นักเรียนสาวม.ปลายถ่ายเอ็มวีส่งเสริมพุทธฯแบบญี่ปุ่นจนดังไปทั่วประเทศ

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

NumNumGirls2

ในประเทศญี่ปุ่น วัฒนธรรมป็อบเคาเจอร์อย่างกลุ่ม “ไอดอล” นั้นเป็นที่แพร่หลายในทุกวงการไม่เว้นแม้แต่ในวงการการศึกษาและศาสนา

เมื่อไม่นานมานี้สาวๆ ม.ปลายญี่ปุ่นในชมรมพระพุทธศาสนาของ Kyushu Ryukoku High School ตั้งอยู่บนเกาะ Kyushu ประเทศญี่ปุ่นตั้งวง Num-Num Girls กรุ๊ปไอดอลสาวม.ปลายเพื่อโปรโมทกิจกรรมของชมรมโดยการอัพโหลดคลิปเต้นของกลุ่มลงบน YouTube ผลปรากฏว่าเป็นที่นิยมถล่มถลายจนถูกสั่งปิดตัวด้วยข้อหา “ป็อบปูล่ามากเกินไป”

กลุ่ม Num-Num Girls ของสาวๆ เป็นชื่อย่อนำมาจากบนสวดของพระที่ขึ้นว่า นโม อมิตา บุตซึ ซึ่งแปลงมาจากบทสวดมนต์ภาษาสันสกฤต แปลว่า ฉันมั่นใจในพระพุทธผู้เป็นแสงและชีวิต โดยเนื้อหาในเอ็มวีของพวกเธอคือการเผยแพร่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าออกไปในเรื่องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและสนุกสนาน

httpv://youtu.be/sMCqJzc9smg

สาวทั้ง 13 คนจัดการแสดงทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนจนกลายเป็นที่นิยมในเวลาไม่นาน ถึงขั้นมีการจัดขายซีดีซิงเกิ้ลแรกชื่อว่า End of Summer Num Num Time ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงในราคา 1.3 พันเยน (ราว 380 เยน)

NumNumGirls

ใครจะไปเชื่อว่ากิจกรรมเล็กๆ ของเด็กสาวจะกลายเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศจนถึงขั้นมีสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์ มีรายการทีวีมาถ่ายทำ อย่างไรก็ตาม เหล่าพ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กๆ เริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของเด็กๆ จึงไปกดดันให้โรงเรียนขอให้สาวๆ ยกเลิกการทำกิจกรรมนี้

ซึ่งตามกฏของโรงเรียน เด็กๆ สามารถจัดแสดงต่อได้ภายในโรงเรียนหรือวัดแถวบ้านเท่านั้น และพวกเธอต้องยกเลิกการจัดตั้งชื่อกลุ่มไอดอลเพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ทั่วไป พวกเธอจะต้องไม่เป็นกลุ่มไอดอลแต่ยังสามารถโปรโมทศาสนาพุทธได้ตามปกติ

Sho Koubai โปรดิวเซอร์ หัวหน้านักบวชและหัวหน้าของแผนก Religious Education ของโรงเรียนวัย 41 ปียังหลังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าชื่อเสียงของกลุ่มจะทำให้ศาสนาพุทธเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าความปลอดภัยของเด็กๆ ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งก่อน

ตอนนี้กลุ่มของเด็กๆ จึงยังดำเนินกิจกรรมต่อไปโดยไม่โปรโมทในชื่อ Num Num Girls แล้ว แต่ก็ยังป็อบปูล่าเหมือนเดิมล่ะนะ

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง