เทคโนโลยีมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ทุกองค์กรต้องปรับเปลี่ยนตามให้ทัน ทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจ SME ดังนั้นการได้รู้ว่าเทคโนโลยีอะไรที่กำลังจะมา และจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับองค์กรได้อย่างไรคือหัวใจสำคัญ และต่อไปนี้คือ 8 เทคโนโลยีที่จะมีความโดดเด่นมากขึ้นในปี 2016
1) Digital Transformation ฟังดูแล้วอาจจะยาก แต่ถ้าแปลให้ง่ายคือ การนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้งานภายในองค์กรให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่การใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต แต่ต้องมีการนำระบบไอที ซอฟต์แวร์มาช่วยบริหารจัดการ พัฒนาเว็บไซต์และระบบ e-Commerce ให้มีความทันสมัยน่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้เกิดขึ้น ถ้ายังไม่ค่อยเข้าใจ ให้อ่านข้อต่อไป
2) Cloud Computing ได้ยินกันมาหลายปี บอกได้เลยว่าคนทั่วไปแบบเราๆ เริ่มใช้งานคลาวด์มากขึ้น นอกจากอีเมล และโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีความเป็นคลาวด์ (เก็บข้อมูลอยู่ในอากาศ) ตอนนี้คนเริ่มฝากไฟล์ข้อมูล รูปภาพ วิดีโอบนคลาวด์กันเยอะแยะ แต่องค์กรธุรกิจยังใช้งานน้อยอยู่ เพราะคลาวด์สำหรับธุรกิจมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้น แต่เชื่อว่าปี 2016 จะมีความจำเป็นมากขึ้น
3) Sharing Economy มาแรงอีกเช่นกัน ถือเป็นโมเดลธุรกิจแบบใหม่ ที่ใช้ลักษณะแชร์ข้อมูลและบริการ เพื่อสร้างธุรกิจที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น uBer หรือ Grab ที่ไม่ได้มีบริการของตัวเอง แต่ใช้การ Sharing Economy จากบริการต่างๆ ที่มีอยู่และใช้ความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อสร้างบริการและรายได้ให้ตัวเอง นอกจากนี้ยังมี Airbnb และ FavStay ที่มีการแชร์ที่พักอาศัย ดังนั้นหากธุรกิจใดที่สามารถทำการ Sharing Economy ได้ จะมีโอกาสเติบโตได้เร็วมาก
4) Mobile คือสุดยอดเทรนด์ในปี 2016 นอกจากที่บริการ 4G จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการและแพร่หลายแล้ว คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทยจะเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดของประชากร ทำให้จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นตาม เกิดการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ทำให้ธุรกิจจำนวนไม่น้อย มีการสร้างสรรค์เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นเพื่อต้อนรับจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น และรวมถึงการทำ Social Network เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคด้วย
5) Payment คือช่องทางที่ทำให้เงินไหลเข้าสู่องค์กร ปี 2016 ระบบ e-Payment และ Mobile Payment จะกลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีผู้รับบริการชำระเงินทั้งทางเว็บไซต์และทางโมบายเพื่อให้บริการกับภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ SME ไม่ต้องพึ่งแต่จากธนาคารเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าและชำระเงินได้ทันที อย่างสะดวกและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
6) Internet of Things หรือ IoT ต้องบอกว่าอาจจะยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ให้จับตาดูไว้ให้ดี อนาคตทุกอย่างจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทั้งหมดเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน ตัวอย่างเช่น Smart Multifunction Printer หรือเครื่องพิมพ์ที่มีความฉลาดมากขึ้น สามารถสั่งงานผ่านโมบายและคลาวด์ สามารถควบคุมการทำงานจากระยะไกล เป็นต้น
7) Big Data องค์กรระดับ SME อาจจะยังมองไม่เห็น Big Data ชัดเจนนัก แต่องค์กรใหญ่ โดยเฉพาะที่มีการทำโฆษณาผ่านทาง Social Network เชื่อว่าจะต้องคุ้นเคยกับ Big Data มากขึ้น โดยจะเห็นประโยชน์ของข้อมูลขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย วัดผลได้นำไปสู่โอกาสความสำเร็จในธุรกิจ ดังนั้นเทคโนโลยี Big Data จะเป็นที่จำเป็นแพร่หลายมากขึ้น
8) Security ไม่ใช่แค่การรักษาความปลอดภัยทั่วไป แต่เฉพาะเจาะจงที่ระบบไอทีและออนไลน์ เมื่อมีการใช้เทคโนโลยีมาก มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและมีเรื่องธุรกรรมการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ระบบ Security จึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก แต่เมื่อเรา Go Online กันมากขึ้น ระบบป้องกันก็ต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเตรียมศึกษาและจัดสรรงบประมาณไว้รอได้เลย