ในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่บริการจากการแพทย์จนถึงการเงิน คำว่า AI กลายเป็นคำที่ทุกคนรู้จักและถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือสำหรับการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการต่าง ๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันมันได้สอดแทรกเข้าสู่ชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้ว
หนึ่งในผู้นำด้านสมาร์ทโฟน และผู้นำเทคโนโลยีอย่าง Samsung ซึ่งต้องบอกว่า สมาร์ทโฟนของเขานั้น นำหน้าเรื่องของ AI มาก่อนใคร แต่วันนี้ที่ทุกคน แปะป้าย AI กันหมด ผู้นำมือถือค่ายเกาหลีรายนี้จะสู้ด้วยกลยุทธ์อะไร
เราชวน คุณแจ๊ด – พรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด นั่งพูดคุยถึงการแข่งขันในธุรกิจสมาร์ทโฟนในปัจจุบันว่า ในวันที่ทุกคนออกตัวเรื่อง AI กันหมดแล้ว Samsung จะทำอย่างไรต่อไป และอะไรคือความท้าทายในสนามของเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AI ต่อไป
แต่ก่อนไปตรงนั้น คุณแจ๊ด ได้สะท้อนภาพให้เราเห็นถึงการอด็อปใช้ AI อย่างรวดเร็วของคนไทยว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่มันเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนได้แล้ว
“เดี๋ยวนี้มันอยู่ในชีวิตประจําวันของคนทํางานทั่วไป ในทุกทุกสายอาชีพดีกว่า เพราะมันมาช่วย แต่ว่าถามว่า AI จะมาแทนคนรึเปล่า อันนี้ตอบได้เลยนะว่า ไม่ใช่! แต่มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยทําให้คนทํางานได้มีประสิทธิภาพมาก เพราะว่าAI ยังต้องใช้คนในการสั่งการมันอยู่ดี”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ คนไทย adopted ใช้งาน AI อย่างรวดเร็ว คุณแจ๊ดมองว่า หลักๆ น่าจะ 3 เรื่องด้วยกัน
1) คือ การใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย มากกว่า 1 ใน 3 ของประชากร
2) การใช้สมาร์ทโฟนที่สูงมาก ผู้คนมีมือถือเกินหนึ่งเครื่องกันแทบทุกคนแล้วในปัจจุบัน
และ 3) คนไทยเป็นคนที่รับอะไรรวดเร็ว มีอะไรใหม่ๆ ก็ตื่นตัวขานรับกับสิ่งนั้นอย่างรวดเร็ว หรือปรับตัวต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
“สำหรับซัมซุง เราพูดเกี่ยวกับฟีเจอร์ AI มาโดยตลอด เช่น Sketch to Image, S Pen, Circle to Search ซึ่งเป็นฟีเจอร์ AI ที่สามารถลบภาพได้ หรือใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งถ้าได้มีโอกาสลองใช้งานซัมซุง เมื่อรู้ว่าฟีเจอร์ต่างๆ สามารถทำงานได้จริง จะพบว่ามันมีประโยชน์อย่างมากในการเดินทางหรือการใช้งานด้านภาษา AI ของซัมซุงไม่ใช่เพียงแค่คำว่า AI แต่เป็น artificial intelligence ที่ทำงานอย่างแท้จริงในชีวิต”
อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราเกริ่นไปว่า แต่วันนี้ ทุกคนทุกสิ่ง พูดกันเรื่อง AI หมด พร้อมๆ กับที่ทุกคนบอกว่า AI ของตัวเองดีที่สุด Samsung วันนี้จะพูดเรื่องอะไร หรือพลิกมุมหาแสงอย่างไรให้กับ AI ของตัวเอง
ในวันที่ทุกคนพูดเรื่อง AI หรือฟีเจอร์เทคโนโลยีต่างๆ การใช้เรื่องของ Emotional จึงเกิดขึ้น เพราะเราคิดว่า Emotional มันยาวนานกว่า มันสร้างให้เกิด Brand Love แต่สำหรับคนที่ชอบฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับคนที่ชอบเมื่อมีของใหม่ใครทำขึ้นมา สักวันเขาก็ต้องเปลี่ยนใจได้ แต่ถ้าเราสร้าง Brand Love ผ่าน Emotional อาจจะเกิดไปถึงขั้นเป็น Advocacy Brand เขาก็จะไม่เปลี่ยนแบรนด์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เราถึงกลับมาเน้นเรื่อง Emotional
“อย่างไรก็ดี การเน้นไปที่อารมณ์ความรู้สึกเองนั้น แบรนด์เราก็ต้องเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาทำหนัง Emotional หรือแคมเปญ Emotional แต่บทบาทของโปรดักส์มันหายไป คนหาไม่เจอ ตรงนี้ก็ไม่ควรทำ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงครีเอท แคมเปญ “Say it with Galaxy” ขึ้นมา”
“แคมเปญ Say it with Galaxy” คือบทพิสูจน์อีกครั้งของความมุ่งมั่นของซัมซุงในการสร้างเทคโนโลยีที่มากกว่านวัตกรรม แต่เป็นเครื่องมือที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เราต้องการให้เทคโนโลยีของเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาแห่งความสุข และเป็นสื่อกลางในการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ที่เต็มไปด้วยคุณค่า
