เจาะข้อมูลอินไซต์ 5 เรื่องที่แบรนด์ต้องรู้ก่อนทำการตลาดจาก Nielsen

Credit: Nielsen Consumer Media View (CMV)

ในแต่ละปีแบรนด์หรือธุรกิจจำเป็นต้องอัพเดทข้อมูลอินไซต์ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ ‘ผู้บริโภค’ โดย Nielsen ได้ย้ำว่า การพร่ระบาด COVID-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค

ดังนั้น ผลสำรวจเกี่ยวกับข้อมูลผู้บริโภคแบบรอบทิศ 360 องศา จาก Nielsen Consumer Media View (CMV) ที่เจาะจงเฉพาะ Consumer Insight ล่าสุดจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 9,000 คน มีข้อมูลน่าสนใจจะสรุปให้อ่านกัน โดยพบว่ามี 5 ข้อมูลอินไซต์ที่สำคัญ และแบรนด์ควรต้องรู้ก่อนที่จะวางกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไป

Consumer Profile (ใครคือผู้บริโภค?)

อย่างที่รู้ๆ กันว่าในปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจเกิดขึ้นมากมายและสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งยังกระจัดกระจายขยายตัวมากขึ้น ดังนั้น ความเข้าใจผู้บริโภคจะทำให้แบรนด์หรือธุรกิจเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วที่สุด ซึ่งข้อมูลจากตัวเลขประชากรสามารถช่วยได้อย่างหนึ่งในการค้นพบกลุ่มลูกค้าที่แท้จริง และยังช่วยจำกัดวงให้แคบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อีกทั้งจะช่วยไม่ให้แบรนด์หลงทางว่ากำลังจะสื่อสารกับใคร ให้สามารถตรวจสอบพฤติกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าหรือคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับกลุ่มที่ต้องการมากขึ้น

Consumer Habits (พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างไร?)

การแพร่ระบาดถือว่าเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดวิถีชีวิต New Normal ซึ่งเป็นปัจจัยให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากเดิมที่ลูกค้าอาจจะเคยซื้อของเราทุกวัน ก็เปลี่ยนมาเป็นซื้ออาทิตย์ละครั้ง ส่วนหนึ่งเพราะว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงผู้บริโภคเปลี่ยนช่องทางการซื้อขายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งสำหรับ Nielsen มองว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่เป็นความท้าทาย แต่สามารถเป็นโอกาสสำหรับหลายธุรกิจได้ ซึ่งข้อมูลเชิงลึกทางด้านการบริโภคและอุปโภคจะช่วยทำให้เห็นว่าลูกค้าของแบรนด์เราเป็นอย่างไร และเข้าใจแนวโน้มของการจับจ่ายใช้สอยในอนาคต

Consumer Lifestyle (รู้ทันว่าผู้บริโภคชอบอะไร?)

แบรนด์จำเป็นต้องรู้ทันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมที่ผู้บริโภคทำผ่านกิจกรรมหรือความสนใจ หรือแม้แต่งานอดิเรก หนังที่ดู การเข้าสังคม การพักผ่อน รวมถึงพฤติกรรมการเสพสื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถต่อยอดทำให้เกิดประโยชน์ในการสร้างความสัมพันธ์เเละเชื่อมโยงระหว่างผู้บริโภคกับเเบรนด์ได้ เมื่อแบรนด์เข้าใจว่าผู้บริโภคสนใจหรือชอบอะไร แบรนด์จะสามารถสร้างความสนใจหรือดึงดูดผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น กลยุทธ์นี้ถือว่าเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างโอกาสในการดึงลูกค้าใหม่ในเวลาเดียวกัน

Consumer Mindset (คิดตามผู้บริโภค)

ในยุคที่โซเชียลมีเดียค่อนข้างมีอิทธิพลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภค ดังนั้น การรู้ทันและคิดตามแบบผู้บริโภคถือว่าเป็นสิ่งที่แบรนด์จะต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่การรับรู้ว่าผู้บริโภคคิดอย่างไรกับแบรนด์ แต่รวมถึงประเด็นทางสังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ฯลฯ ซึ่งความเข้าใจเหล่านี้จะทำให้นักการตลาดทำงานง่ายขึ้น สามารถนำประเด็นเหล่านี้ไปต่อยอดหรือหลีกเลี่ยงการทำแคมเปญที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

