เจ้าพ่อ Meta อัพเดทผ่าน Facebook Post กับทิศทางที่จะลงทุนหลักทั้ง 7 ด้านตลอดปี 2022

  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมาที่ Facebook ได้เปลี่ยนชื่อองค์กรให้เป็น Meta เพื่อมุ่งสู่โลกแห่งอนาคตอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะ Metaverse โดยเซ็ตภาพลักษณ์บริษัท ไม่ให้ Facebook กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักของ Meta อีกต่อไป ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.พ.65) มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก CEO ของบริษัท Meta ได้โพสต์อัพเดททิศทางของธุรกิจตลอดปี 2022 ผ่าน Facebook ส่วนตัว

เขาได้พูดว่า “หากปีที่แล้วมองว่าเป็นเรื่องของการเดิมพันในสิ่งที่เรากำลังมุ่งหน้าทำ สำหรับปีนี้จึงมองว่าเป็นช่วงแห่งการดำเนินการ”

โดยเนื้อหาในโพสต์ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้พูดถึงทิศทางธุรกิจของ Meta ว่าตลอดทั้งปีนี้จะมุ่งหน้าสู่การลงทุนทั้ง 7 ด้านเป็นหลัก ก็คือ

  • Reels (วิดีโอสั้นๆ บน Instagram)
  • ฟังก์ชั่นการส่งข้อความ
  • คอมเมิร์ซ
  • การโฆษณา
  • ระบบความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัว
  • เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
  • Metaverse (โลกเสมือนจริง)

 

โดยกพูดย้ำว่า “ทั้ง 7 ด้านเหล่านี้คือด้านที่เชี่ยวชาญของ Meta และจะเพิ่มงบประมาณเพื่อพัฒนาต่อไปมากขึ้นในปีนี้”

ซัคเคอร์เบิร์ก ยังพูดถึงผลกระทบที่มีต่อธุรกิจของ Meta ในมุมมองของเขา โดยมีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ ด้วยกัน

“เรื่องแรกก็คือ การแข่งขันเพราะปัจจุบันมีตัวเลือกใหม่มากมายและทางเลือกที่ผู้บริโภคจะใช้เวลากับมัน หนึ่งในนั้นก็คือ TikTok ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมวกเขาต้องให้ความสำคัญกับ Reels มากขึ้นในระยะยาว และต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขามีแพลตฟอร์มที่เป็นบริการที่ดีที่สุดของคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะฟีเจอร์การโทร”

“เรื่องที่ 2 คือ ในเมื่อเราปักธงไปที่การพัฒนา Reels ให้ดีขึ้น ดังนั้นในตอนนี้เราจึงอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงบริการของเราไปสู่รูปแบบวิดีโอสั้น เช่น Reels หมายความว่า กิจกรรมต่างๆ ที่ใช้สื่อสาร และเป็นพื้นที่ที่สื่อใช้กันอาจจะเปลี่ยนจากการ Feed ข่าวต่างๆ มาอยู่ในรูปแบบ Reels มากขึ้น และมองในเรื่องของการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นในหลายๆ ส่วนด้วย”

“ถึงแม้ว่าวิดีโอสั้นอาจสร้างรายได้ช้ากว่าฟีเจอร์ Feed หรือ Stories หากเทียบกับปัจจุบัน แต่ผมมองโลกในแง่ดีและเชื่อว่าวิดีโอสั้นจะสร้างรายได้ที่ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน”

“เพราะในที่สุดแล้วผลิตภัณฑ์ของเราจะประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับวู้ใช้มองเห็นคุณค่าและความสนุกของมันมากแค่ไหน แม้ว่าในตลาดการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นแต่เราพยายามทำความเข้าใจ และเดินตามกลยุทธ์ของเราที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีที่สุดให้”

ทั้งนี้ ซัคเคอร์เบิร์ก ได้พูดยกตัวอย่างถึงฟีเจอร์ Reels วากำลังพัฒนาและปรับปรุงอย่างไรบ้าง อย่างเช่น ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง, การจัดอันดับครีเอเตอร์ตาม personality และมองไปถึงการสร้างรายได้ที่คุ้มค่าและดึงดูดสำหรับคนที่สร้างคอนเทนต์

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ซัคเคอร์เบิร์ก ได้อัพเดทด้วยว่าขณะนี้ Meta กำลังร่วมมือกับบริษัทต่างๆ เช่น Uber และ Jiomart เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจองรถผ่านแชทใน Facebook หรือ Instagram ได้ นอกจากนี้ Meta กำลังสร้างเครื่องมือใหม่สำหรับการซื้อขายทางออนไลน์ที่สะดวกขึ้น ทำให้ร้านค้าจัดระเบียบธุรกิจของพวกเขาได้ ซึ่งเชื่อว่าด้านคอนเมิร์ซจะเป็นอีกขาหนึ่งที่สำคัญมากของ Meta ในปีต่อๆ ไป

หรือแม้แต่ทางด้าน Privacy (ความเป็นส่วนตัว) ซึ่งเคยเป็นประเด็นร้อนแรงของ Facebook มาก่อนจนทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ใช้ลดลงไปช่วงหนึ่ง ซัคเคอร์เบิร์ก ได้พูดเปรยว่า “เราได้ลงทุนมหาศาลในการเสริมสร้างแนวทางความเป็นส่วนตัว รวมถึงการสร้างโปรแกรมความเป็นส่วนตัวขึ้นมาใหม่ และกระบวนการตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของเรา อีกทั้งยังรับปรุงการสำรองข้อมูลที่ต้องเข้ารหัสแบบ end-to-end

“หรืออย่างการลงทุนใน Metaverse ซึ่งที่จริงก็เคยพูดไปบ้างแล้ว โดยเราจะมุ่งเน้นไปที่ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างอินเทอร์เน็ตที่สมจริง เพื่อพัฒนาประสบการณ์สังคมดิจิทัลให้ดีกว่าสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน”

“และขณะนี้เรากำลังพัฒนาชุดหูฟังเสมือนจริงระดับไฮเอนด์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งกำลังพัฒนา Project Nazare ซึ่งเป็นแว่นตาจริงเสมือนรุ่นแรกของ Meta ที่ถือว่ามีความก้าวหน้ามากที่สุดจากที่เคยทดลองและพัฒนา”

และนี่คือบางประโยคบางคำพูดของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จากโพสต์ทั้งหมดซึ่งหากใครที่อยากอ่านฉบับเต็มๆ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ Facebook: Mark Zuckerberg แต่เท่าที่สรุปมาให้เห็น vision ที่ชัดเจนมาก ซึ่งตลอดทั้งปีนี้เราคงได้เห็นฟีเจอร์ ฟังก์ชั่น หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จาก Meta กันแน่ๆ

Credit: www.facebook.com/zuck

 

 

 

ข้อมูลโดย Facebook: Mark Zuckerberg

 


  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  
prakai
'ชีวิต' ต้องมีสีสันหลากหลาย เหมือนกับความรู้ที่มีหลายมิติ ทั้งไลฟ์สไตล์, การตลาด, ดิจิทัล, ประเพณี-วัฒนธรรม