แคมเปญนี้ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรม แต่คือความตั้งใจของเราในการสร้าง Brand Love และ Brand Engagement ที่ลึกซึ้งและแตกต่าง ซัมซุงหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายและยั่งยืนระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค รวมถึงช่วยให้ทุกคนได้แบ่งปันความรัก ความคิดถึง และความทรงจำที่มีค่ากับคนสำคัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้
สำหรับ Insight ของแคมเปญดังกล่าว เราพบว่าในปัจจุบันผู้คนเริ่ม ละเลยหรือลืมการสร้าง Little moment เข้าหากัน บางคนลืมโทรกลับ บางคนยุ่งจนไม่มีเวลา ชอบดองแชท หรือแม้แต่บางคนเขินอายที่จะบอกรักบอกคิดถึงกันก็มี pain point เหล่านี้ เรามองว่า Samsung Galaxy และด้วยเทคโนโลยี AI จะช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่วันพ่อ (5 ธันวาคม) ไปจนถึงคริสต์มาส และการเฉลิมฉลองในวันปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งมองว่าเป็นช่วงเวลาดีๆ ช่วงเวลาแห่งการ Celebration ที่จะได้ใช้เวลาแห่งคามสุขสนุกสนานร่วมกัน ดังนั้น Samsung Galaxy จะช่วยนำพาความคิดถึง ไปสู่คนที่คุณรัก ที่คุณคิดถึงได้เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ แคมเปญ “Say it with Galaxy” เปิดพื้นที่เชิญชวนทุกคนมาร่วมถ่าย – แชร์ – โพสต์ พร้อมติด #SayItwithGalaxy เพื่อแบ่งปันความรู้สึกในทุกโมเมนต์ของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความคิดถึง หรือเรื่องราวที่อยากส่งต่อให้คนที่รัก นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S24 Ultra, Galaxy Z Flip6, Galaxy Z Fold6 และ Galaxy Tab S10 ในการสร้างสรรค์ภาพสวย ๆ พร้อมคำอวยพรจากฟีเจอร์ Galaxy AI อย่าง Sketch to Image โดยภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อความจะปรากฏขึ้นบนจอที่สูงกว่า 4 ชั้น ณ โซนกิจกรรมชั้น 1 บริเวณ Central Court (ลานลิฟต์แก้ว)
รวมถึงยังมีมอบสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าผ่าน Galaxy Gift เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนความไว้วางใจที่มีให้ซัมซุงตลอดปีที่ผ่านมา รวมถึงสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าใหม่ภายในงาน
• รับฟรี! กระเป๋า Merry Ville Limited Edition มูลค่า 1,500 บาท สำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกที่สมัครแอป Samsung Members
• ลุ้นรับดีลพิเศษจากร้านดัง เช่น After You, Guss Damn Good, Karun และ PAUL ผ่าน Galaxy Gift (สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด)
• ลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม ถ่าย – แชร์ – โพสต์ พร้อมติด #SayItwithGalaxy รับทันที! คูปองส่วนลดมูลค่า 400 บาท สำหรับการซื้อสินค้า Samsung ประเภทสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์สวมใส่ (นาฬิกา, หูฟัง, แหวน) รุ่นที่ร่วมรายการ มูลค่าขั้นต่ำ 10,000 บาท (ราคาหลังหักส่วนลดแล้ว) โดยคูปองสามารถใช้ได้เฉพาะที่ Samsung Experience Store สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สำหรับลูกค้า 250 ท่านแรก เท่านั้น
โดยแคมเปญ “Say it with Galaxy” เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ – 5 มกราคม 2568 ณ Central Court ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์
ท้ายที่สุดกับความท้าทายของการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน คุณแจ๊ด บอกว่า จริงๆ ความท้าทายยังมีอยู่เสมอเนื่องจากแบรนด์คู่แข่งเองก็แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไฮนด์เอน หรือซีแบรนด์ ทุกคนทำการตลาดอย่างเข้มข้น ใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงกันบ้าง แต่ละแบรนด์ก็มีวิธีป้องกันลูกค้าของตนเอง
“แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การสร้างแบรนด์เท่านั้น แต่องค์ประกอบอื่นๆ ก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการหลังการขาย (After sale service) Samsing ให้บริการติดตามถามความพึงพอใจหลังการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่เปลี่ยนค่าย เราจะให้ความสำคัญมาก เพื่อให้เขาได้ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานมากที่สุด เราจะมีทีมโทรไปสอบถามถึงปัญหาการใช้งานและติดตามความคืบหน้าตลอด ดังนั้น การแข่งขันไม่ได้อยู่แค่การสร้างแคมเปญที่ดี แต่ก็ต้องเอาชนะด้วยเซอร์วิสและประสบการณ์ที่ดีด้วย”