ไม่ได้ปล่อยให้เฉพาะการเป็น Partner เท่านั้นที่จะสามารถแสดงผลงานเพื่อการค้าได้ มาครั้งนี้ Youtube ชี้ให้เห็นถึงผู้ใช้ทั่วไป (End-User) ผู้ผลิตผลงานเล็กๆ แต่ผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ ว่าเป็นการสร้างรายได้ให้เจ้าของลิขสิทธิ์ได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กัน
วีดีโองานแต่งงานที่ Youtube บอกว่าเป็นการสร้างรายได้ให้แก้เจ้าของลิขสิทธิ์โดยคนเผยแพร่ไม่ได้เป็นเจ้าของ
งานแต่งงานที่มีคนชมเข้าชมวีดีโองานแต่งสูงที่สุดคืองานแต่งงานของคู่ Jill Peterson และ Kevin Heinz’s เนื่องจากยอดผู้เข้าชมสูงกว่า 12 ล้านเพจวิว เพียงแค่สัปดาเดียวเท่านั้นที่นำขึ้นไปยัง Youtube หลายคนคงสงสัยว่าทำไมแค่วีดีโอที่ถ่ายในโบสถ์ระหว่างพิธีแต่งงานทำไมถึงได้มียอดคนดูสูงขนาดนี้ วีดีโอนี้มีชื่อว่า “JK Wedding Entrance Dance” ภายในวีดีโอมีการใช้เพลงของนักร้อง R&B คนดัง Chris Brown ชื่อเพลง “Forever” ในการเป็นเพลงประกอบการแสดงในพิธีแต่งงานในครั้งนี้ โดนขณะที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังเดินเข้ามาในพิธีนั้นแทนที่จะเดินเข้ามาแบบธรรมดาอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึงเพราะว่าเหล่าบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว ก็เริ่มเต้นตามจังหวังเพลงแทนการเดินปกติเข้ามาธรรมดาๆ แม้กระทั่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเองก็ด้วย ทำเอาคนทั้งงานยิ้มและร่วมสนุกการการแสดงนี้กันไปตามๆกัน นี่แหละที่ทำให้คนเข้าชมมากกว่า 12 ล้านเพจวิวทั้งที่ดูผ่านเว็บ Youtube หรือนำไป Embed และเกิดการพูดต่อจากกลุ่ม Social Netwoking มากมาย
ในเว็บ YouTube เราจะพบว่ามีเครื่องมือในการจัดการเรื่องคอนเท้นต์ที่ดีมาก (content management tools) ในการช่วยปกป้องลิขสิทธิ์เนื้อหาที่เราใส่เข้าไป รวมไปถึงค่ายเพลง ค่ายผู้ผลิตหนัง หรือสื่อต่างๆ ที่ต้องการตรวจสอบและเรียกร้องสิทธิ์ที่ถูกต้องไม่ให้ใช้กันอย่างผิดกฏหมาย เพลงก็เป็นสิ่งที่ทาง Youtube ให้การดูแลเป็นพิเศษไม่ให้นำเพลงที่ไม่ใช่เจ้าของผลงานมาเผยแพร่ แต่ในกรณีของวีดีโอในงานแต่งงานชิ้นนี้พิเศษกว่านั้น (พิเศษยังไง???) เพราะว่าในการช่วยปกป้องที่ทาง Youtube ทำแล้ว ยังมีอีกวิธีที่ช่วยการดูแลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการให้เจ้าของผลงานสามารถทำโฆษณาได้ในกรณีที่พบว่ามีการใช้เพลงในส่วนหนึ่งส่วนใดของวีดีโอที่นำมาแสดงที่ Youtube เช่นเดียวกับของ “JK Wedding Entrance Dance” นี้ที่มีการใช้เพลง “Forever” ของ Chris Brown มาเป็นเพลงประกอบซึ่งส่งที่ Youtube ทำนั้นได้สร้างความประหลายใจอย่างมากแก่ค่ายเพลง เพราะเพียงแค่สัปดาห์เดียวยอดการกดซื้อเพลง Click-to-Buy เหนือตัววีดีโอสูงขึ้นเป็นอย่างมาก สร้างโอกาสที่จะเกิดการซื้อเพลงนี้บน Amazon และ iTunes อย่างมาก ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็มากจากวีดีโองานแต่งงานชิ้นนี้ทำให้หลังจากนั้นมีคนกลับไปดูวีดีโอของนักร้อง Chris Brown เพิ่มขึ้นและค้นหาชื่อเพลง “Forever” ของเขาเพิ่มตามไปด้วยทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีตัวเลขในการชมมิวสิควีดีโอตัวนี้ไม่สูงมากนัก
ดังจนเจ้าของงานแต่งถูก NBC เชิญไปให้สัมภาษณ์เรื่องการคิดพิธีการและการทำวีดีโองานแต่งสุดโด่งดังนี้
ผลการตรวจสอบยอดการกด click-through rate (CTR) บนวีดีโอ “JK Wedding Entrance Dance” นี้ยิ่งน่าประทับใจ เพราะว่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว (2x) อัตราเฉลี่ยในการกดซื้อก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน Click-to-Buy และที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นคือความสนใจในการดาวน์โหลดเพลง “Forever” ยังเป็นไปได้สวยอีกด้วยผลมาจากคนชื่อชอบหลังจากดูวีดีโองานแต่ง “JK Wedding Entrance Dance” ชิ้นนี้ ส่งผลไปยังยอดมิวสิควีดีโออย่างเป็นทางการของเพลง “Forever” ก็สูงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะเห็นจากยอดการกดเพื่อซื้อมิวสิควีดีโอตัวนี้สูงขึ้น 2.5 เท่าตัว Click-to-Buy (CTR) ทั้งที่เพลงนี้ออกมาเผยแพร่มานานแล้ว (หนึ่งปีหลังจากการปล่อย) แต่ก็ไม่ได้มียอดที่สูงขึ้นหลังจากวันเริ่มต้นจำหน่ายแต่อย่างใด
สิ่งที่ Youtube กำลังเสนอแก่ค่ายเพลงที่มักจะแจ้งให้ถอดวีดีโอของ User ทิ้งไปเนื่องจากนำเพลงมาใช้โดยไมได้รับอนุญาตินั้น ได้ถูกปรับเปลี่ยนในข้อพิพาทระหว่างกันของ User และค่ายเพลงเพื่อให้พบโอกาศใหม่ๆ ให้ทั้งคู่สามารถใช้งานและได้ผลประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกัน จากในกรณีนี้คือตัวอย่างที่ Youtube แสดงให้ทางค่ายเพลงเห็นชอบ โดยแสดงให้เห็นว่าวีดีโอที่มีการในเพลงมาใช้นั้นสามารถทำให้รายได้ให้แก่ค่ายเพลงเจ้าของสิขสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์อีกครั้ง ผลจากวีดีโอ “JK Wedding Entrance Dance” ส่งให้เพลง “Forever” ที่ปล่อยมาได้ปีกว่าสามารถ ไต่อันดับชาร์ตเพลงขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่งในร้านขายเพลงออนไลน์อันดับหนึ่งอย่าง iTunes ด้วยการคว้าอันดับ #4 มาครองในหมวด singles chart และอันดับ #3 บน Amazon’s หมวดยอดขาย MP3 สูงสุด
เหล่าเพื่อนๆของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เต้นในงานวันนั้นก็ไปเต้นโชว์อีกครั้งให้กับ TODAY Show
หนึ่งในหลายๆ จุดมุ่งหมายที่ทาง Youtube ได้ทำนั้น ช่วยให้ผู้ผลิตเนิ้อหา Content Creators สร้างรายได้จากการเผยแพร่ผลงานบนตัวคอนเท้นต์ที่พวกเขาเองเป็นคนผลิตมันขึ้นมา และก็ส่งผลดีกลับตัวศิลปิน เจ้าของค่ายเพลง ค่ายหนัง ในการโปรโมและร่วมกันสร้างสรรผลงานก่อให้เกิดชุมชนบน Youtube ของพวกเขาเองได้เป็นอย่างดี
JK Wedding Entrance Dance ยอดเข้าชมสูงกว่า 12 ล้านครั้ง (ข้อมูล 07/2009)
ทำอันดับในแต่ละหมวดหลายอันดับ (#อันดับ)
กรณีของ SAMSUNG ที่ใช้ Social Video Marketing
นี่เป็นอีกตัวที่เป็นวีดีโอใน Youtube แต่คนผลิตเป็นเจ้าของสินค้าเอง แคมเปญที่ออกมาให้ดูผ่าน Internet และให้เผยแพร่ไปยังกลุ่ม Social Networking ล้วนๆ โดยให้เกิดคำถามในการชมการโฆษณาชิ้นนี้และส่งต่อๆกันไปยังเพื่อนเพื่อให้มีส่วนในการตัดสินใจเมื่อชมโฆษณาชิ้นนี้ ซึ่งถ่ายทำหนังโฆษณาชิ้นนี้ได้นำเอาตัวสินค้าเอง คือ Samsung I8910 HD phone มือถือตัวใหม่จาก Samsung ที่มีความละเอียดกล้องสูงถึง 8 megapixel และสามารถบันทึกวีดีโอได้ในรูปแบบ HD video มาใช้ในการผลิตหนังโฆษณา
ในหนังโฆษณาชิ้นนี้ถูกถ่ายในครั้งเดียว (1 take) ไม่มีการทำ production และ special effects อื่นใดเพิ่มเติมทุกอย่างที่คุณเห็นจะอยู่ในกล้องที่ถ่ายจากมือถือ Samsung I8910 HD phone เท่านั้น โดยเน้นความตื่นเต้นในการใช้งานโทรศัพท์ถ่ายวีดีโอ ตัวคลิปโฆษณานี้ก็ทำให้เกิดคำถามแก่คนดูเรื่องการถ่ายวีดีโอนี้ โดยเกิดความสับสนในการถ่ายทำที่ดูไม่ออกเลยว่าจะไม่มีการใช้ technic ในการตัดต่อหรือไม่ และที่แน่ๆ ทาง Samsung ก็ปล่อยหนึ่งวีดีโออีกตัวหนึ่งออกมา เพื่อเป็นการเฉลยในการถ่ายทำงานโฆษณาชิ้นนี้ โดยให้เน้นย้ำแก่ลูกค้าว่านี่คือภาพทีได้จากตัวสินค้าจริงๆ แน่นอนว่าเกิดเป็นกระแสในโลก Internet อย่างมากโดยเฉพาะ Social เพราะมีคนส่งต่อคลิปโฆษณาชิ้นนี้เพื่อให้ดูและจับผิดการถ่ายทำเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะใน Youtube ก็มียอดคนดูสูงว่า 1 ล้าน Pageviews แล้ว (ข้อมูล 07/2009)
I8910 HD phone ยอดเข้าชมสูงกว่า 1 ล้านวิวบน Youtube
ที่มา: Youtube.com