ความจริงจากใจลูกบ้าน ถ่ายทอดผ่านบทเพลง Music Marketing โดยบ้านพฤกษา

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เดิมเราเคยคิดว่าผู้ชมที่ดูคลิปโฆษณาส่วนใหญ่ชอบอะไรที่สั้นๆ ไม่ชอบดูโฆษณายาวๆ แต่จากข้อมูลล่าสุดในการจัดอันดับของ Youtube Leaderbord โดย Google Thailand ทำให้เราทราบว่าคนไทยเองก็ชอบโฆษณายาวๆ พอสมควร ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยของโฆษณาที่ได้รับความนิยมมีความยาวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-4 นาที ซึ่งมีความยาวพอๆ กับ Music Video ตัวหนึ่งเลยทีเดียว นี่อาจเป็นคำตอบได้ว่าทำไม Music Marketing ถึงได้มาแรงนัก

baanpruksa-1

แต่อย่างที่เราทราบกันว่า แม้จะมีหลายแบรนด์ที่ทำ Music Marketing ออกมา แต่บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ดรอป เงียบหายไปเลย ไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุทำให้ไม่ดัง ก็อาจจะเป็นเพราะหลายๆ ที่เลือกที่จะเปิดตัวผ่านศิลปินคนทำเพลงก่อน และเมื่อประกาศออกไปตั้งแต่ต้นก็ทำให้คนรู้จักแต่ตัวศิลปิน ฟังแต่เพลงของศิลปินคนนั้น แต่กลับจดจำแบรนด์ไม่ได้เลย แต่ลองมาดูสูตรการทำ Music Marketing ของ “บ้านพฤกษา” ดู เขาทำในสิ่งที่แตกต่างและจุดติดกระแสได้ดีทีเดียว

“บ้านพฤกษา” ทำ Music Marketing โดยเลือก “สิงโต นำโชค” โค้ชคนใหม่จากเวที The Voice มาเป็นตัวแทนถ่ายทอดเสียงเพลงให้กับทุกคน ทั้งนี้สิ่งที่บ้านพฤกษาทำก็คือ เริ่มต้นด้วยการปล่อยเพลงเพราะๆ ออกไปก่อน ชื่อเพลงว่า “ต้นไม้แห่งรัก” จากนั้นจึงค่อยๆ บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงของบ้านพฤกษานั่นเอง

สิงโต นำโชค – ต้นไม้แห่งรัก [Official MV]

httpv://youtu.be/MFgpPfXkeXE

ที่สำคัญคือ เนื้อเพลงเขียนจากประสบการณ์ความประทับใจจริงของบรรดาลูกบ้านในโครงการ ส่วนสาเหตุที่เลือก “สิงโต นำโชค” ก็เพราะเป็นศิลปินที่มีความสามารถ มีสปิริต มีความทุ่มเท และมีภาพลักษณ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ของบ้านพฤษาได้อย่างดี โดยเพลงดังกล่าวนี้ “สิงโต” แต่งร่วมกับ “ตั้ม โมโนโทน” โดยเนื้อเพลงที่อยู่ในเพลงนี้ มาจากจดหมายบอกเล่าความประทับใจ ที่ได้รับจากลูกบ้านจริง แล้วนำมาเรียบเรียงออกมาเป็นบทเพลง บวกด้วยถ่วงทำนองอันไพเราะ อบอุ่น และสัมผัสได้ถึงความเป็นครอบครัว

baanpruksa-2

และทั้งหมดที่ทำออกมาด้วยความตั้งใจนี้ทำให้เกิดยอด organic share เป็นจำนวนมากตั้งแต่วันแรกที่มีการปล่อยเพลงให้ฟังกัน บางคนให้ความเห็นว่าฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น และอยากให้กรุงเทพฯ มีต้นไม้ร่มรื่นเยอะ

baanpruksa-3

ด้วยความที่บ้านพฤกษาเป็นหนึ่งในโครงการของ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และเนื่องด้วยบ้านพฤกษาเป็นโครงการทาวน์โฮมระดับราคากลางๆ คือเริ่มต้นเพียงล้านกว่าบาทเท่านั้น ทำให้กลุ่มลูกค้าโดยทั่วไปเป็นระดับกลาง ที่มีกำลังซื้อไม่สูงมาก หลายครอบครัวประกอบอาชีพเป็นพ่อค้า แม่ค้า หรือทำกิจการเล็กๆ เปรียบเหมือนคนรายได้น้อยแต่สามารถซื้อบ้านได้เองในราคาที่ตัวเองเอื้อมถึง มันคือความภูมิใจของลูกบ้านกลุ่มนี้ ซึ่งที่ผ่านมาทางบ้านพฤกษาได้รับฟีดแบ็คที่ดีจากลูกบ้านมาโดยตลอดถึงความภูมิใจต่างๆ ที่เกิดขึ้น

หลายคนซื้อบ้านของโครงการบ้านพฤกษาไป 10-20 ปีก่อน ฝ่าฟันความยากลำบากนานา จนปัจจุบันลูกหลานเรียนจบ เติบโต ทำงานกันไปหมดแล้วก่อเกิดเป็นความสำเร็จของลูกบ้าน โดยที่ผ่านมาทุกโครงการภายใต้ชื่อบ้านพฤกษามีการโอนเข้าอยู่ตลอด 22 ปี รวมแล้วกว่า 74,000 หลัง และมีลูกบ้านกว่า 300,000 คน

baanpruksa-4

ดังนั้น บ้านพฤกษาจึงไม่ใช่เพียงสถานที่อยู่อาศัยที่แข็งแรง และปลอดภัยเท่านั้น แต่เป็นที่รวมกันของความทุ่มเทของพฤกษาและความทุ่มเทของผู้อยู่อาศัยที่เรายกย่องสปิริตที่มุ่งมั่น ฝ่าฟัน ที่จะสร้างปลายทางเดียวกันคือ บ้าน และวันนี้ที่ดีที่สุด จนก่อเกิดเป็นนิยมของการทำงานที่ว่า “สองความทุ่มเท เพื่อความสำเร็จในบ้านหลังเดียวกัน”

และนี่คือตัวอย่างของการทำ Music Marketing ที่ออกมาจากใจ สะท้อนความเป็นตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ คือมีทั้งความอบอุ่นและความจริงใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่เพลงนี้จะได้รับคำชื่นชมมากมาย และถ้าอยากจะติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการบ้านพฤกษาอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook หรือทางเว็บไซต์บ้านพฤกษา

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •