AI เป็นเหตุสังเกตได้ 1 ใน 3 ของพนักงานทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานภายใน 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากรู้สึก Burnout หรือทำงานหนักเกินไป

  • 15
  •  
  •  
  •  
  •  

การวิจัยจากสถาบัน Upwork Research Institute ที่เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม Amplify โดย TrendWatching ซึ่งสำรวจผู้บริหารระดับ C-suite พนักงานประจำ และฟรีแลนซ์กว่า 2,500 คนในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา เผยว่า 71% ของพนักงานประจำรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน และ 65% ระบุว่าพวกเขากำลังประสบปัญหากับความต้องการด้านประสิทธิภาพที่นายจ้างตั้งไว้ ขณะที่ 81% ของผู้นำ C-suite ทั่วโลกยอมรับว่ามีการเพิ่มภาระงานให้พนักงานมากขึ้นในปีที่ผ่านมา

ผู้นำองค์กรหลายคนมีความหวังสูงว่า Generative AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัว องค์กรต่างๆ ได้ขอให้พนักงานทำงานให้ได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง โดย 96% ของผู้นำ C-suite คาดว่าการใช้เครื่องมือ AI จะช่วยเพิ่มระดับ Productivity หรือผลิตภาพของบริษัท อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีใหม่นี้ยังไม่สามารถบรรลุความคาดหวังเรื่องผลิตภาพได้เต็มที่ โดย 47% ของพนักงานที่ใช้ AI ระบุว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าจะบรรลุผลผลิตตามที่นายจ้างคาดหวังได้อย่างไร และ 77% ระบุว่าเครื่องมือเหล่านี้กลับทำให้ผลิตภาพลดลงและเพิ่มภาระงาน

ส่งผลให้อัตราการเหนื่อยล้าสูงในทุกช่วงวัยและทุกเพศ กล่าวคือ 83% ของ Gen Z, 73% ของ Millennials, 71% ของ Gen X และ 58% ของ Baby Boomers ในขณะที่ 74% ของผู้หญิงรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าผู้ชายที่ 68% นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของพนักงานกล่าวว่าพวกเขาอาจจะลาออกภายใน 6 เดือนเนื่องจากเหนื่อยล้าหรือทำงานหนักเกินไป

รายงานชี้ว่า การนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในระบบและโมเดลการทำงานที่ล้าสมัยทำให้ไม่สามารถปลดล็อกศักยภาพผลิตภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่ ผู้นำองค์กรจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการจัดการบุคลากรและการทำงาน โดยสร้างสมดุลระหว่างแนวทางดั้งเดิมและแนวทางใหม่ เช่น การใช้แหล่งความสามารถจากภายนอก การร่วมพัฒนามาตรการวัดประสิทธิภาพกับพนักงาน และการปรับมุมมองจากการพิจารณาที่ตำแหน่งงานไปสู่ด้านทักษะเป็นหลัก เป็นต้น

ขอบคุณที่มา: TrendWatchingThinkNextAsia


  • 15
  •  
  •  
  •  
  •