หลายคนคงได้เห็นวิดีโอ “ของขวัญ” หรือ “The Gift” ที่ล่าสุดทาง S&P ได้ปล่อยออกมา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองช่วงปีใหม่ ช่วงเวลาแห่งการส่งมอบความสุขให้กับคนที่รักและรู้ใจ แน่นอนว่าวิดีโอชิ้นนี้ กำลังเป็นที่กล่าวถึง ทั้งยอดวิวที่สูงกว่าหลายล้านวิว รวมถึงความคิดเห็นมากมายบนหน้า Facebook และ YouTube ที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “วิดีโอชุดนี้ดีมากและเพลงก็เพราะมากๆด้วย” ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นโฆษณาที่ทำออกมาแล้ว คนดูรู้สึก “รัก” ได้อย่างสวยงาม
วิดีโอ ของขวัญ: The Gift
httpv://youtu.be/uD3xOEhAsO8
วิดีโอชิ้นนี้เป็นผลงานของ S&P ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักความอบอุ่นของครอบครัวผ่านเค้กที่ไม่สวยอย่างที่ใครๆคาดหวังได้อย่างซาบซึ้ง กินใจ ซึ่งแตกต่างจากงานโฆษณาแนวดราม่าที่เน้นความสงสาร แต่งานของ S&P ชิ้นนี้กลับนำเสนอ “ความรัก” ในมุมที่แสนอบอุ่น #Heartwarming สร้างรอยยิ้มให้กับคนดู พร้อมสื่อความเป็น แบรนด์ของขวัญปีใหม่อย่าง S&P ที่อยากมอบความสุขให้กับทุุกคนในครอบครัวได้อย่างอิ่มอกอิ่มใจ
อย่างไรก็ตาม ผลงานชิ้นนี้นำเสนอให้เราเห็นคุณค่าที่แท้จริงของ “การให้” ผ่าน “เค้ก” ของขวัญชิ้นธรรมดา แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความตั้งใจของ “ผู้ให้” และหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักของ “ผู้รับ” เป็นคุณค่าที่อาจไม่เห็นด้วยตาแต่มองเห็นได้ด้วยหัวใจ
ที่สำคัญผลงานชิ้นนี้ยังสอดแทรกเรื่องราวความใส่ใจในการให้บริการของพนักงาน S&P ที่ไม่เคยมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และพร้อมดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
วิดีโอคลิปชิ้นนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชม หลายเสียงชื่นชมว่าเป็นโฆษณาที่ขึ้นมาแล้วไม่ Skip ข้ามเลย ดูแล้วประทับใจมาก เนื่องจากไม่ค่อยได้เห็นแง่มุมความรักในแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงประกอบโฆษณาที่ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นเพลงที่เพราะ ถูกใจมาก และถามไถ่มาเยอะมากว่าเป็นเพลงอะไร ใครร้อง รวมทั้งแนวคิดในการทำงานโฆษณาชิ้นนี้ด้วย
ทำให้เรา Marketing Oops! สนใจที่จะสัมภาษณ์ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานนี้ ทั้งผู้บริหารของ S&P ฝ่ายครีเอที และผู้กำกับโฆษณา ให้ทราบถึงที่มาที่ไปของผลงาน โดยเราได้รับเกียรติจาก ขวัญ-ชาญวิทย์ นิ่มเจริญ Creative Director จาก Ogilvy & Mather Advertising, บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับบริษัท ซุปเปอร์อูเบอร์ ฟิล์ม และ รชฎ อรุณพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่จะมาเปิดเผยถึงแนวคิดและเบื้องหลังการทำงาน
