อีกกรณีศึกษาสำคัญที่คนทำโฆษณาต้องใส่ใจ เพราะล่าสุดทีมการตลาดของสินค้ากลุ่มซีสในเครือยักษ์ใหญ่ Mondelez พลาดท่าจนถูกลงโทษโดนสั่งห้ามเผยแพร่โฆษณา โดยหน่วยงานกำกับดูแลในอังกฤษตัดสินว่าโฆษณานี้มีความเสี่ยงทำให้ผู้ชมเยาวชนทำตามจนอาจเกิดเหตุสำลักได้ เนื่องจากโฆษณามีการฉายภาพเด็กหญิงเล่นห้อยโหนในท่าตีลังกาและกำลังรับประทานชีสอย่างสงสัยใคร่รู้
โฆษณาเจ้าปัญหานี้เป็นของชีสยี่ห้อ Dairylea ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมเครือ Mondelez ที่วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ปรากฏว่าหน่วยงานกำกับดูแลการโฆษณาของสหราชอาณาจักร (ASA) ได้สั่งห้ามไม่ให้เผยแพร่โฆษณาล่าสุดของ Dairylea โดยโฆษณานี้ถ่ายทอดบทสนทนาของเด็กหญิง 2 คนที่ห้อยศีรษะจากบาร์ทรงตัว ก่อนจะคุยกันว่าอาหารจะเดินทางไปที่ไหนหากคนรับประทานนั้นลิ้มรสเมื่อยังอยู่ในท่ากลับหัวหลับหางอยู่ โดย 1 ใน 2 ของเด็กหญิงกำลังรับประทานชีส Dairylea อยู่
An advert that shows two girls hanging upside down while eating Dairylea cheese triangles has been banned after people complained it could encourage dangerous behaviour https://t.co/DSq9UKO36Z
— Sky News (@SkyNews) January 19, 2022
พฤติกรรมที่แสดงในโฆษณาอาจชักจูงให้เด็กลองปฏิบัติตาม การสั่งแบนโฆษณาจึงเกิดขึ้นหลังจากการออกอากาศทางบริการวิดีโอออนดีมานด์ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 มีผู้ร้องเรียน 14 คนยื่นคำร้องคัดค้านแคมเปญโฆษณาดังกล่าว โดย 1 ในผู้ร้องเรียนอ้างว่ามีเด็กอายุ 3 ขวบในครอบครัวที่เลียนแบบการกระทำของเด็กผู้หญิงในโฆษณาแล้ว
Mondelez ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Dairylea ชี้แจงว่าแคมเปญนี้มุ่งเป้าไปที่ผู้ใหญ่และเน้นออกอากาศผ่านช่องทางรายการสำหรับผู้ชมที่ไม่ใช่เด็กเล็ก โดยอ้างถึงงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าทิศทางที่อาหารถูกกลืนนั้นไม่มีนัยสำคัญ และโอกาสที่เด็กจะสำลักนั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม ASA เชื่อว่าโฆษณานี้มีความเสี่ยงที่เด็กจะทำตามขณะเล่นห้อยโหน และเมื่อได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก็ได้ข้อสรุปว่าโฆษณาดังกล่าวอาจเป็นตัวอย่างที่น่ากังวล ดังนั้น Mondelez ได้ยอมรับคำตัดสินและยินยอมตัดฉากที่เป็นปัญหาทิ้งไป หากตัดสินใจที่จะนำโฆษณากลับมาฉายใหม่
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดย BBC โฆษกของ Mondelez กล่าวว่าบริษัทผิดหวังกับคำตัดสินที่ได้รับ แต่จะเคารพการตัดสินใจ และบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะโฆษณาอย่างมีความรับผิดชอบ และทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายรายเพื่อให้แน่ใจว่าการตลาดของบริษัทสอดคล้องกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ที่มาภาพ : Twitter TSC International News (@news_tsc)