Starbucks ประกาศมาตรการใหม่เตรียมยกเลิกการโฆษณาทั้งหมดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook, Twitter และ Instagram เพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของคำพูดแสดงความเกลียดชังหรือ Hate Speech ถือเป็นข่าวใหญ่หลังจากที่โลกออนไลน์เพิ่งตื่นตัวกับการโชว์ร้านภาษามือแห่งใหม่ล่าสุดของบริษัทที่ญี่ปุ่น
การเคลื่อนไหวของ Starbucks ได้รับการสนับสนุนจากสมาคม NAACP ที่เน้นเคลื่อนไหวในแฮชแทค #StopHateForProfit เพื่อลดคำพูดแสดงความเกลียดชังบนออนไลน์ โดย Starbucks ย้ำว่าจะหยุดการโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมด และบริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรสื่อและองค์กรสิทธิพลเมืองเพื่อหยุดยั้งการพูดแสดงความเกลียดชังเช่นเดิม
BREAKING: @Starbucks pulling advertising from Facebook (and all other social media platforms)
Starbucks is a major Facebook advertiser, spending $95 million on the platform last year pic.twitter.com/i5baH12ezM
— Judd Legum (@JuddLegum) June 28, 2020
Starbucks ถือเป็นแบรนด์ล่าสุดที่ประกาศคว่ำบาตรต่อ Facebook หลังจากที่หลายแบรนด์ทยอยประกาศงดโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้บริษัทโซเชียลมีเดียมีมาตรการควบคุมข่าวปลอมและคำพูดแสดงความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มให้จริงจัง แบรนด์ที่เข้าร่วมในขณะนี้แล้วได้แก่ Unilever, Honda, Verizon และ Patagonia
การประกาศงดโฆษณาบนโซเชียลมีเดียถือว่าเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ Starbucks ซึ่งเน้นเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียมของคนในสังคม เห็นได้ชัดจากร้านภาษามือหรือ Signing Store ที่ Starbucks แจ้งเกิดใหม่เป็นแห่งที่ 5 เพื่อรองรับผู้พิการทางหูทั่วโลก โดยพนักงานบริการส่วนมากจะเป็นผู้พิการทางการได้ยิน สามารถใช้ภาษามือโต้ตอบกับลูกค้าได้คล่อง แต่ผู้ที่ใช้ภาษามือไม่เป็นก็สามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจ
