ผ่ากลยุทธ์พิชิต pain point! กับแสนสิริ ผ่าน Live concert ‘เมษานี้ ไม่มีเหงา’ กิจกรรมดีๆสร้างประสบการณ์เปื้อนรอยยิ้มแก่ลูกค้ากับแคมเปญ #SansiriStayHome

การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่แผ่ผลกระทบไปทั่วโลกและทุกอุตสาหกรรม แต่ความฉลาดของ ‘แสนสิริ’ ในการแก้เกมผลกระทบครั้งนี้ ใช้วิกฤตพลิกให้เป็นโอกาสนับว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย ในภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่กำลังแย่ ด้วยการแก้ pain point ให้เข้ากับสถานการณ์ ผ่าน Live concert ‘เมษานี้ ไม่มีเหงา’ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้แคมเปญ #SansiriStayHome เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มให้กับลูกค้า

ด้วยความที่แสนสิริ เป็นหนึ่งในนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ดังนั้น วิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามาจึงต้องไม่ธรรมดา มีความน่าสนใจ ซึ่งช่วงหลายเดือนมานี้กับแคมเปญ #SansiriStayHome มุ่งมั่นที่จะให้แต่ความสุข รอยยิ้ม และคงประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่เพื่อลดความเครียด บรรเทาความทุกข์ให้กับลูกค้าได้ จึงถือว่าเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้าง New Normal ของการทำตลาดในยุคนี้ได้อย่างดี

ก่อนหน้านี้ แสนสิริ ได้แจกภาพ ‘Virtual Background’ ผ่านเพจ Sansiri PLC เพื่อเอาใจกลุ่มคนที่ต้องทำงาน Work From Home ให้มีฉากหลังสวยๆ ใช้ในระหว่างการประชุมออนไลน์ไปแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ต่อยอดจากแคมเปญดังกล่าวด้วยเช่นกัน

จนล่าสุดสำหรับ Live concert ‘เมษานี้ ไม่มีเหงา’ เรียกได้ว่าแสนสิริ ไม่หยุดสร้าง ไม่หยุดรุกตลาดในช่วงที่มีวิกฤตินี้ โดยครั้งนี้ก็เป็นการรุกตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง เพราะนอกจากจะขายของได้ ยังซื้อใจลูกบ้านได้อีกด้วย

เรามาดูกันว่าตลอดทั้งเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แสนสิริทำอะไร? แสนสิริ ได้เสิร์ฟความสุขผ่าน Live concert ด้วยการพาศิลปินในดวงใจของใครหลายๆ คนมาส่งบทเพลงเพราะๆ กันถึงที่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ที่โครงการเดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง ด้วยมินิคอนเสิร์ตกับ ‘ลิปตา x แสตมป์ อภิวัชร์’ ตามด้วยวันที่ 24 เม.ย. กับ Live Concert ‘เบน ชลาทิศ x ตู่ ภพธร’ ที่โครงการเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 และอีกครั้งในวันที่ 28 เม.ย. ที่โครงการเดอะ เบส สุขุมวิท 50 กับ ‘โอ๊ต ปราโมทย์ x ป๊อป ปองกูล’

ทั้งนี้ ในระหว่างที่มี Live concert แสนสิริ ยังได้สอดแทรกกิมมิคในการขายเล็กๆ น้อยๆ แบบพองาม แม้จะเป็นการขายแบบ hard sale แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัด หรือเบื่อหน่ายกับการขายของ อย่าง caption ที่ขึ้นผ่านการ Live concert แบบน่ารักๆ ดึงดูดคนดูในระหว่างที่รับชมทางบ้าน เช่น “เธอไม่สูงเกินจะใฝ่อีกต่อไป เพียงแค่แชร์ Live  ได้ส่วนลดง่ายๆ ตั้ง 100,000 บาท” หรือจะเป็น “แสนสิริ ผ่อนให้ ทั้งต้นทั้งดอก 24 เดือน ฟรี! โอน และส่วนกลาง 2 ปี กับ 12 คอนโดพร้อมอยู่” เป็นต้น

