QminC ทุ่มทุนดึง 3 ตัวแม่ ทั้ง “ชมพู่ – อารยา” ตัวแม่วงการบันเทิง “หวานเจี๊ยบ – ธนรัตน์” ผู้จัดการตัวแม่ และ “เติ้ล – กิตติภัค” ผู้กำกับตัวแม่ มาร่วมสร้างผลงานเปิดตัว QminC สูตรใหม่ “ขิงสกัดผสมน้ำผึ้ง” ชูจุดขาย “เสริมภูมิต้านทาน ต้านการอักเสบ” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อสื่อสารกับ #สายเฮลท์ตี้ (Health Conscious) อายุ 25-45 ปี มีไลฟ์สไตล์ในการดูแลสุขภาพและคอยป้องกันไม่ให้ป่วยด้วยการเลือกทานแต่ของที่มีประโยชน์ ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
QminC ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟังก์ชั่นนอลดริ้งที่มีมาแรงที่สุดในเวลานี้ โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรกในช่วงปลายปี 2563 ได้แก่ เครื่องดื่มขมิ้นชันสกัดผสมเลมอน โดยมี ชมพู่ – อารยา เอฮาร์เก็ต เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกภายใต้ วลีเด็ด “คิวมินซี คิวสำคัญทุกวันของชม” ชูจุดขาย “เสริมภูมิคุ้มกันบำรุงตับขับสารพิษ” ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายกว่า 6 ล้านขวดภายในไม่ถึงครึ่งปีที่วางจำหน่าย และกลายเป็น Product Hero ของคิวมินซีในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ QminC ต่อยอดจากความสำเร็จเดิม ออกผลิตภัณฑ์สูตรที่ 2 ได้แก่ เครื่องดื่มคิวมินซีน้ำผึ้งมานูก้าผสมคอลลาเจน ภายใต้จุดขาย “เสริมคอลลาเจน เคล็ดลับผิวอ่อนเยาว์” โดยได้ “มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และล่าสุดกับ เครื่องดื่มขิงสกัดผสมน้ำผึ้ง ภายใต้จุดขาย “เสริมภูมิต้านทาน ต้านการอักเสบ” โดยคราวนี้มาแบบแพ็คสาม ทั้ง “ชมพู่ – อารยา เอฮาร์เก็ต, หวานเจี๊ยบ – ธนรัตน์ วัฒนเดชานันท์ และ เติ้ล – กิตติภัค ทองอ่วม” ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่รวมตัว 3 ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงในงานโฆษณาแรกของปีเสือเลย
ทั้งนี้ QminC เป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งที่วางตำแหน่งการตลาด โดยมีเป้าหมายให้ผู้บริโภคเข้าถึง “สารสกัดจากธรรมชาติที่ได้รับการยอมระดับโลก” (The Global Certified Natural Ingredients) ภายใต้แท็กไลน์ “คิวสำคัญทุกวันของคุณ” โดยชูจุดเด่นสารสกัดที่เข้มข้นกว่าฟังก์ชันนอลดริ้งอื่นๆ ในตลาด ซึ่งจากการสำรวจพบว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามจะดื่มน้ำขิงเมื่อป่วยหรือมีอาการท้องอืด ขณะที่สรรพคุณเสริมภูมิต้านทานเป็นอับดับ 1 ที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสนใจ และเชื่อว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บคอได้ ดังนั้น จากอินไซต์ดังกล่าว จึงเลือกสรรพคุณ “เสริมภูมิต้านทาน ต้านการอักเสบ” มาเป็นแมสเสจหลักของแคมเปญ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจ ไม่ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน จนเป็นที่มาของผลงานโฆษณาที่ชื่อว่า “ต้านก่อนเกินต้าน”
ความน่าสนใจของงานชิ้นนี้คือการนำเอากลยุทธ์ Hyperbolization มาใช้ คือการขยายจุดขายให้ใหญ่และโดดเด่นกว่าปกติ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งอินไซต์ของคนไทยที่น่าสนใจคือ การล้อเลียนหนัง (Parody) แนวสนุกสนาน ซึ่งมู้ดโทนที่คนไทยชอบ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ง่าย นอกจากนี้ คนไทยยังมีความชื่นชอบในหนังมาร์เวลอยู่แล้ว ขณะที่การทำหนังโฆษณาให้คล้ายกับเทรลเลอร์หนังก็ยังเป็นอีกหนึ่งเฟรชไอเดีย ที่ปังทั้งเนื้อหา แถมยังขายของตรงๆ แต่ดูแล้วสนุกได้อีกด้วย
จุดที่ต้องชมเลยก็คือการ ยกเอาอาการไม่สบาย มาเปรียบเทียบกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เล่นใหญ่แบบฮอลลีวู้ดซะด้วย เพื่อตอกย้ำให้ กลุ่มเป้าหมายเห็นภาพชัดๆ และจะได้ไม่ประมาทกับความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งคล้ายกับซีนสำคัญๆ ในหนังมาร์เวล เช่น อาการเจ็บคอกับ ‘พายุทะเลทราย’ อาการน้ำมูกไหลกับ ‘คลื่นมหาสมุทร’ และ อาการร้อนในกับ ‘ภูเขาไฟระเบิด’
ผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใคร ครีเอทีฟเอเจซี่ที่คว้ารางวัลระดับโลกมากมาย ได้แก่ GREYnJ UNITED ขณะที่ฝ่ายโปรดักส์ชั่นก็คือ ฟีโนมีนอน โปรดักชั่น เฮ้าส์ เรียกว่าคว้ามือทองของวงการมาร่วมครีเอทผลงานชิ้นนี้กันเลย ไม่แปลกใจเลที่งานออกมาเฟี๊ยซซะขนาดนี้.