‘ทำธุรกิจ ต้องคิดถึงสังคม’ หัวใจการขับเคลื่อนองค์กรสไตล์ ‘สิงห์ คอร์เปอเรชั่น’

  • 392
  •  
  •  
  •  
  •  

การที่ธุรกิจจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกยุคปัจจุบัน การคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมถือเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์ที่หลายองค์กรให้ความสำคัญ เพราะต่างมองว่า หากโลกอยู่ไม่ได้ ภาคธุรกิจเองก็ไม่สามารถเดินต่อไปได้

เช่นเดียวกับ ‘สิงห์ คอร์เปอเรชั่น’ ที่หัวใจของการขับเคลื่อนองค์กร ไม่ได้มองแค่ตัวเลขในเรื่องรายได้หรือผลกำไรเท่านั้น ทว่ายังใส่ใจในปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยนำเสนอผ่านแคมเปญและโครงการต่าง ๆ มากมาย

อย่างปีที่ผ่านมามีโครงการไฮไลต์ คือ ‘น้ำดื่มสิงห์ คืนดวงใจให้แม่ return heart to home’ ไอเดียเก๋ ๆ ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างน้ำดื่มสิงห์กับมูลนิธิกระจกเงา ในการผลิตน้ำดื่มสิงห์ฉลากพิเศษ (limited edition) เพื่อเป็นส่วนช่วยในการตามหาเด็กที่หายไปอย่างยาวนาน 5 คน รวมถึงทำให้สังคมได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของปัญหาเด็กหายในปัจจุบัน ซึ่งต้องขอบอกว่า โครงการนี้ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก

มาในปีนี้ ‘น้ำดื่มสิงห์’ ได้เปิดแคมเปญล่าสุดที่ชื่อว่า ‘เกี่ยวช่วยโลก’ ไอเดียดี ๆ ที่ชวนให้ผู้บริโภคหันมาดื่มน้ำสิงห์ขวดแก้วมากขึ้น เพื่อลดการใช้แล้วทิ้ง และลดปริมาณขยะพลาสติกที่เริ่มต้นจากตัวเราเองได้แบบง่าย ๆ

“ตอนนี้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นระดับชาติ ที่ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหา และเราเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตลอด โดยวางเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องแก้ไขควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจขององค์กร” ‘ภูริต ภิรมย์ภักดี’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวย้ำ

ลงมือขับเคลื่อนทั้งองค์กร

ความน่าสนใจในการวางกลยุทธ์ในเรื่องนี้ของสิงห์ ก็คือ นอกจากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องแล้ว การทำธุรกิจที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมยังได้ถูกวางเป็นทิศทางสำคัญของบริษัทในเครือ และลงลึกไปถึงตัวพนักงานทั้งหมดด้วย

โครงการสำคัญ ๆ อย่างเช่น การสร้างโรงงานทุกโรงงานให้มีศูนย์บำบัดน้ำเสียครบวงจร เพื่อไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมภายนอก , การรณรงค์ของฝ่าย HR ในทุกโรงงาน เกี่ยวกับการประหยัดทรัพยาการน้ำและไฟฟ้าของแต่ละแห่ง

หรือจะเป็นกรณีของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ ‘บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด(มหาชน)’ กับการประกาศทำโครงการรณรงค์ลดขยะพลาสติก ด้วยการนำพลาสติกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แทนการปล่อยให้ย่อยสลาย รวมถึงโครงการครอสโร้ดส์ การย้ายที่ตั้งโครงการ เดอะ มารีน่า แอท ครอสโร้ดส์ ตั้งอยู่บนเกาะเอ็มบูดู ลากูน เพื่อไม่ให้รบกวนแหล่งที่อยู่อาศัยของเต่าทะเล และทับแนวปะการังในทะเล เป็นต้น

‘บริษัท ขอนแก่นบริวเวอรี่ จํากัด’ ในการบริหารจัดการบำบัดน้ำภายในโรงงาน ผ่านวิธีธรรมชาติ และจัดการแบบเป็นระบบ เพื่อนำไปใช้ในสนามกอล์ฟ ‘สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น’ พื้นที่ต้นแบบในการจัดการอุตสาหกรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม (Constructed Wetland) ซึ่งปลูกพืชพันธุ์ที่มีคุณสมบัติช่วยคัดกรองสารเคมีสิ่งตกค้าง และปรับปรุงคุณภาพความสะอาดในน้ำได้เป็นอย่างดี โดยน้ำที่ผ่านมาตรฐานการบําบัดแล้ว จะถูกปล่อยเข้าสู่พื้นที่ชุ่มน้ำเทียม เพื่อปรับปรุงคุณภาพอีกครั้ง จนได้น้ำที่มีคุณภาพสามารถนํามาใช้ในพื้นที่การเกษตรแบบผสมผสานที่มีการปลูกข้าวพันธุ์สาธิต เพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่ต่อไป

‘สิงห์ปาร์ค เชียงราย’ กับการพัฒนาโครงการด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการปริมาณขยะภายในไร่

ขณะที่ในระดับบุคคล หรือตัวพนักงาน ก็ได้มีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้น้ำดื่มขวดแก้วภายในองค์กร เพื่อลดจำนวนขยะจากขวดพลาสติก โครงการให้ยืมถุงผ้าในช่วงพักกลางวัน หรือการติดตั้งเครื่องรีไซเคิลขวดพลาสติกภายในบริษัท

‘น้ำดื่มสิงห์’ เปิดปฏิบัติการ ‘เกี่ยวช่วยโลก’

แน่นอนด้วยการที่สิงห์มองว่า ‘ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ และต้องอาศัยความร่วมมือกันจากทุกฝ่าย จึงจะสำเร็จ’ ดังนั้นนอกจากในระดับองค์กรแล้ว สิงห์ยังได้ทำแคมเปญเพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้ทั้งพาร์ทเนอร์ และผู้บริโภค ได้ตระหนักถึงความสำคัญและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยกัน

อย่างแคมเปญล่าสุด ‘เกี่ยวช่วยโลก’ ไอเดียดี ๆ จากน้ำดื่มสิงห์ในการชวนให้ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันดูแลโลกที่เริ่มต้นจากตัวเราเองได้แบบง่าย ๆ ด้วยการชวนให้ผู้บริโภคหันมาดื่มน้ำสิงห์ในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการลดขยะภายใต้หลัก 3R ได้แก่

Reuse การนำขวดแก้วกลับมาใช้ซ้ำได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและผ่านการทำความสะอาดที่มีมาตรฐาน, Reduce ลดการใช้พลาสติก ลดการสร้างขยะ และ Recycle เมื่อขวดแก้วถูกใช้ไประยะหนึ่งแล้วจะถูกนำไปผ่านกระบวนการทำลาย เพื่อผลิตขวดแก้ว ขวดใหม่ต่อไป

เน้นเปลี่ยนพฤติกรรมให้หันมาดื่มน้ำขวดแก้วมากขึ้น

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เล่าถึงไอเดียของแคมเปญให้ฟังว่า จะมุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำในบ้านของผู้บริโภค ควบคู่กับชวนพันธมิตร เช่น บริษัทในเครือบุญรอดฯ, ร้านอาหาร, โรงแรม โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ ให้หันมาใช้น้ำดื่มขวดแก้วให้มากขึ้น

ส่วนผู้บริโภครายย่อย หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยโลก ด้วยการเปลี่ยนมาบริโภคน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้ว ก็สามารถติดต่อผ่าน Call Center 1245 กด 8 หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านให้สามารถจัดส่งได้ โดยไม่ต้องกังวลจะถือให้หนักหรือขวดแตกเสียหาย และในอนาคตเตรียมเปิดช่องทางสั่งซื้อทางออนไลน์ด้วย

“แคมเปญนี้เป็นการตอกย้ำถึงบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วที่เป็นจุดแข็งของเราที่ต่างจากคู่แข่งอื่น หากขวดแก้วมีการเติบโตมากขึ้น ยังช่วยลดปริมาณขยะที่จะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วย โดยปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมีสัดส่วนการขาย 12% และขวด PET 88% โดยน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้วเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 48.2%”

ขณะที่น้ำดื่มสิงห์แบบขวดพลาสติก ที่มีไว้เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้บริโภคนั้น ทางบริษัทฯเลือกใช้พลาสติก PET1 ซึ่งเป็นพลาสติกมีคุณภาพสูง สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% โดยปลายปีที่ผ่านมายังทำการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านทางฉลากน้ำดื่มสิงห์ในขวด PET ไซส์ 600, 750 และ 1,500cc. ให้รับรู้และรณรงค์ให้ช่วยแยกขวดน้ำดื่มดังกล่าว เพื่อนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลต่อไป

ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าว ได้สื่อสารกับผู้บริโภคผ่านการทำคลิปวิดีโอออนไลน์ นำเด็ก ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ และจะเป็นคนรุ่นถัดไปมานำเสนอผ่านการเกี่ยวก้อยสัญญากับธรรมชาติต่างๆ รอบตัวว่าจะดูแล รักษา และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้ธรรมชาติที่ดีคงอยู่ต่อไป

“น้ำดื่มสิงห์ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งคุณภาพน้ำดื่ม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณขยะ เราจึงกระตุ้นการบริโภคน้ำดื่มขวดแก้ว เพราะสามารถนำมาใช้ได้ใหม่ 100% ลดการใช้แล้วทิ้ง ขณะที่ขวดพลาสติกเราพยายามสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้าว่า การใช้ขวดพลาสติกไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากผู้บริโภคแยกขยะให้ถูกต้อง มีการจัดเก็บที่ดี สามารถนำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลต่อไปได้”

ส่วนในปีนี้ สิงห์จะมีแคมเปญหรือโครงการดี ๆ เพื่อตอบโจทย์แนวคิดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจขององค์กรอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อย เพราะยุคนี้ เป็นยุค ‘ทำธุรกิจ ต้องคิดถึงสังคม’


  • 392
  •  
  •  
  •  
  •