แถมยังมีวิธีการบอกเล่าถึง Promotion & USP ของโครงการ ด้วยการ tie-in ไปกับเนื้อเพลงอย่างสนุกสนานผ่านตัวศิลปินอีกด้วย เพื่อ Wrap up Key Message ของโครงการของแสนสิริ

ทั้งนี้ ถือว่าแคมเปญนี้ได้ใจลูกค้าแสนสิริไปไม่น้อยทีเดียว เพราะสามารถสร้างฐานลูกค้า real demand ได้ ทำให้คนอยากมาเป็นลูกบ้านของแสนสิริ เรียกว่านั่งในใจใครหลายๆ คนเพราะทั้งบรรยากาศที่สวยงาม เห็นหลายๆ มุมผ่าน Live concert บวกกับการเอาใจใส่ของแสนสิริผ่านกิจกรรมดีๆ แบบนี้ สร้างความน่าประทับใจไปไม่น้อย ดูได้จากหลายๆ คอมเมนท์จากคนดูที่แทบจะ positive way เกือบทั้งหมด ตัวอย่างเช่น “เลือกที่นี่ เพราะเข้ามาแล้ว ว๊าว!! ให้บรรยากาศเหมือนมารีสอร์ทเลย” หรือจะเป็น “เลือกอยู่เพราะ facility ดีงามมากกกก เกินเรื่องเกินราคา และแสนสิริดูแลลูกค้าดี๊ดี App Sansiri สะดวกติดต่อได้ตลอดทันยุคโซเชียล” เป็นต้น

เห็นหลายๆ คอมเมนท์แบบนี้แล้ว รวมถึงหลายๆ โปรโมชั่นต่างๆ ที่ให้ลูกค้าแสนสิริตลอดทั้ง Live concert มีคำเดียวจริงๆ ที่ดังก้องอยู่ในความคิด คือ ทั้งลูกบ้านและลูกค้าของแสนสิริ มีแต่ได้กับได้จริงๆ

ความน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่มี Live concert อบอวลไปด้วยบรรยากาศของลูกบ้านที่มายืนดู โบกมือ ทักทายศิลปิน หัวเราะ และยิ้มไปด้วยกันตลอดเวลา สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกบ้านและลูกค้าได้ ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเราจะดูคอนเสิร์ตจริงๆ ผ่านระเบียงห้อง หรือดูคอนเสิร์ตแบบ real time มากๆ แบบนี้ ทำให้เราเกือบลืมไปด้วยซ้ำว่านี่เป็นการทำตลาดอย่างหนึ่งของแสนสิริ เพราะการตลาดแบบนี้เต็มไปด้วยความตั้งใจมอบความสุขให้จริงๆ ไม่ได้โฟกัสที่การขายของจนเกินเหตุ

ซึ่งพอมาดูจากผลตอบรับจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจำนวนผู้ชม Live แบบถล่มทลายแล้ว แสนสิริ ยังได้จำนวนจากการ walk เข้าโครงการแบบชนิดที่ว่าหัวกระไดไม่แห้ง แถมยังกวาดยอดจองโครงการไปได้อีกหลายยูนิตจากกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

สิ่งเหล่านี้คือ Achievement อย่างหนึ่งที่แสนสิริ ได้ดำเนินการภายใต้แคมเปญ #SansiriStayHome มาโดยตลอด พอเป็นกิมมิคให้ลูกค้าไม่ลืมกัน และยังคงเป็นกระแสให้พูดถึงในการตลาดอยู่บ้าง

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจนั้นรุนแรง ประจวบเหมาะกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับการระบาดของไวรัสตัวร้ายที่ค่อนข้างนาน กลยุทธ์ที่เลือกใช้เพื่อให้ธุรกิจต้องอยู่รอด นอกจากประสิทธิภาพของธุรกิจเองแล้ว ต้องฉลาดแก้ปัญหา พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส มองทะลุผ่าน pain point ให้ได้อย่างที่แสนสิริทำ ในช่วง quarantine แบบนี้ นอกจากสุขภาพกายรอด สุขภาพใจรอด ภาคธุรกิจก็ต้องรอดด้วยเช่นกัน