สมาคมโฆษณาฯ เผยเวที Adman Awards & Symposium 2014 สื่อดิจิทัลมาแรง จำนวนผลงานเข้าประกวดมากที่สุด ขณะที่ทีวีและสิ่งพิมพ์ลดลง 34% และ 17% ตามลำดับ ผลจากเศรษฐกิจชะลอตัวและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป สะท้อน “ดิจิทัล” กลายเป็นช่องทางหลัก ควบคู่โทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ เพื่อตอบโจทย์การขยายฐานลูกค้า
อ่อนอุษา ลำเลียงพล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการจัดงานประกวด Adman Awards & Symposium 2014 ภายใต้แนวคิด เดอะ นิว ฟรอนเทียร์ (The New Frontier) ที่ต้องการกระตุ้นเตือนถึงการรับมือความเปลี่ยนแปลงหลายมิติของโลกการสื่อสาร สำหรับชิ้นงานประกวดปีนี้ แม้จะมีจำนวนลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ หากน่าสนใจที่ผลงานหมวดดิจิทัลยังครองแชมป์จำนวนชิ้นงานเข้าประกวดต่อเนื่องปีที่สอง ตอกย้ำว่าดิจิทัลก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ กลายเป็นช่องทางสื่อสารหลักของคนไทยควบคู่กับสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์
“ด้วยจุดเด่นของสื่อดิจิทัลที่ใช้งบประมาณน้อยกว่า แต่สามารถเข้าถึงและตอบสนองการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังวัดผลได้แม่นยำตรงกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลต่อวิธีสร้างสรรค์งานของนักการตลาดที่ให้ความสำคัญกับการนำสื่อดิจิทัลไปผสานใช้ร่วมกับสื่ออื่นๆ เพื่อทำแคมเปญกระตุ้นยอดขาย และขยายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น”
วีรชน วีรวรวิทย์ ประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวด กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมงานโฆษณาไทยปีนี้ ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับวงการโฆษณาโลก นั่นคือ เห็นการเกิดขึ้นของโฆษณารูปแบบใหม่ ที่มีคาแรคเตอร์และใช้วิธีนำเสนอใหม่ๆ ที่ผสมผสานและกระจายออกไปตามสื่อใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับธีม เดอะ นิว ฟรอนเทียร์ ในการค้นหาวิธีพิชิตพรมแดนใหม่
สำหรับกระแสที่มาแรงและเป็นหัวใจหลักของครีเอทีฟไทยและเทศในปัจจุบัน คือ การสร้างสรรค์งานด้วย “คอนเทนท์ ไอเดีย” (Content Idea) อาวุธสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์และยอดขาย เพราะสามารถสร้างเรื่องราวที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มการสื่อสารที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน จนเกิดเป็นความผูกพันกับ แบรนด์ ช่วยผูกใจผู้บริโภคได้มากกว่าแค่สร้างการรับรู้
ส่วนงานที่ได้รางวัลแอดแมนฯ ปีนี้ พบว่า มีความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ กล้าฉีกกรอบแพลตฟอร์มสื่อสารแบบเดิม ทั้งยังสามารถตอบโจทย์สะท้อนแบรนด์นั้นๆ ได้จริง
“ถือเป็นสัญญาณที่ดี ว่าแม้ในสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว เหล่าเอเยนซี่และลูกค้าต่างยังให้ความสำคัญและกล้านำเสนอแคมเปญที่มีความสดใหม่เข้าสู่ตลาด ไม่เน้นแค่โปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย หรือแข่งสงครามราคาเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าวันนี้โฆษณาไทยกำลังกลับเข้าสู่ทิศทางการสร้างสรรค์งานบนพรมแดนใหม่ พร้อมแข่งขันและพิชิตรางวัลใหญ่บนเวทีโฆษณาโลกได้อีกครั้ง” วีรชน กล่าว
อนึ่ง ชิ้นงานโฆษณาที่ส่งเข้าประกวดปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 762 ชิ้น ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20 % โดยผลงานหมวดที่ส่งเข้ามามากสุด 3 อันดับแรก คือ สื่อดิจิตัล 143 ชิ้น สื่อโฆษณานอกบ้านและแฝงในบรรยากาศ 121 ชิ้น และ สื่อสิ่งพิมพ์ 109 ชิ้น
โดย รางวัลเอเยนซี่แห่งปีที่ได้รับคะแนนรวมสูงสุด (Agency of the Year) ตกเป็นของ โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ส่วน รางวัลดิจิตอลเอเยนซี่ยอดเยี่ยม (Digital Agency of the Year) ได้แก่ อะแด็ปเตอร์ ดิจิตอล และซีเจเวิร์ค ที่คว้าตำแหน่งไปครองร่วมกัน ขณะที่ รางวัลลูกค้าแห่งปี (Advertiser of the Year) ตกเป็นของ เนเจอร์กิฟ 711 และ รางวัลโปรดักชั่นเฮ้าส์แห่งปี (Production House of the Year) ได้แก่ เนคเกด
สำหรับ รางวัลภาพยนตร์โฆษณายอดเยี่ยม (Best of Film) ได้แก่ แคมเปญโฆษณา “เดอะซีเคร๊ท” ของโอเรียนทอล พริ๊นเซส โดย เจดับบลิวที กรุงเทพฯ
Best of Film: แคมเปญโฆษณา “เดอะซีเคร๊ท” ของโอเรียนทอล พริ๊นเซส โดย JWT Bangkok
และรางวัลสื่อสิ่งพิมพ์ / สื่อโฆษณานอกบ้านแยอดเยี่ยม (Best of Print / Out of home) ได้แก่ผลงาน “A/B/P” โดย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
Best of Print / Out of home ได้แก่ผลงาน “A/B/P” โดย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง
ทั้งนี้รางวัลขวัญใจมหาชนประจำปีนี้เป็นของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จากผลงานชื่อชุด เทียร์ (น้ำแร่เพอร์ร่า) โดย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง