาเก็บเงินดิจิทัลทั้ง 2 สกุลดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และเป็นเหตุผลที่ทำให้มูลค่าของเงินดิจิทัลทั้ง 2 สกุลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อานิสงส์นี้ยังทำให้เงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ ทั่วโลกเติบโตขึ้นตามไปด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มูลค่าของ Bitcoin ขยับเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ

การออกมาสนับสนุนเงินสกุลดิจิทัลของ Elon Musk ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสนับสนุนตลาดของ Tesla ในประเทศจีน หลังจากการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เทสล่าในประเทศจีน ส่งผลให้มีการจำหน่ายรถยนต์ Tesla อย่างแพร่หลายทั้งในจีนและประเทศในภูมิภาค และช่วยให้สร้างยอดขายรถยนต์ Tesla ในตลาดของประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิก จนส่งผลให้รัฐบาลจีนเริ่มหันมามองเงินสกุลดิจิทัล ถึงขนาดมีแผนในการสร้างเงินดิจิทัลสกุล “หยวนดิจิทัล” ขึ้นมาใช้

แต่แล้วเมื่อ Elon Musk ประกาศยกเลิกการใช้เงินสกุลดิจิทัลในการซื้อขายรถยนต์ Tesla ด้วยเหตุผลที่ว่า Bitcoin เป็นต้นเหตุในการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุด Bitcoin กลายเป็นที่แพร่หลายมากในประเทศจีน ซึ่งการขุด จำนวนมากจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น และโรงงานไฟฟ้าในประเทศจีนส่วนใหญ่ยังคงใช้พลังงานจากถ่านหิน ซึ่งปลดปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก ทันทีที่ Elon Musk มูลค่าของ Bitcoin ก็ร่วงหล่นทันที โดยช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ

 

เป็นการทุบ Bitcoin อย่างนั้นหรือ

เหตุผลของ Elon Musk ในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ได้ให้เหตุผลว่า รถยนต์ Tesla เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป้าหมายของ Tesla คือการลดการปล่อยมลพิษบนท้องถนน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนเงินดิจิทัลสกุล Bitcoin ที่มีส่วนในการสร้างมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม จึงไม่อาจไปด้วยกันได้ ขณะที่ผู้เชี่ยววชาญด้านสิ่งแวดล้อมและนักลงทุนหลายคนทั่วโลกต่างออกมาเห็นแย้งกับ Elon Mask ถึงขนาดที่มีการกล่าวว่า เหมืองขุดทองคำยังมีการปล่อยมลพิษมากโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ในขณะที่หลายมหาวิทยาลัยทั่วโลก มองว่า Bitcoin อาจจะสามารถสร้างมลพิษได้สูงอย่างที่ Elon Mudk กล่าว โดยมีการพบว่า การขุด Bitcoin เป็นจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อการปล่อยมลพิษที่สูงใกล้เคียงกับประเทศกำลังพัฒนาอย่าง ศรีลังกา แต่การขุด Bitcoin เหล่านั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับการขุด Bitcoin เช่นพลังงานน้ำ, พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานความร้อนใต้พิภพ เป็นต้น ซึ่งพลังงานเหล่านี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่มีการปล่อยมลพิษออกสู่ชั้นบรรยากาศโลก

แม้หลายคนจะหวั่นเกรงว่านี่คือการทุบ Bitcoin เพื่อให้มูลค่าเงินดิจิทัลลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่าค่าเงินดิจิทัลจะลดลง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เนื่องจากเงินดิจิตอลยังไม่ใช่ปัจจัยหลักของเศรษฐกิจแต่ละประเทศ แต่เป็นเพียงการลงทุนของนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม และในปัจจุบันยังไม่มีการใช้เงินดิจิทัลในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ ทำให้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจทั่วโลก

 

ทำความรู้จักเงินดิจิทัล

เป็นที่ทราบว่า Bitcoin มีการลงทุนไม่ต่างอะไรไปจากการลงทุนค่าเงินปกติ ซึ่งสามารถหาเงินจริงจากสกุลเงินอื่นๆ ทั่วโลกได้จากการทำธุรกิจ เช่น การส่งออก แต่สำหรับเงินดิจิทัลจะใช้วิธีการ “ขุด” ซึ่งการขุดนี้จะต้องใช้คอมพิวเตอร์สเปคเทพที่มีการประมวลผลเร็ว ความเร็วเครื่องที่สูง เพื่อช่วงชิงโอกาสจากนักขุดรายอื่นๆ พูดง่ายๆ ใครเร็วกว่าก็คว้าเงินดิจิทัลไป

ซึ่งเงินดิจิทัลไม่สามารถพิมพ์ออกมาได้เหมือนธนบัตร แต่เงินดิจิทัลเป็นรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการคำนวนสมการทางคณิตศาสตร์ โดยเงินดิจิทัลถูกสร้างจากสมการคอมพิวเตอร์และมีข้อจำกัดในการสร้าง และถูกนำมาใช้เพื่อทดแทนการทำงานทางคอมพิวเตอร์ โดย ซาโตชิ นากาโมโตะ เป็นคนแรกที่คิดระบบนี้ขึ้นมา

ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ได้ Bitcoin มา เช่น ในวง Blockchain จำเป็นต้องมีผู้ตรวจสอบการทำธุรกรรมในวงว่าเป็นธุรกรรมที่ถูกต้องหรือไม่ ผู้ที่เข้ามาตรวจสอบจะมีจำนวนมาก แต่ผู้ที่ตรวจสอบเสร็จและถูกต้องครบถ้วนจะเป็นคนที่ได้ Bitcoin ไปเป็นผลตอบแทนเสมือนค่าจ้างในการตรวจสอบธุรกรรม และสามารถนำ Bitcoin นั้นไปขายหรือเก็บไว้ลงทุน

ยิ่งไปกว่านั้นตามหลักการของ ซาโตชิ นากาโมโตะ ต้องการให้เงินดิจิทัลใช้ทดแทนเงินจริงที่มีอยู่ โดยให้นำมาใช้ในระบบออนไลน์แทนเงินจริงเพื่อซื้อขาายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ แต่เนื่องจากยังไม่เป็นที่ยอมรับจากสถาบันทางการเงินต่างๆ จากทั่วโลก ทำให้ Bitcoin และเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ เป็นเพียงสินทรัพย์ทางดิจิทัลเท่านั้น โดยต้องอาศัยการเทียบค่ากับเงินจริง

 

Source: Japan Today


  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา