เพราะของเล่นมีพลังวิเศษในการสื่อสาร แถมเป็นสิ่งที่อยู่ในโลเคชันพิเศษตรงกลางระหว่างโลกของผู้ใหญ่และโลกของเด็ก แบรนด์ของเล่นชื่อดังจึงสร้างสรรค์เป็นแอนิเมชั่นดูอบอุ่น ที่จะจุดประกายให้ผู้ใหญ่ใส่ใจกับการเล่นกับเด็กมากขึ้น สมชื่อแฮชแทค #LetsBeKids ที่ตั้งตามแคมเปญ Let’s Be Kids Together
ไอเดียของแคมเปญนี้คือเด็กน้อยมักสามารถแสดงให้โลกเห็นว่า “การเป็นเด็ก” นั้นเป็นอย่างไรผ่านของเล่น ขณะที่ผู้ใหญ่ก็สามารถแสดงให้เด็กเห็นว่าทุกคน “ได้ยินหนูนะ” ผ่านของเล่นเช่นกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ของเล่นมีความสำคัญมากกว่าที่เคย เป็นแกนหลักที่ทำให้ Fisher-Price และเอเจนซี่ Wieden+Kennedy Portland รวมตัวทำแคมเปญนี้
กลไกหลักของแคมเปญคือภาพยนตร์ใหม่ “Let’s Be Kids Together” จากการกำกับขอคู่หูดูโอ้ Against All Odds ฝีมือแอนิเมชั่นจาก Passion Pictures เนื้อหาภายในวิดีโอเน้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงสินค้าพระเอกของ Fisher-Price ที่ช่วยพาให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาพบกัน ทั้งของเล่นโทรศัพท์ช่างคุย Chatter Telephone, ไซโลโฟนเสียงเพราะ Xylophone, รถเข็นคุณหนูที่พ่นฟองสบู่ได้ Bubble Mower และชุดตุ๊กตาธีมฟาร์มแสนอมตะ Little People Farm