เมื่อแบรนด์ของคุณไม่ใช่ผู้ค้ารายเดียวในตลาด ยังมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่พร้อมจะชิงส่วนแบ่งการตลาด และผู้บริโภคจะเลือกสินค้าจากแบรนด์ไหนก็ไม่แตกต่างกัน นับเป็นความท้าทายในการสร้างแบรนด์ของการทำธุรกิจในปัจจุบัน ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องใช้กลยุทธ์การตลาดโดยมุ่งเน้นไปที่องค์กรของตนเอง เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ โดยกลยุทธ์ที่แบรนด์ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการสร้างภาพลักษณ์องค์กรคือ การทำ CSR หรือการทำกิจกรรมเพื่อสังคมนั่นเอง
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กิจกรรม CSR ขององค์กรนั้นๆ ประสบความสำเร็จ นอกจากเป็นการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแล้วสิ่งสำคัญกว่านั้น กิจกรรมต้องต่อยอดได้ในระยะยาว และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การมีชื่อบริจาคสิ่งของ หรือจัดกิจกรรมให้ผ่านๆ ไป ตัวอย่างที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้เป็นแคมเปญเพื่อสังคม “ดื่ม.ขยับ.รับสุขภาพดี Drink. Move. Be Strong” จากผลิตภัณฑ์ นมโฟร์โมสต์
หนึ่งในโครงการหลักภายใต้แคมเปญ ดื่ม.ขยับ.รับสุขภาพดี Drink. Move. Be Strong เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง นมโฟร์โมสต์ กับ องค์กรบาสเก็ตบอลแห่งชาติ (National Basketball Association หรือ NBA) เพื่อจัดโครงการ จูเนียร์เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ โดยโฟร์โมสต์ โดยปีนี้โครงการฯ ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ด้วยจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายผ่านกีฬาบาสเกตบอล กระตุ้นให้เด็กไทยหันมาดื่มนมและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยมีเยาวชนจากโรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมแคมเปญมากกว่า 14,000 คน นอกจากนี้ โฟร์โมสต์ยังได้เชิญนักบาสเกตบอลเอ็นบีเอมืออาชีพ วิล บาร์ตัน (Will Barton) แห่งทีมเดนเวอร์ นักเก็ตส์ มาร่วมเป็นโค้ชให้ความรู้และฝึกสอนเยาวชนในค่ายอบรมฯ อีกด้วย
ความน่าสนใจของแคมเปญนี้อยู่ที่ หลังจากสิ้นสุดการอบรมทีมงานได้ทำการคัดเลือกตัวแทน 15 คนแบ่งเป็นชาย 10 คนและหญิง 5 คน เพื่อเข้าร่วมทีมจูเนียร์เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ ออลสตาร์ 2016 และทั้งหมดจะได้เดินทางไปร่วมชมการแข่งขันบาสเก็ตบอลระดับโลกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นการเปิดโอกาสและสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ ให้เยาวชนไทยได้นำไปปรับใช้และสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬาของตัวเอง อีกทั้งยังจะได้พบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ จูเนียร์เอ็นบีเอ ออลสตาร์ 2016 จากประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอีกด้วย
สำหรับบรรยากาศการประกาศผลการคัดเลือก 15 เยาวชนไทย ในงาน “จูเนียร์ เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์” มีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การจัดแข่งขันมินิบาสเกตบอลจาก 2 ทีมดาราวัยรุ่นซีรีส์ดัง ทีมกัปตัน – ชลธร คงยิ่งยง และทีมแบงค์ – ธิติ มหาโยธารักษ์ ดวลกันแบบ 3X3 โดยมีวิล บาร์ตัน มาร่วมเป็นหนึ่งในทีมโค้ช
ทั้งนี้ การใช้พลังของคนมีชื่อเสียงมาสนับสนุนแคมเปญ ยังช่วยสร้างการรับรู้และการจดจำ ที่สำคัญยังสร้างกระแสในหมู่แฟนคลับได้เป็นอย่างดี ในการจัดงานมีกองเชียร์และผู้ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 2,000 คน เต็มพื้นที่อินดอร์ของสนาม Alive Park Hall ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สำหรับผลการแข่งขันแพ้ชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่การสร้างทีมเวิร์ก และสปิริตของผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนที่ได้สื่อสารออกมาได้อย่างดีผ่านบรรยากาศของกิจกรรมมากกว่า
การทำ CSR ของ “นมโฟร์โมสต์” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัด แม้ตัวแบรนด์จะอยู่ในกลุ่มที่ทำตลาดออนไลน์และออฟไลน์มาตลอด หากแต่ในการทำ CSR ในแคมเปญนี้ กลับไม่ได้มุ่งแค่โฆษณาตัวแบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ เท่านั้น แต่มุ่งสร้างการรับรู้ให้คนสังคม ตามเจตนารมณ์ในการส่งเสริมสุขภาพ และภาวะโภชนาการของคนไทยอย่างต่อเนื่องตามนโยบาย CSR ระดับโลกจากบริษัทแม่ ที่เน้นให้การสนับสนุนและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหา และส่งเสริมสุขภาพของเด็กไทยและคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นโครงการ CSR ที่เพิ่มคุณค่าให้องค์กรไปพร้อมๆ กับการมอบประโยชน์ให้สังคมและเยาวชนไทย