บางทีโลกเราก็กลับตาลปัตรเอาดื้อๆ โดยเฉพาะโลกของแฟชั่น เทรนด์จากพฤติกรรมต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนไปตามสภาวการณ์ในทุกๆ วัน บางกระแส บางเทรนด์ที่เคยหายไปแล้ว ก็กลับมาในคราบของ เรโทร สไตล์ (Retro style) ซะอย่างนั้น ยิ่งในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนักของไวรัส Corona ที่ลากยาวมากว่า 5 เดือน ยิ่งทำให้ความอัดอั้นที่จะเป็นอิสระ ได้ทำกิจกรรมอะไรแบบปกติก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของหลายๆ ประเทศ ประเมินไว้ว่า กว่าที่กิจกรรมในรูปแบบเดิมจะกลับมาทำได้ตามปกติก็คงจะเป็นปลายปี 2021 ถึงแม้ว่าจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ หรือมาตรการป้องกันอื่นๆ ก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ‘ต้องใช้เวลา’
ดังนั้น ความอัดอั้นที่ว่ามานั้น จึงระเบิดตัวขึ้นในที่สุด กลายเป็นกิจกรรมแบบเรโทร back to basic อีกครั้ง ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกเริ่มให้ความนิยมมากขึ้น นั่นก็คือ ‘Drive-in’ ตั้งแต่การสร้างประสบการณ์ Drive-in แปลงโฉมเป็นโรงภาพยนตร์ คอนเสิร์ต จนแพร่หลายไปสู่วงการ แฟชั่นโชว์
โรงภาพยนตร์ ‘Drive-in’ กำเนิดขึ้นก่อน WWII
เราขอพาย้อนเวลาไปสัก 105 ปีเป็นไง เพราะความจริงแล้วกระแสการ Drive-in สำหรับ ‘โรงละคร’ เรียกได้ว่าเกิดขึ้นเป็นยุคแรกๆ ตั้งแต่ปี 1915 ที่รัฐนิวเม็กซิโก รัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะเพิ่มบริการแบบใหม่เป็นโรงภาพยนตร์ Drive-in ซึ่งเกิดขึ้นตามมาทีหลัง ในปี 1933 ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ และหลังจากนั้นวัฒนธรรมดังกล่าวก็เริ่มขยายออกไปรัฐต่อรัฐเกือบทั่วประเทศ ทั้งในแคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา, รัฐเมน, แมริแลนด์, แมสซาชูเซตส์, มิชิแกน, นครนิวยอร์ก, เท็กซัส และเวอร์จิเนีย เป็นต้น
ขณะที่ในปี 1950 กระแส Drive-in theater ได้ขยายวัฒนธรรมไปถึง ‘ออสเตรเลีย’ เกิดขึ้นในเมลเบิร์นเป็นเมืองแรก ก่อนที่ขยายไปสู่เมืองอื่นๆ ระบาดไปทั่วประเทศด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในปี 2018 ข้อมูลระบุว่า Drive-in theaters มีกว่า 300 แห่งกระจายอยู่ทั่วโลก ส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่ในสหรัฐฯ และเปิดให้บริการนอกอเมริกาไม่กี่แห่ง ทั้งนี้ สำหรับประเทศในเอเชีย – เกาหลีใต้ ได้รับอิทธิพลอเมริกันมาเต็มๆ เพราะเป็นประเทศแรกๆ ที่นำเทรนด์โรงภาพยนตร์แบบ Drive-in เข้ามาก่อน โดยสังเกตว่าประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวแบบติดลบ จะชื่นชอบวัฒนธรรมการดูหนังแบบ Drive-in เอามากๆ
COVID-19 ชุบชีวิตประสบการณ์ ‘Drive-in film’ อีกครั้ง!
Andrew M. Cuomo ผู้ว่าการนครนิวยอร์ก ได้กล่าวกับ Wunderman Thompson ว่าก่อนหน้านี้ บริการแบบ Drive-in แม้ว่ายังอยู่ในสหรัฐฯ หลายๆ เมืองและทั่วโลก แต่กระแสตอบรับนั้นเพื่อเสิร์ฟเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น อย่างกลุ่มคนนิยมความ Retro แต่ในระหว่างที่มีการระบาดอย่างหนักของไวรัส COVID-19 ทำให้กระแสการ Drive-in เป็นไวรัล ได้รับความนิยมแบบ worldwide มากขึ้น
“ผู้คนยังสามารถทำกิจกรรมโปรดได้ ขณะเดียวกันความเสี่ยงในการติดเชื้อก็อยู่ในระดับต่ำด้วย” ทั้งยังคาดการณ์ว่า ประสบการณ์ Drive-in น่าจะกลับมา หรือได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะความไม่ปกติของสถานการณ์สร้างพฤติกรรมใหม่ให้กับผู้บริโภค
โดยในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์ Atlanta’s Plaza ในสหรัฐฯ ได้ปิดตัวลง แต่กลับเปิดโรงภาพยนตร์แบบ outdoor รูปแบบ Drive-in ขึ้นหลังจากนั้น ขณะเดียวกัน ‘อิรัก’ ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดตัวโรงภาพยนตร์แบบใหม่นี้ขึ้น ในปีนี้ หลังจากที่มีการรระบาดของไวรัสได้ไม่นาน
นอกจากนี้ ยังมีหลายประเทศที่นำรูปแบบการ Drive-in โรงภาพยนตร์เข้ามาในช่วงที่มีการระบาดนี้ ได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ลิธัวเนีย, ดูไบ, เมืองอาบูจา และ ลากอส ในประเทศไนจีเรีย
กระแสไม่เอาท์! ‘Drive-in concert’ กำลังมา
อีกฝากหนึ่งของโลกที่กำลังได้รับความนิยมกับประสบการณ์ Drive-in อีกหนึ่งรูปแบบใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นใน ‘เดนมาร์ก’ นั่นก็คือ Drive-in concert ไอเดียนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเดนมาร์กประกาศปิดเทศกาลดนตรีได้ไม่นาน ก็อย่างว่ากิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความเครียด ความกังวลที่ง่ายที่สุด ‘การฟังเพลง’ ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมนั้นด้วย ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์เองก็มีสกิลการดิ้นรนเพื่อสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่สูงมากๆ
โดยเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีงานคอนเสิร์ตหนึ่งเกิดขึ้นในย่านชานเมืองออฮุส (Aarhus) โดยศิลปิน แมดส์ แลงเกอร์ (Mads Langer) และทีมงาน ซึ่งการแสดงคอนเสิร์ตของเขาถือว่าเป็นการแสดงชุดแรก ที่มีการใช้พื้นที่บริเวณกว้างสำหรับกิจกรรมที่ทำได้ในรูปแบบ Drive-in เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ Social distancing นั่นเอง ซึ่งดูจากกระแสตอบรับจากการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต กว่า 500 ใบ ที่ขายหมดเกลี้ยงทันทีที่มีการประกาศการจัดงาน ก็น่าจะพอเดาๆ ได้ว่า Drive-in experience ในธุรกิจอื่นน่าจะดีไม่น้อยเลยในเดนมาร์ก
นอกจากนี้ ในเยอรมนี ก็มีการจัดไนต์คลับแบบ Drive-in ขึ้นด้วยตอบ need ของคนสายเฮฮาชอบตี้ โดยพวกเขาเรียกมันว่า ‘Autodisco’ รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 250 คัน แต่ยังตอบรับมาตรการของรัฐบาลที่ให้ปราศจากแอลกอฮอล์นั่นเอง
วงการแฟชั่นก็รับ New Norm ด้วย ‘Drive-in fashion week’
ใครจะนึกจะฝันว่า แฟชั่น ก็นึกสนุกรับ New Norm ด้วยการจัดงานแบบ Drive-in ด้วยเหมือนกัน โดยไอเดียนี้เริ่มต้นขึ้นจาก ‘เคอร์บี้ จีน-เรย์มอนด์’ (Kerby Jean-Raymond) แฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังของอเมริกา ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Pyer Moss ได้ประกาศเตรียมจะจัดงาน ‘New York fashion week’ ในเดือนก.ย. ที่จะถึงนี้
“ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และเราไม่มีทางรู้ว่า การาระบาดจะจบลงเมื่อไหร่ อีกอย่างก็คือ ไวรัสจะกลับมาสร้างหายนะซ้ำอีกมั้ย สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้น นอกเหนือจากที่เราเห็นการปรับตัวผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมบางอย่าง กิจกรรมบางประเภทยังจำเป็นที่จะต้องใช้วิธี offline อยู่เพื่อกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทางนี้” Justin Bolognino ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Meta
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ |
นิวนอร์มัลปฏิวัติบ้านผีสิง! ญี่ปุ่นชวนไดร์ฟ-อินไปหลอนในรถที่ Drive-in Haunted House |
กระแส ‘Drive-in’ บ้านผีสิงในญี่ปุ่น
หากจะพูดว่ากิจกรรมสนุกๆ ที่ช่วยคลายเครียดของใครหลายคนคือ ‘บ้านผีสิง’ ก็คงไม่ผิดอะไร เพราะเป็นความชอบส่วนบุคคล ซึ่งผู้ประกอบการญี่ปุ่น คิดไอเดียเก๋ๆ ผุดกิจกรรมสนุกๆ ต้อนรับช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งโดยปกติญี่ปุ่นมักจะมีกิจกรรมหลายๆ อย่างเพื่อให้ทุกคนมาร่วมสนุกกันในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล เช่น ดอกไม้ไฟ และนั่งดูภาพยนตร์แอนนิเมะเรื่องใหม่ด้วยกัน
แต่เพราะการระบาดของไวรัส และทุกคนยังต้อง keep Social distancing อยู่เช่นเดิม กิจกรรมเหล่านั้นจึงถูกพับไป เพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งในกิจกรรมแปลกใหม่แหวกแนวมากๆ โผล่ขึ้นมาเพื่อรับพฤติกรรม New Norm นั่นก็คือ ‘Drive-in haunted house’ หรือ บ้านผีสิงในรูปแบบ Drive-in ซึ่งเป็นที่แรกของโลก
ทั้งนี้ ราคาบัตรเพื่อเข้าชมบ้านผีสิง Drive-in ดังกล่าว อยู่ที่ 8,000 เยนต่อคัน (ราว 2,307 บาท) ซึ่งจะครอบคลุมทุกคนที่อยู่ในรถทั้งหมด และในแต่ละรอบจะใช้เวลาทัวร์ความสนุกที่ประมาณ 20 นาที
โดยผู้ที่สนใจจะต้องจองผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่ง Drive-in บ้านผีสิงจะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 4-5 ก.ค.นี้เท่านั้น
ที่มา : wundermanthompson, wikipedia, soranews24