Leitz นั้นมีที่มาจาก Leitz Family ซึ่งถือว่าเป็นผู้ให้กำเนิด Leica Camera ก็ว่าได้ จุดเริ่มต้นคือ Mr. Ernst Leitz ผู้เป็นพ่อเริ่มบริหารธุรกิจในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเลนส์ในปี 1869 และตั้งชื่อว่า Ernst Leitz Optische Werke ผลิตกล้องจุลทรรศน์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและการแพทย์ (นี่จึงเป็นเหตุผลที่ LEICA มีความเชี่ยวชาญเรื่องเลนส์เป็นอย่างดี)
ในปี 1905, Mr. Oskar Barnack วิศวกรและนักออกแบบซึ่งทำงานให้กับ Ernst Leitz ในขณะนั้น เกิดไอเดียในการย่อขนาดฟิล์มเนกาทีฟให้เล็กลง แต่สามารถเก็บรายละเอียดได้คมชัดชึ้นผ่านเลนส์คุณภาพสูง เพื่อให้สามารถขยายขนาดภาพให้ใหญ่ขึ้นได้โดยไม่สูญเสียความคมชัด เป็นแนวความคิดที่ว่า “small negative, large picture”, เพราะในขณะนั้นขนาดของฟิล์มเนกาทีฟจะแปรผันกับขนาดของรูปภาพที่ต้องการ
ต่อมาในปี 1914 Mr. Oskar Barnack ได้ประสบความสำเร็จในการคิดค้นกล้องตัวแรกโดยบริษัท Leitz โดยใช้ชื่อว่า UR-LEICA แต่ด้วยขณะนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้การผลิตกล้องชนิดนี้ต้องหยุดไป
ซึ่งที่มาของชื่อ LEICA นั้นก็เป็นการสนธิกันของสองคำคือ LEI(tz) + CA(mera) เป็นความหมายว่ากล้องจากบริษัทไลท์ซนั่นเอง แต่จุดพลิกประวัติศาสตร์ในอุตสาหกรรมธุรกิจกล้อง ของ Leica จริงๆ นั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 1924 เมื่อ Ernst Leitz II ตัดสินใจนำกล้อง UR-LEICA ที่ Oskar Barnack คิดค้นขึ้นมาไปผลิตเป็นกล้อง LEICA 1 โดยใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. แบบเดียวกับที่ใช้ถ่ายภาพยนตร์ ถึงแม้ LEICA จะไม่ใช่บริษัทแรกที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. ในกล้องถ่ายรูป แต่เป็นบริษัทแรกที่ทำออกมาแล้วสามารถใช้งานได้จริง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนอุตสาหกรรมการถ่ายภาพให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และเป็นที่มาของฟิล์มขนาด 35 มม. ซึ่งเป็น Format ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจนถึงปัจจุบัน
Oskar Barnack (1879–1936) ผู้คิดค้น LEICA 1 โดยใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. และภาพถ่ายที่ถ่ายขึ้นเพื่อทดลองกับกล้อง LEICA
กล้อง LEICA ที่ Oskar Barnack คิดค้นในอดีต
อย่างที่เราทราบกันว่าในยุคสมัยหนึ่งกล้องเป็นอุปกรณ์ที่มีรูปร่างเป็นกล่องขนาดใหญ่บนขาตั้ง และต้องเปลี่ยนฟิล์มไปในทุกๆ ภาพ แต่หลังจากการคิดค้น UR-LEICA และเปิดตัว LEICA 1 ในเวลาต่อมานั้น ประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการถ่ายภาพก็ต้องจดบันทึกหน้าใหม่ เมื่อกล้องขนาดใหญ่ถูกย่อส่วนลงมาให้พกพาได้ไปในทุกที่ ประกอบกับเลนส์คุณภาพสูงได้ทุกรุ่น ที่สำคัญคือ พร้อมในทุกๆ สถานการณ์ ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง
ดังนั้นชื่อ Leitz จึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น และดีเอ็นเอสำคัญของ LEICA ที่แฟนตัวจริงของแบรนด์จะเข้าใจ และตื่นเต้นเมื่อมีการหยิบใช้ชื่อนี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ใดของบริษัท
ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ Leica ที่เมือง Wetzlar ทั้งศูนย์ได้ถูกเรียกว่า the Leitz Park เพื่อเป็นเกียรติและเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และนอกเหนือจากนั้นใน Leitz Park ก็มี Cafe Leitz และ Ernst Leitz Hotel
LEICA Community
วัฒนธรรมของ LEICA ในปัจจุบันนั้น เติบโตและพัฒนาไปในวงกว้าง จากเดิมที่กล้อง LEICA ถูกจำกัดไว้ด้วยความเข้าใจที่ว่าเป็นกล้องสำหรับมืออาชีพและใช้ยาก แต่ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหลายที่ต่างกันทำให้ผู้ใช้เปิดใจและเข้ามาสัมผัสเทคโนโลยีและคุณภาพขีดสุดของ LEICA
มากขึ้น เห็นได้จากการที่กล้อง LEICA กลายเป็นเครื่องมือถ่ายทอดภาพไลฟ์สไตล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว พักผ่อน และกินดื่มต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เสมือนว่าเป็นศูนย์กลางของกลุ่มคนที่ใช้กล้อง LEICA เพื่อนำเสนอ แลกเปลี่ยนไอเดียของการใช้ชีวิต รวมไปถึงเทคนิคการถ่ายภาพ ผ่านทางภาพถ่ายของตัวเอง
เปิดตัว LEICA GALLERY BANGKOK และล่าสุดกับ Café Leitz by Pacamara
ด้วยเหตุนี้ LEICA CAMERA THAILAND ในฐานะผู้ดูแลแบรนด์ LEICA ในประเทศไทย ตั้งแต่การบริหารแบรนด์ จัดจำหน่าย สนับสนุนวงการช่างภาพ LEICA ด้วยการเปิด LEICA GALLERY BANGKOK และล่าสุดกับ Café Leitz by Pacamara ที่จะเป็นศูนย์กลางของคนรัก LEICA ด้วยการสร้างพื้นที่ไลฟ์สไตล์ที่เปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ LEICA ทุกคนให้เข้ามาพบปะ มีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนทัศนคติ ไอเดีย และเทคนิคต่างๆ ผ่านบรรยากาศเท่ๆ สไตล์ LEICA ในรูปแบบของคาเฟ่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และนำเสนอสินค้าเหมือนกับร้านไลก้าทุกประการ
Café Leitz by Pacamara เราไม่ได้วางตัวเป็นเพียงผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสุดเท่านั้น แต่หากต่อยอดคำจำกัดความของความหรูหรา เพื่อยกระดับรสนิยมและการเสพประสบการณ์ เช่นเดียวกันกับเหล่าผลงานชิ้นเอก อันเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อของ ไลก้า ซึ่งเป็นผลลัพธ์ความลงตัวของจุดสุดยอดทางวิศวกรรมการผลิตและงานฝีมือชั้นสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของไลก้า เราหลงใหลความสมบูรณ์แบบของภาพถ่ายที่เกิดขึ้นจากความทุ่มเทและมุมมองของช่างภาพผ่านวิวไฟน์เดอร์และเลนส์ไลก้า เพื่อสร้างประสบการณ์หนึ่งเดียวที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้
เช่นเดียวกันกับ พาคามาร่า คือ Coffee Roaster หรือผู้จำหน่ายเมล็ดกาแฟชื่อดังเจ้าหนึ่งของไทย
และในฐานะของการเป็นผู้นำร้านกาแฟประเภท Specialty ที่จะเป็นร้านที่สร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟ ตั้งแต่เพาะบ่มความรู้เรื่องกาแฟอย่างลึกซึ้ง การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์จากแหล่งปลูกต่างๆ ทั่วโลก มาสร้างความพิเศษ มีเรื่องราวการคั่วเมล็ดกาแฟที่หลากหลาย วิธีชงกาแฟแบบต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือก และสุดท้ายวิธีการดื่มกาแฟ ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละแก้ว ประหนึ่งงานศิลปะที่พาคามาร่าทุ่มเทมอบให้กับวงการกาแฟจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก
ไลก้า และ พาคามาร่า คือ การพบกันของจิตวิญญาณการถ่ายภาพที่เหนือชั้นด้วยสมรรถนะมาพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์รสชาติ จุดสมดุลของความเคร่งครัดรักษาคุณภาพกับสุนทรียศาสตร์ของผลงานถูกแสดงออกมาเป็นประสบการณ์ใหม่ที่กระตุ้นเร้าโสตประสาทสัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ใหม่ให้กับผู้บริโภค
นอกเหนือจากนั้น ไลก้าเชื่อในการก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าสามารถมาสนุกกับจิตวิญญาณของไลก้าในบริบทที่แตกต่างไปจากเดิม รูปแบบของร้านที่เป็นกึ่งไลฟ์สไตล์สเปซกึ่งคาเฟ่จึงเปิดต้อนรับและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลายวัย และการจับมือกับ พาคามาร่า ผู้ซึ่งยึดถือไอเดียการสร้างสรรค์งานแบบเดียวกันก็ช่วยเติมเต็มจุดมุ่งหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์