Mercedes-Benz เปิดตัวแคมเปญใหม่ที่ดึงเอาโลโก้ของตัวเองไปแทรกกับปรากฏการณ์และสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นได้อย่างชาญฉลาด แต่ปรากฏว่าแคมเปญนี้ถูกล้อเลียนว่าเข้าข่ายเป็น “Greenwashing” หรือการฟอกเขียวให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ว่ารับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง Mercedes-Benz ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนเรื่องการรักษ์โลกมากพอ
แคมเปญที่ถูกล้อเป็น greenwashing” มีชื่อว่า Nature or Nothing โดยผู้ผลิตรถยนต์ได้นำวงกลมในโลโก้ มาติดกับภาพจากธรรมชาติจนมองได้เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อแสดงถึงแง่มุมของแบรนด์ที่มีชีวิตชีวาของธรรมชาติแต่งแต้มไว้ ทั้งใบไม้ รังผึ้ง และดอกกุหลาบ กราฟิกเหล่านี้ได้รับความสนใจในเชิงบวกอย่างมากใน LinkedIn แต่กลับถูกโจมตีอย่างมากในแพลตฟอร์ม Wherefrom ซึ่งเน้นโจมตีแบรนด์ที่พยายามฟอกเขียวตัวเองจนผู้บริโภคเข้าใจผิด
Wherefrom มองว่า Mercedes-Benz AG ในเยอรมนีไม่ได้ดำเนินการมากพอที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมมือกับเอเจนซี่ 10 Days ในลอนดอน แปลงแคมเปญของ Mercedes-Benz โดยตั้งชื่อกลับกันว่า Nothing or Nature แล้วจึงนำเอาวงกลมสไตล์เดียวกับโลโก้ Mercedes-Benz เข้ากับสัญลักษณ์ของภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การรั่วไหลของน้ำมัน ไฟป่า ดินที่แห้งแล้ง และรอยแตกในน้ำแข็ง
มีเพียงภาพเดียวที่ Wherefrom ได้ตัดสินใจที่จะใช้ภาพเดิมแล้วเปลี่ยนเพียงคำว่า Nothing or Nature คือภาพสายฟ้าแลบ ซึ่งแม้จะยังคงมีสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ติดอยู่เช่นเดิมแต่องค์กร Wherefrom ตีความภาพแตกต่างออกไป ว่าภาพพายุสายฟ้ายังคงเหมือนเดิม แถมยังเกิดเพิ่มบ่อยครั้งขึ้นเสียด้วย ตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน
ข้อความในโฆษณายังเปลี่ยนจาก “The new electric vehicle generations… it’s already here” มาเป็น “Climate change. It’s already here.” เป็นการแปลงจากข้อความเดิมคือ “รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่… มาแล้ว” เพื่อบอกว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อยู่ที่นี่แล้ว” แทน