Proctor & Gamble เจ้าของแบรนด์ Pantene ส่งแคมเปญใหม่กลับมาอีกครั้งเพื่อตอกย้ำจุดยืนเดิม “เป็นผู้หญิงต้องมั่นใจ” ภายใต้แคมเปญใหญ่ Labels Against Women
ครั้งที่แล้วแคมเปญ ShineStrong ที่เผยให้เห็นมายาคติของผู้คนที่มีต่อผู้หญิง โดยโฆษณาชี้ให้เราเห็นว่าในการทำกิจกรรมเดียวกัน เช่น การปราศรัยให้กำลังใจ หากผู้ชายทำจะเป็นการ “จูงใจ” แต่หากผู้หญิงทำจะถูกมองว่าเป็นการ “จู้จี้”
มาในครั้งนี้ แคมเปญใหม่ของพวกเขายังคงจุดยืนเดิมคือการเพิ่มพลังให้ผู้หญิงมั่นใจ Not Sorry ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องขอโทษทุกครั้งที่ต้องการแสดงความคิดเห็น แสดงความคิด หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ลองดูเนื้อหาวีดีโอกันก่อนได้เลยครับ
แคมเปญ Not Sorry
httpv://youtu.be/rzL-vdQ3ObA
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนกูรูไม่ค่อยซื้อคอนเซปต์ครั้งนี้ของพวกเขาเท่าไหร่นัก
“เนื้อหาจากโฆษณาดูเหมือนจะย่นย่อบริบทอื่นๆ จนเราเห็นเพียงแค่ผู้หญิงพูดว่า “ขอโทษที่ฉันจะไม่พูดว่าขอโทษ” ซึ่ง hashtag นี้ตรงกับเพลงของซีรี่ย์เรื่อง Glee ขับร้องโดย Naya Rivera แต่พอมันมาสวมในบริบทของโฆษณาแล้วดูไม่เวิร์คเท่าไหร่ ผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเธอจะไม่พูดว่า “ขอโทษ” เมื่อเธอตัดบทสนทนาของผู้อื่น งั้นฉันก็ไม่เสียใจเหมือนกันที่ต้องบอกว่าเธอควรจะเสียใจนะ!” Kevin Allen นักเขียนจาก Adweek กล่าว
แคมเปญ Shine Strong
httpv://youtu.be/BfJzZnsRYpc
ด้าน Kevin Crociata มาร์เกตติ้งไดเรกเตอร์ของ P&G North American เผยแนวคิดของแคมเปญในทางตรงกันข้ามว่า เขาต้องการเน้นให้ผู้หญิงออกจากขนบเดิมๆ เราจึงทำการวิจัยตลาดและพบว่าบรรทัดฐานทางเพศเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้ผู้หญิงกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ ปัญหาของการพูดว่าขอโทษนั้นไม่ใช่การต้องยอมพูดคำนั้น แต่คือความรู้สึกของผู้หญิงที่ยอมมอบอำนาจให้ผู้ชายขึ้นมาเหนือกว่าตัวเอง และพลอยรู้สึกว่าตัวเป็นส่วนเสริมในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่
ส่วนตัวผมเห็นว่า P&G ตั้งคอนเซปต์ได้โอเคแล้ว แต่วิธีการสื่อสารและการตีความของพวกเขาอาจมีปัญหาสักนิดนึง P&G อาจหมกมุ่นกับการมองทุกอย่างเป็นการ “กดขี่” สตรีไปเสียหมดจนลืมนึกถึงบริบทอื่นๆ ที่รายล้อมงานของตัวเอง เช่น มารยาท กาลเทศะ แน่นอนว่าความรู้สึก “ตกเป็นรอง” ของผู้หญิงในสังคมผู้ชายเป็นใหญ่นั้นมีอยู่จริง แต่มุมที่แคมเปญนี้เลือกถ่ายทอดออกจะไม่ valid หรือสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ในความรู้สึกผม เช่น หากผมยกตัวอย่างเล่นๆ ว่า เมื่อเราต้องรบกวนการประชุมหรือพูดแทรกใครสักคนขึ้นมา ไม่ว่าหญิงหรือชายเราก็น่าจะขอโทษก่อนมั้งครับ? หรือแม้แต่เป็นสามีภรรยากันจะแย่งผ้าห่มของอีกฝ่าย คุณจะกระชากมาดื้อๆ ไม่ว่าหญิงหรือชายมันก็ออกจะเป็นเรื่องแปลกๆ หรือเปล่าครับ? ดังนั้น การมองจากมุมสตรีนิยมสำหรับผมแล้ว มันคือการมองจากมุมที่ทั้งหญิงและชายเป็นคนเท่าเทียมกัน มีสิทธิและหน้าที่เท่ากัน อะไรที่ผู้หญิงทำผิด ผู้ชายทำก็ย่อมผิด ขณะที่อะไรที่ผู้ชายทำถูก ผู้หญิงทำก็ย่อมถูก หากคุณสามารถล้างความคิดเรื่องอคติทางเพศออกไปได้อย่างหมดจด เมื่อพูดถึงหมอ คุณก็จะไม่คิดถึงแต่ “นายแพทย์” ขณะที่เมื่อคุณพูดถึงพยาบาล คุณก็จะไม่เห็นภาพแต่ “นางพยาบาล” ก็เพราะสังคมเรามีทั้ง “แพทย์หญิง” และ “บุรุษพยาบาล” นี่ครับ โรงพยาบาลถึงทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ J
แล้วคุณผู้อ่านล่ะ? มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ แชร์ให้เราฟังหน่อย…