“ชาญวิทย์” เผยว่า ที่เราตัดสินใจนำเรื่องราวความรักความผูกพันของครอบครัวมาเป็นธีมหลักของโฆษณา เพราะว่าเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ คือช่วงเวลาที่ครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งทาง S&P เราเป็นแบรนด์เค้กและคุกกี้ที่อยู่กับครอบครัวคนไทยมายาวนาน ดังนั้น เมื่อเวลาที่คนไทยนึกถึงการเฉลิมฉลองความสุขด้วยเค้ก ก็จะนึกถึงเค้กของ S&P เป็นที่แรก
ส่วนสาเหตุที่เลือกนำเสนอครอบครัวของชายตาบอด “ชาญวิทย์” บอกว่า เพราะเราจะเห็นว่า “การให้” นั้นเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร แต่สำหรับครอบครัวของชายตาบอดนั้นมันเกิดจากความตั้งใจที่แท้จริง แม้จะมีอุปสรรคมาขวางแต่เขาก็พยายามที่จะสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัวด้วยเค้กของ S&P
เมื่อถามถึงเพลงที่ใช้ประกอบโฆษณา ซึ่งได้รับคำชมในโลกโซเชียลฯ อย่างมากแถมยังเป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่อีกด้วย “ชาญวิทย์” กล่าวว่า เราได้คุยกับผู้กำกับ อยากให้หนังโฆษณาชิ้นนี้มีความพิเศษมากขึ้น และการแต่งเพลงขึ้นมาใหม่ก็จะทำให้เข้าถึงอารมณ์ที่ต้องการได้ดี เพราะเราตั้งโจทย์ไว้ว่าอยากให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกอบอุ่น ผสมกับกลิ่นอายของการเฉลิมฉลอง และที่เลือกวง Jelly Rocket เพราะเป็นวงรุ่นใหม่ กำลังมาแรง ที่สำคัญด้วยสไตล์เพลงและเสียงร้องที่มีเอกลักษณ์เข้ากับช่วงเทศกาล
สำหรับเหตุผลที่ S&P เลือกใช้กลยุทธ์ออนไลน์ในการสื่อสารนั้น “รชฎ” กล่าวว่า S&P เป็นแบรนด์เค้ก คุกกี้ และของขวัญ ที่ลูกค้านิยมซื้อให้กันในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่บนโลกออนไลน์ S&P ยังไม่เคยสื่อสารความรู้สึกนึกคิดของเรา ให้ผู้บริโภคได้รับรู้มากนัก ปีนี้เราเลยอยากสร้างความรู้สึกพิเศษให้กับคนไทยทุกคน ด้วยการใส่ “ส่วนผสมสำคัญของของขวัญ” ที่ทุกคนหลงลืมกันไป กลับเข้าไปในกล่อง ทุกวันนี้เรามอบของขวัญให้กันเป็นประเพณี เป็นความเคยชิน แต่กลับหลงลืมไปว่า ความรู้สึกดีๆต่างหากที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของการให้ของขวัญ สำหรับ Key Message “ของขวัญบางชิ้น คุณค่ามองเห็นได้ด้วยใจ” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทาง S&P อยากบอกคนไทยให้ใส่ “หัวใจ” ลงไปในกล่องของขวัญทุกชิ้น เพื่อให้ปีใหม่ปีนี้ เป็นปีที่มีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ เราเชื่อว่าความรู้สึกดีๆเหล่านี้จะถูกส่งต่อในโลกออนไลน์และสร้างความประทับใจให้กับผู้คน ตลอดช่วงเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศ
จากนั้นมาฟังเบื้องหลังการถ่ายทำจาก ผู้กำกับ “บาส นัฐวุฒิ” กันบ้าง บาส เล่าว่า เราต้องการทำหนังโฆษณาดราม่าแต่ไม่เน้นการขยี้น้ำตา เราอยากจะให้เป็นแบบซึ้งๆ และน่าประทับใจมากกว่า นอกจากนี้ เรายังได้เลือกนักแสดงที่รับบทพ่อตาบอดนั้น เป็นผู้พิการทางสายตาจริงๆ มาแสดงด้วย เพื่อให้เกิดความสมจริงในหนัง
“ทีมงานก็ไปแคสติ้งจนได้พี่ชาติซึ่งมีความพิการทางสายตามา และพี่เขาเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติแถมดูแล้วอบอุ่นมากๆ ด้วย เล่นจนเรานึกว่าเขาคงมีประสบการณ์เล่นหนังมาก่อน แต่จริงๆ แล้วนี่คือเรื่องแรกของพี่ชาติเลย ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง”
สำหรับระยะเวลาในการถ่ายทำนั้น “บาส” เล่าว่า ใช้เวลาทั้งหมด 2 วัน การถ่ายทำเป็นช่วงเวลากลางคืน เพื่อให้เห็นไฟสวยๆ โดยเราไปเซ็ทฉากกันที่สนามหลวง ซึ่งจุดยากที่สุดก็คงเป็นการเซ็ทฉากต่างๆ เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ทำให้งานตรงนี้ใช้เวลามากกว่าจุดอื่น ยอมรับว่าเป็นงานที่โหมหนักมากแต่ก็คุ้มกับความเหนื่อย เพราะหลังจากที่ทราบกระแสตอบกลับจากผู้ชมก็รู้สึกว่าคุ้มกับความเหนื่อยจริงๆ
“คือตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าผู้ชมจะเก็ทไหม แต่พอเห็นฟีดแบ็คกลับมา ที่เข้ามาตอบทั้งใน Youtube หรือใน Facebook หรือแม้แต่เว็บไซต์ของ S&P เอง ผมก็รู้สึกดีมากๆ มีบางคนถึงขนาดคอมเม้นต์ว่า ดูแล้วอยากจะกลับไปซื้อเค้กทานกับคุณพ่อคุณแม่เลย อันนี้ก็ปลื้มใจมากๆ เหมือนกับเราได้รับรางวัลของผลงานชิ้นนี้แล้ว โดยที่ไม่ได้ไปประกวดผลงานที่ไหน แต่นี่คือรางวัลให้กับชีวิตการทำงานของผมได้แล้ว”
“บาส” ยังเล่าถึงเรื่องการแต่งเพลงขึ้นใหม่ให้กับโฆษณาชิ้นนี้ด้วยว่า เป็นฝีมือของน้องๆ จากวง Jelly Rocket ซึ่งเราเคยร่วมงานกันมาก่อนแล้วจากหนังโฆษณาเรื่องลลิน แรกเริ่มเดิมทีนั้นก็แค่บอกกับวง Jelly Rocket ว่าให้เอาเพลง We wish you a merry Christmas มาคัฟเวอร์เป็นทำนองใหม่ก็ได้ แค่ keep ความรู้สึกให้ดูอบอุ่นขึ้น แต่ทางวงบอกว่าอยากจะใช้เพลงใหม่ จะแต่งเพลงใหม่ให้ดีกว่า ผมก็เลยไฟเขียวเลย จนได้เพลง Under the mistletoe มาใช้ในงานนี้ ซึ่งไพเราะมาก
“ตรงนี้ต้องบอกว่าผมโชคดีมากที่ได้ทีมงาน และได้เอเจนซี่และลูกค้าที่ดีอย่าง S&P ที่เปิดโอกาสให้ได้ทำงานชิ้นนี้ เพราะสิ่งที่ได้รับมันอาจจะไม่ใช่รางวัลบนเวทีไหน แต่รางวัลที่ได้คือฟีดแบ็กและคำชื่นชมจากผู้ชม มันคือที่สุดของรางวัลใดๆ อย่างการได้ทำงานกับ S&P ก็เช่นกัน ดีใจมากเพราะบ้านเราเองก็ผูกพันกับเบเกอรี่ของคนไทยเจ้านี้มานาน ดีใจที่มีโอกาสได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ร่วมกับแบรนด์ของคนไทยด้วย”
สำหรับเทศกาลปีใหม่นี้ อยากให้ทุกคนลองใส่ “หัวใจและรอยยิ้ม” เข้าไปในของขวัญที่จะมอบให้คนรอบข้าง แล้วลองสัมผัสดูว่า “ความสุขจากการให้” จะสวยงามมากน้อยสักแค่ไหน
ติดตามข้อมูลของขวัญปีใหม่จาก S&P ได้ที่
www.snpfood.com/th/sweeter16
www.facebook.com/snpfood
