เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดแบบ Collaboration ที่น่าสนใจ เมื่อ Epic Games ผู้พัฒนาเกม Fortnite ได้จับมือกับ Sabrina Carpenter ศิลปินสาวที่กำลังมาแรงระดับโลก เปิดตัว Sabrina Carpenter Collection ในซีซั่น 8 ของ Fortnite Festival อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
ความพิเศษของการร่วมมือครั้งนี้คือการสร้างประสบการณ์แบบองค์รวมให้กับทั้งแฟนเพลงและผู้เล่นเกม โดยผู้เล่นสามารถปลดล็อคสกิน (ชุดตัวละคร) ในรูปแบบของ Sabrina ได้ทั้ง 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกเป็นชุดสีเหลืองสไตล์ babydoll dress ที่ได้แรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าในทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุดของเธอ ออกแบบโดย Jared Ellner ร่วมกับ Victoria’s Secret และ Maison Raksha พร้อมเครื่องประดับระยิบระยับสุดหรู ซึ่งเวอร์ชั่นนี้จะมีให้สำหรับผู้ที่ซื้อ Festival Music Pass เท่านั้น
SABRINA CARPENTER WORLD DOMINATION😭 pic.twitter.com/kAUpZdxyMF
— Updates Sabrina Brasil 💋 (@UpdatesBrinaBR) April 8, 2025
ส่วนสกินเวอร์ชั่นที่ 2 มีชื่อว่า “Tour-Ready Sabrina Carpenter” เป็นชุดสีชมพูอ่อนสุดน่ารัก พร้อมเวอร์ชั่นสีฟ้าเปล่งประกาย ออกแบบโดย Ludovic de Saint Sernin และ Michael Schmidt Studios ซึ่งสกินนี้สามารถซื้อได้ผ่าน Item Shop ในเกม
นอกจากนี้ยังมีไอเทมประกอบสุดพิเศษ ทั้งขวานรูปไมโครโฟนเพชรระยิบระยับ และกระเป๋าหลังรูปกีตาร์ ที่จะทำให้การแสดงในเกมสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
There’s no need to say please anymore. @SabrinaAnnLynn is almost here! 💋 pic.twitter.com/dvO3NZ4f2j
— Fortnite (@Fortnite) April 8, 2025
ที่สำคัญ ผู้เล่นยังสามารถเพลิดเพลินไปกับเพลงฮิตของ Sabrina Carpenter ในเกมได้ด้วย ทั้ง “Espresso”, “Nonsense”, “Feather”, “Juno” และ “Taste” ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเป็น Jam Tracks ให้เล่นได้ในโหมด Fortnite Festival และยังมีท่าเต้น (Emote) พิเศษของเพลง “Taste” และ “Please Please Please” ที่จะทำให้ตัวละครของทุกคนเต้นไปตามจังหวะเพลงได้อย่างสนุกสนาน
Sabrina Carpenter เดินตามรอยศิลปินระดับโลกอย่าง Lady Gaga, The Weeknd และวง Metallica ที่เคยร่วมงานกับ Fortnite มาก่อนหน้านี้ ตอกย้ำการเปลี่ยนสถานะของ Fortnite จากเกม Battle Royale ธรรมดา กลายเป็นพื้นที่เทศกาลดนตรีและวัฒนธรรมป๊อปที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยไม่หยุดนิ่ง ถือเป็นอีกตัวอย่างชั้นเยี่ยมของการตลาดแบบ Cross-Platform ที่เชื่อมโยงโลกแห่งความบันเทิงและเกมเข้าด้วยกัน สร้างประสบการณ์ที่มีมูลค่าให้ทั้งแบรนด์ศิลปิน และแบรนด์เกม ในขณะเดียวกันก็มอบสิ่งที่แฟนของทั้งสองฝ่ายต้องการ