Consumer Perception (มุมมองผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์)

เป้าหมายสูงสุดของแบรนด์ในการสร้าง Brand Awareness ก็คือการทำให้ผู้บริโภครับรู้ หรือเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ การเป็น Top-of-mind ของผู้บริโภค (นึกถึงแบรนด์นี้เป็นอันดับแรกๆ ที่อยากจะซื้อหรือใช้บริการอะไร) ซึ่งข้อมูลเรื่องการรับรู้แบรนด์จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมในอุตสาหกรรม เช่น แบรนด์ไหนคือคู่แข่งหลัก หรือคู่แข่งรองของเรา โดย Nielsen CMV ได้ทำการสำรวจการรับรู้แบรนด์ในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดยมีการถามเกี่ยวกับแบรนด์ที่ผู้บริโภคใช้, แบรนด์ที่พวกเขานึกถึง และแบรนด์ที่อยากแนะนำต่อ

สิ่งที่น่าสนใจที่พบ ก็คือ “มีหลายแบรนด์ที่ผู้บริโภคใช้ แต่เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคไม่แนะนำต่อ” จากการสำรวจนี้ทำให้เห็นว่า ในตลาดถือว่ายังมีตัวเลือกสำหรับผู้บริโภคไม่มากนัก ซึ่งเป็นโอกาสให้กับแบรนด์ใหม่ที่จะลองเข้ามาเล่นในตลาดการแข่งขันนี้มากขึ้น

อินไซต์ตลาด ‘ประกันภัยรถยนต์’

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจจาก Nielsen CMV ซึ่งการสำรวจในไตรมาส 3/2564 มีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับผู้ถือประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูงมาก และยังมีช่องว่างให้แบรนด์ได้ลองกับการสื่อสารทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงอินไซต์พฤติกรรมผู้บริโภคยังแสดงให้เห็นว่า “พวกเขาพร้อมที่จะเปิดใจรับกับสิ่งใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ทางเลือกใหม่”

ทั้งนี้ มีข้อมูลบางส่วนจากการสำรวจที่ Nielsen CMV ได้หยิบมาแชร์เกี่ยวกับตลาดประกันภัยรถยนต์ (จาก diagram ที่แชร์ข้างบน) ซึ่งสอดคล้องกับ 5 ข้อมูลอินไซต์ที่ได้อัพเดทไปช่วงต้นๆ บทความ อย่างเช่น

Consumer Profile = ผู้ถือประกันภัยรถยนต์ในไทยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง (ประมาณ 51%)
Consumer Habits = ผู้ซื้อประกันภัยรถยนต์เลือกใช้ช่องทางซื้อออนไลน์มากกว่าออฟไลน์อยู่ที่ 46%
Consumer Lifestyle = ผู้ถือประกันภัยรถยนต์ 57% ชอบที่จะใช้เวลาว่างในการดูทีวี (อินไซต์นี้มีประโยชน์กับการโฆษณา/การสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย)
Consumer Mindset = ผู้ถือประกันภัยรถยนต์ 58% ยอมรับและเปิดใจกับ LGBTQ+ (อาจจะมองในแง่ของตัวแทนจำหน่ายก็ได้)
Consumer Perception = มีเพียง 3 แบรนด์ (3%) ที่ผู้บริโภคนึกถึงและพิจารณาที่จะใช้

เคสของธุรกิจประกันภัยรถยนต์ที่ Nielsen CMV ได้ยกตัวอย่าง เห็นได้ชัดว่าการที่แบรนด์เข้าใจและรับรู้อินไซต์ต่างๆ ก่อนที่จะทำการตลาด มีข้อดีและประโยชน์มากมาย ดังนั้นพูดได้ว่า Consumer Insight ถือเป็นกุญแจสำคัญอีกด้านที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาวได้

ข้อมูลโดย Nielsen Consumer Media View (CMV)