เมื่อวิดีโอยังคงเป็นเทรนด์ฮิตของโลกคอนเทนต์ แถมทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ประกอบกับ Facebook เองก็ได้ออกมาอัพเดทเรื่องราวและสิ่งที่เกิดขึ้นบน “Facebook Watch” ในฐานะช่องทางนำเสนอคอนเทนต์วิดีโอ ที่เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการทั่วโลกครบ 1 ปี เมื่อไม่นานมานี้
นอกจากยอดผู้ใช้งาน 2,700 ล้านคนต่อเดือน ภายใต้ Family Business ของ Facebook ซึ่งนับรวม IG, Messenger, WhatsApp สถิติของ Facebook Watch ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
– ยอดผู้ใช้ Facebook Watch ทั่วโลก เฉลี่ยอยู่ที่ 720 ล้านคนต่อเดือน
– ระยะเวลาการรับชมวิดีโอที่ 1 นาที ถือเป็น “ช่วงเวลาคุณภาพ” เพราะปกติแล้วระยะการรับชมจะต่ำกว่านั้น ขณะเดียวกัน เนื้อหาวิดีโอหลังจาก 1 นาทีไปแล้ว ยังสำคัญกับการทำ Ad Break ด้วย เพราะการคั่นโฆษณาจะเริ่มได้หลังจากเวลาดังกล่าว
– ในแต่ละวัน ทั่วโลกมีผู้ชมวิดีโอจาก Facebook Watch นานกว่า 26 นาที เฉลี่ย 140 ล้านคน
– การชมวิดีโอร่วมกับคนอื่น เช่น “ปาร์ตี้รับชม” (Watch Party) มีแนวโน้มว่าผู้ชมจะแสดงความคิดเห็นผ่านคอมเมนต์ร่วมกับผู้อื่น สูงกว่าการชมวิดีโอลำพัง ถึง 8 เท่า
วิดีโอแบบไหน ถึงจะโชว์บน Facebook Watch ?
วิดีโอที่จะโชว์อยู่บน Facebook Watch นั้น มีข้อจำกัดแค่เรื่องเดียว คือ ต้องเป็นคอนเทนต์ที่เผยแพร่โดย Publisher หรือ Creator เท่านั้น หมายความว่า คุณจะไม่มีโอกาสเห็นวิดีโอจากแอคเคาท์ของผู้ใช้ทั่วไปอยู่ในส่วนนี้
“Ad Break” โอกาสสร้างรายได้ บน Facebook Watch
ต้องบอกก่อนว่าวิดีโอบน Facebook Watch สามารถสร้างรายได้จากโฆษณา ที่เรียกว่า “Ad Break” ซึ่งเป็นช่องทางเดียวของการทำรายได้บน Facebook Watch ในปัจจุบัน ด้วยวิธีการคั่นโฆษณาแบบสั้น ๆ ที่ใส่รวมไว้ในวิดีโอได้ สามารถเลือกวางได้ 3 ตำแหน่ง คือ โฆษณาก่อนเรื่ม ระหว่าง และหลังวิดีโอ เรียกว่าเป็น In-Stream Video Placements นั่นเอง
เงื่อนไขการติด Ad Break บนวิดีโอก็มีเงื่อนไขไม่กี่ข้อ อาทิ ต้องเป็นคอนเทนต์จาก Publisher / Creator ที่มี Followers มากกว่า 10,000 คน และเป็นวิดีโอที่มีความยาวเกิน 3 นาที จึงจะสามารถสร้างรายได้ผ่านเครื่องมือนี้ได้ โดยการคั่นโฆษณาเช่นนี้สามารถทำได้แล้วใน 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเพจที่ใช้การคั่นโฆษณาเป็นประจำก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพิ่มกว่า 3 เท่า ตั้งแต่สิงหาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Facebook ยังเปิดเผยสถิติจากการใช้ Ad Break ว่า เพจที่มีรายได้มากกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่า และเพจที่มีรายได้มากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 เท่า
กลับมาพูดถึง ฟีเจอร์ที่ให้บริการบน Facebook Watch ที่ให้บริการอยู่ในไทยตอนนี้ ได้แก่
Premiere : การแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้รับชมวิดีโอและสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับเนื้อหาวิดีโอ โดยสามารถโพสต์วิดีโอแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ด้วยการกำหนดเวลาฉายคล้ายกับการฉายภาพยนตร์
Live : การเผยแพร่สด ซึ่งรวมถึงการซ้อมก่อนเผยแพร่จริง การตัดเนื้อหา การขยายช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น การแสดงรายการพร้อมกันผ่าน Live API ซึ่งให้บริการบน Facebook Lite
Watch Party : เชื่อมต่อกับเพื่อนเพื่อรับชมวิดีโอร่วมกันภายในกลุ่มที่เข้าร่วมไว้ รวมถึงการ Live สด หรือแม้แต่วิดีโอที่ถูกบันทึกและแชร์จากเพจอื่น ซึ่งระหว่างการเผยแพร่ Watch Party ผู้ใช้สามารถสร้างบทสนทนาผ่านคอมเมนต์เพื่อแลกเปลี่ยนกัน หรือแม้แต่กำหนดเวลาเล่นซ้ำก็ทำได้
Poll : กิจกรรมที่ทำให้ผู้ใช้สามารถโหวตเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับเหล่า Followers
Creator Studio : เครื่องมือนี้มีไว้เพื่อโพสต์ จัดการ สร้างรายได้ และวัดผลเนื้อหา โดยมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Return Viewer Table ตารางผู้ชมที่กลับมาชมซ้ำ, Auto-Captioning การตั้งคำบรรยายแบบอัตโนมัติ, Distribution Status สถานะการเผยแพร่
มีการยกตัวอย่าง เพจดอยแม่สลอง ที่ก่อตั้งโดยนักศึกษาจบใหม่อย่าง เจ – พรพจน์ เจริญทั้งศิลปชีพ ผู้มีความชื่นชอบด้านการสร้างสรรค์วิดีโอ โดยเขาใช้การผลิตละครดิจิทัลผ่าน Facebook และใช้ Ad Break เข้ามาช่วย ทำให้เกิดรายได้ กระทั่งสามารถขยายทีมพนักงานประจำได้ถึง 15 คน จากจุดเริ่มต้นเพียงไม่กี่คน และภายในไตรมาสแรกของปีนี้ คอนเทนต์วิดีโอราว 90% ของเพจดอยแม่สลอง ยังสามารถกอดผู้ชมเอาไว้ได้ภายใน 1 นาที รวมแล้วกว่า 300,000 ครั้งทีเดียว
ขยับขยาย Local Partner ต่อยอดคอนเทนต์เข้าถึงผู้คน
ตอนนี้ Facebook ประเทศไทย แบ่งการลงทุนด้านคอนเทนต์ในไทยเป็น 3 รูปแบบ เพื่อเผยแพร่บน Facebook Watch ได้แก่ 1. ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งขณะนี้มี เวิร์คพอยท์, บีอีซี และเซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เพื่อต่อยอดคอนเทนต์จากช่องทางดั้งเดิมอย่างทีวี 2. ผลิตคอนเทนต์เอง โดยตอนนี้มีรายการเรียลลิตีโชว์ร่วมกับ MTV ที่ชื่อ The Real World Bangkok ซึ่งเป็นรายการแรกที่ Facebook Watch ผลิตเอง เพื่อเล่าเรื่องราวผู้เข้าร่วมรายการที่เป็นคนไทย และ 3. ร่วมมือกับ Publisher และ Creator ซึ่งมี Woody World ผลิตรายการแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเสิร์ฟบนช่องทางดังกล่าว
