บิ๊กแคมเปญโดดเด่นจาก “แสงโสม” ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับโลก

“คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก”
เป็นสโลแกนติดหู ที่เพียงแค่เอ่ยเราก็สามารถนึกถึงแบรนด์ “แสงโสม” ได้ทันที แต่อาจจะมีน้อยคนนักที่จะทราบถึงที่มาที่ไปของสโลแกนดังกล่าวนี้ นั่นเป็นเพราะสโลแกน “แสงโสม” นี้กำเนิดมาจากความตั้งใจของคนไทย ที่ผลิตสินค้าไทยมีคุณภาพทัดเทียมระดับสากล จนสามารถพัฒนาแบรนด์ได้ประสบความสำเร็จ ทำให้แสงโสมได้รับรางวัลจากการประกวดสุราระดับโลกจากต่างประเทศ ต่างๆมากมาย และตั้งแต่นั้นมาแสงโสมจึงเป็นที่รู้จักในนาม แสงโสมเหรียญทอง เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทย ตราบจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ “แสงโสม” ในฐานะแบรนด์ของคนไทยและผู้ให้การสนับสนุนและอยู่เคียงข้างคนไทยที่มีความสามารถและตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเองในระดับโลกตลอดมา จึงได้ผลักดัน 3 แคมเปญใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า “คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยได้ลุกขึ้นมุ่งมั่นทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ และยังนำมาซึ่งชื่อเสียงของประเทศชาติอีกด้วย โดยทำมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ดังนั้น

คอนเสิร์ต SangSom presents คอนเสิร์ต คนไทย…ตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก Bird Ekachai Jearakul

เริ่มจาก “คอนเสิร์ต SangSom presents คอนเสิร์ต คนไทย…ตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก Bird Ekachai Jearakul” เป็นการสานต่อความสำเร็จของ “เบิร์ด เอกชัย เจียรกุล” แชมป์รายการแข่งขันกีตาร์คลาสสิกระดับนานาชาติประจำปี 2014 เวที GFA (Guitar Foundation of America International Concert Artist Competition) และยังเป็นคนไทยและคนเอเชียคนแรกที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ในการคว้าแชมป์เวทีระดับโลกได้ ในงานนี้ “แสงโสม” ได้จัดคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในชีวิตของ เบิร์ด เอกชัย เจียรกุล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้มีโอกาสชื่นชมความสามารถทางด้านดนตรีจากแชมป์กีตาร์ระดับโลก จาก “เบิร์ด เอกชัย เจียรกุล”

นอกจากนี้ ยังเป็นคอนเสิร์ตที่รวมเอาศิลปินระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมCollaboration ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น THE BEST COLLABORATION ในแต่ละแขนงมาร่วมโชว์ที่มากที่สุด อาทิ   ป๊อด ธนชัย อุชชิน, บุรินทร์  บุญวิสุทธิ์, รัดเกล้า อามระดิษ , สิงโต นำโชค ,  โต๋  ศักดิ์สิทธิ์         เวชสุภาพร , อ. ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ที่มาขับร้องบทเพลงของตัวเองในเวอร์ชั่นใหม่ หรือแม้แต่การนำเอาดนตรีไทยมาผสมผสานกับกีตาร์คลาสสิกของเบิร์ด-เอกชัย ซึ่งเชื่อว่าหาชมได้ยากทีเดียว คอนเสิร์ตของแสงโสมในครั้งนั้นเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับวงการดนตรี พร้อมกับสร้างทัศนคติใหม่เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิกในเมืองไทยว่าไม่ได้ฟังยากอย่างที่คิด

นิทรรศการ “คนไทย… ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก”

นิทรรศการแรงบันดาลใจ จัดการแสดงเป็น Art  Gallery ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นยูนีคในรูปแบบของแบรนด์แสงโสม จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22-31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ Atrium 1 Siam center เป็นการต่อยอดจากการจัดคอนเสิร์ต “SangSom presents  คอนเสิร์ต คนไทย… ตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก Bird Ekachai Jearakul” เพื่อบอกเล่าเรื่องราว ความมุ่งมั่น แห่งการซ้อม…ซ้อม…และก็ซ้อม ที่บอกถึงที่ไปที่มาในเส้นทางแห่งชัยชนะของ “เบิร์ด-เอกชัย” โดยหวังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ให้มุ่งมั่นในการตั้งใจทำความฝันของตัวเองให้ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่หวังเอาไว้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของทางแบรนด์แสงโสม ที่ได้ร่วมมอบแรงบันดาลใจและถ่ายทอดประสบการณ์ “คนไทย… ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก”

SangSom presents คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก Road to Carnegie Hall

และสุดท้ายกับบิ๊กแคมเปญของแสงโสม เป็นการตอกย้ำแคมเปญหลัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก” จึงเกิดมาเป็นโครงการ SangSom Road to Carnegie  ที่ “แสงโสม” เปิดรับสมัครเพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีฝีมือด้านดนตรีคลาสสิกของไทยและไปร่วมเวิร์คช้อปสร้างแรงบันดาลใจ ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นเวลาถึง 2 เดือน จนกระทั่งได้ 2 ผู้ชนะมากความสามารถตามคอนเซ็ปต์ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม ได้แก่ “นายชินวัฒน์ เต็มคำชวัญ”  คณะดุริยางคศิลป์ สาขาปฏิบัติดนตรีคลาสสิก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประเภท กีตาร์คลาสสิก และ “น.ส.กัญฐิตา โกมลพันธ์” คณะครุศาสตร์ สาขา ดนตรีศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเภทเครื่องดนตรี  Marimba Low C

เมื่อได้ผู้ชนะทั้ง 2 คนแล้ว “แสงโสม” นำทั้งสองคนบินลัดฟ้าไปยัง Carnegie Hall มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ สถานที่ ที่ศิลปินทั่วโลกต่างใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องมาโชว์บนเวทีแห่งนี้ให้ได้ เป็นเวลาทั้งหมด 7 วัน พร้อมกับเข้าร่วมชมการบรรเลงกีตาร์คลาสสิกของ เบิร์ด-เอกชัย  เจียรกุล เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นับเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ ซึ่ง “แสงโสม” มุ่งมั่นที่จะทำให้การชมคอนเสิร์ตในสถานที่ ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทย สานฝันสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของตนเองและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศให้ได้ในอนาคตต่อไป

นอกจากนี้ แบรนด์แสงโสมยังมีคาแรคเตอร์ของความเป็น Unique & Art โดยมีการจัดคอนเสิร์ต “SangSom MOVEaBAR” เป็นประจำทุกปี คอนเสิร์ตที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้เสพทั้งดนตรีและงานศิลปะ ถูกใจวัยแนว และคออาร์ตอย่างมาก จนได้ชื่อว่าเป็นอีเว้นท์ที่มีความเป็นยูนีคและยังเป็นที่รวมตัว art community ไปแล้ว

ทั้ง 3 แคมเปญใหญ่ของแสงโสม เกิดจากแนวความคิดหลักที่จะผลักดันและสร้าง Inspiration ให้คนไทยเห็นว่า ความมุ่งมั่นตั้งใจทำในสิ่งที่เรารัก ผ่านการ ‘ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม’ สามารถพาเรามาถึงฝันที่ยิ่งใหญ่ทั้งของตัวเองและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้ ที่สำคัญคือ แม้ว่าทั้ง 3 แคมเปญจะจัดในรูปแบบที่แตกต่าง แต่มีความเป็น unityนำไปสู่ธีมคอนเซ็ปต์เดียวกันนั่นคือ   “คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก” ทำให้ผู้บริโภคอยากติดตามกิจกรรมสุดยูนีคของแบรนด์แสงโสมว่าปีหน้า จะนำเสนอในรูปแบบไหนให้เราได้สัมผัสกันอีกครั้ง ซึ่งหากใครสนใจติดตามกิจกรรมดีๆ จากแบรนด์แสงโสมนี้ สามารถเข้าไปอัพเดทความเคลื่อนไหวกันก่อนได้ที่ www.facebook.com/sangsomexperience