สำหรับปี 2021 Data ที่ล่องลอยอยู่โลกดิจิทัลทั้งหมดยังนับว่าเป็น ทรัพย์สมบัติชั้นดีของธุรกิจทั้งหลาย เพราะ Data ยังจำเป็นมากสำหรับการต่อยอดมาร์เก็ตติ้ง หรือกลยุทธ์ธุรกิจในด้านต่างๆ
ทั้งนี้ Digital Trends Report 2021 จาก Adobe ที่จัดทำร่วมกับ Econsultancy ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นของบุคลากรฝ่ายการตลาด โฆษณา อีคอมเมิร์ซ และไอที จำนวน 13,000 คนทั่วโลก (ทั้งออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อินเดีย และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) พบว่า ตลอดที่ทำการศึกษามา 11 ปีติดต่อกัน จะเห็นว่าธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) รวมถึงทั่วโลกให้ความสำคัญกับความสามารถของดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้บริโภคทุกช่วงอายุมีพฤติกรรมที่ใช้ดิจิทัลขับเคลื่อนชีวิตประจำวัน ในอัตราที่เพิ่มขึ้นตลอด 5-10 ปีข้างหน้าตามการประเมินเบื้องต้น อย่างในเอเชีย 58% ที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมาก และ 56% ในออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ (โดยเฉลี่ย)
สำหรับพฤติกรรมในปี 2020 ของผู้บริโภคในเอเชียที่น่าสนใจ และโดดเด่นกว่าในออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อย่างเช่น
-
เส้นทางของผู้บริโภค (Customer Journey) ตั้งแต่ก่อนจะเป็นลูกค้า จนตัดสินใจซื้อ และกลับมาซื้อซ้ำ
-
โอกาสที่จะเพิ่มหรือดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ (new prospects/customers)
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมที่ไม่คาดคิด ปรับเปลี่ยนอย่างเร็วตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ดังนั้น Data เหล่านั้นที่มาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยน(อย่างรวดเร็ว) ต้องย้อนมาถามว่าธุรกิจในเอเชียมีความพร้อมเรื่องความสามารถของดิจิทัลเพียงพอแค่ไหน
รายงานล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์ดิจิทัลของ Adobe ได้สรุปทักษะที่มองว่า ธุรกิจในเอเชียยังขาดแคลนอยู่เกี่ยวกับ Data ซึ่งมีผลมาถึง CX หรือ ประสบการณ์ของลูกค้า อย่างที่ คุณไซม่อน เดล กรรมการผู้จัดการอะโดบี ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พูดว่า “การจัดเก็บข้อมูล, ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เป็นสิ่งที่องค์กร/ธุรกิจให้ความสำคัญมากที่สุดในปี 2021”
พูดง่ายๆ คือ Key Success ที่สำคัญมากๆ ในยุคดิจิทัลนี้ ก็คือ ข้อมูลนี้แหละ แต่อยู่ที่ว่าเราจัดการกับชุดข้อมูลถูกต้องหรือไม่ และต่อยอดวิเคราะห์ได้ถูกจุดหรือไม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพรวมของธุรกิจในเอเชียในปี 2020 ปัจจัยของ COVID-19 ทำให้ธุรกิจ/องค์กรทั่วโลกปรับตัวเร็ว เคลื่อนตัวไว อย่างที่ผลศึกษาได้ยกตัวอย่าง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่สำหรับเอเชีย ยังถือว่าขาดทักษะอยู่มากในการปรับตัวในเรื่องนี้
5 ทักษะที่ธุรกิจในเอเชียยังขาดสำหรับการใช้ Data
-
ความแม่นยำของข้อมูลเชิงลึก (Accuracy of insights)
-
ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Actionability of insights)
-
ความเร็วในการรับข้อมูลเชิงลึก (Speed of getting insights)
-
การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของด้านการตลาดในองค์กร (Access to insights across marketing organization)
-
การสร้างการทดสอบทฤษฎี/กลยุทธ์นั้นๆ ก่อนใช้ในสนามจริง (Building experiments to test insights in field)
ดังนั้น สิ่งที่ธุรกิจในเอเชียสามารถทำได้ และเชื่อว่าจะทำได้ดีก็คือ ปรับ mindset ทิศทางธุรกิจก่อน โฟกัสไปที่ ‘วัฒนธรรมลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’ (Customer Centric) แบบจริงจัง รวมไปถึงขยายแนวความคิดแบบ Customer Empathy (ความเห็นอกเห็นใจเข้าใจลูกค้าอย่าง 100%)
Adobe ทิ้งท้ายด้วยการแนะนำการทำงานรูปแบบ Hybrid ว่าจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำธุรกิจดีขึ้น โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกกับบริษัทที่เชี่ยวชาญ ขณะที่ธุรกิจยังจำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาดรูปแบบใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเก่าไปด้วย ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในยุคนี้สำหรับการจัดเก็บข้อมูล ก็คือ การเชื่อมต่อระบบคลาวด์ทั้ง 2 แบบ (PrivacyCloud และ PublicCloud)
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีองค์กร/ธุรกิจจำนวนมากใน APAC (เอเชีย-แปซิฟิก) ได้ปรับใช้แนวทางทำงาน Hybrid ไปบ้างแล้ว แต่ในเอเชียก้ยังถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยที่ใช้งานรูปแบบนี้ แต่คาดว่าในปี 2021 จะเห็นมูฟเมนต์แบบ Hybrid มากขึ้นในหลายๆ แง่มุมธุรกิจ
ข้อมูลโดย Adobe 2021 APAC Digital Trends Report
