Fast Food อาหารที่บริโภคกันแบบรวดเร็ว วัฒนธรรมของอเมริกันชนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย มีความพยายามสร้างคุณค่าให้กับอาหาร Fast Food มาโดยตลอด ทั้งการเพิ่มโภชนาการเพื่อสุขภาพ การสร้างบรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัว หรือการผลิตของสะสมที่มีคุณค่าทางใจ ทั้งหมดทำให้มูลค่าตลาด QSR (Quick Service Restaurant) มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี
แต่การพยายามสร้างความแตกต่างก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น แม็คโดนัลด์ ที่ถือเป็นผู้นำตลาดอาหาร Fast Food มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดทั้งในภาพรวม และกลุ่มเบอร์เกอร์ แม้ว่าปีนี้การเติบโตของยอดขายจะน้อยกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องมาจากสภาพทางเศรษฐกิจ แต่แม็คโดนัลด์ โดย บริษัท แมคไทย จำกัด ก็ยังคงเดินหน้าลงทุนเพิ่มสาขาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมี 217 สาขา และจะเพิ่มอีก 6 สาขา ภายในเดือน ธ.ค. นี้ และมีเป้าเพิ่มให้ครบ 400 สาขา ในปี 2563
My Burger เบอร์เกอร์ตามใจคนกิน
การเพิ่มสาขาไม่ใช่กลยุทธ์เดียวของแม็คโดนัลด์ แต่จากการทำวิจัยเชิงลึกกับกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่นานกว่า 12 เดือน พบว่า ผู้บริโภคชอบเลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการ และยินดีจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ได้ตามความต้องการ คุ้มค่า และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ยิ่งกว่านั้น ในต่างประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ซึ่งแม็คโดนัลด์ มีแคมเปญ CYT หรือ Create Your Taste หรือการออกแบบอาหารของคุณเอง ทั้งหมดได้ปรับจนกลายเป็น My Burger เบอร์เกอร์รูปแบบใหม่ ตามใจคนกิน
เพชรรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด ของแมคไทย บอกว่า ความคุ้นเคยของเบอร์เกอร์ แม็คโดนัลด์ คือ เบอร์เกอร์ทำสำเร็จอยู่ในห่อกระดาษ นี่คือรูปแบบที่แม็คโดนัลด์ คิดค้นมาแล้วว่า อร่อย และลงตัวในการรับประทาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะตอบความต้องการของทุกคนได้ทั้งหมด บางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ได้ ดังนั้น My Burger คือการเปิดโอกาสให้คนกิน ได้เลือกเพิ่มเติมส่วนประกอบเองได้
สำหรับแคมเปญ My Burger จะทยอยพัฒนาให้เกิดขึ้นกับ แม็คโดนัลด์ สาขาต่างๆ คาดว่าจะครอบคลุมประมาณ 80% ของสาขาทั้งหมด ทุกเมนูเบอร์เกอร์ของแม็คโดนัลด์ สามารถเพิ่มเติมได้ทุกเมนู
Pop up Store สร้าง Awareness แบบชิคชิค
ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ประกอบกับการมีแคมเปญใหม่ My Burger ที่เป็นการพลิกมิติอาหาร Fast Food ทางแม็คโดนัลด์ จึงสร้างการรับรู้ผ่านกลยุทธ์ Pop up Store เปิดร้านสุดแนวขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคทุกแบบทุกแนว ได้เปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานแม็คโดนัลด์ใหม่ มี 2 ชุดให้เลือก คือ แองกัส บีฟ เนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย และ หมูคุโรบูตะ และมาในคอนเซปส์ My Burger ให้เลือกเพิ่มเติมส่วนประกอบได้ตามใจ
จุดที่พิเศษอีกส่วนคือ อาหารที่สั่งจะเสิร์ฟบนถาดไม้ เฟรนฟรายส์ในถ้วย เปลี่ยนบรรยากาศการรับประทาน Fast Food ให้มีความแปลกใหม่ โดย Pop up Store แห่งแรกอยู่ที่ ชั้น 1 โซนสแควร์ E เซน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการถึง 24 ม.ค. 59 เวลา 16.00 – 24.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์เปิดตั้งแต่เที่ยงวัน – เที่ยงคืน และมีจะเปิดให้บริการอีก 2 แห่ง ที่สยามพารากอน และ โรบินสัน สุขุมวิท ปลายเดือน ธ.ค.นี้
การเปิด Pop up Store จะอยู่ถึงประมาณปลายเดือน ม.ค. 59 เท่านั้น เป็นแคมเปญที่สร้างความแปลกใหม่ และเน้นสร้าง Awareness ให้ผู้บริโภคได้รู้ว่า My Burger ของแม็คโดนัลด์ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างความแตกต่าง
การสร้างแคมเปญ My Burger ของแม็คโดนัลด์ขึ้นมา นอกจากเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง สำหรับลูกค้าที่สั่งเบอร์เกอร์ใดก็ได้ (ใน Pop up Store มีให้เลือก 2 ชุด ราคา 109 และ 119 บาท) โดยในแม็คโดนัลด์ มีเมนูเบอร์เกอร์ราคาตั้งแต่ 29 บาทขึ้นไป ลูกค้าสามารถสั่งอาหารแบบเดิมที่แม็คโดนัลด์ออกแบบมาแล้ว และเลือกเพิ่มส่วนประกอบ
ผักกาดแก้ว, ผักสลัด, มะเขือเทศ (2ชิ้น), หัวหอม, หอมแดง, เห็ด และไข่ดาว ในราคา 10 บาทต่อส่วนประกอบ 1 อย่าง และเพิ่ม แบล็คเปปเปอร์ชีส และ เบคอน ในราคา 15 บาทต่อส่วนประกอบ 1 อย่าง
และเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น สามารถเพิ่ม 10 บาทเพื่อเปลี่ยนเป็นขนมปังดำ หรือ 59 บาทเพื่อเพิ่มเนื้อวัวแองกัสอีก 1 ชิ้น หรือ 49 บาท เพิ่มเนื้อหมูคุโรบูตะอีก 1 ชิ้น ทั้งหมดเลือกเพิ่มได้แบบฟรีสไตล์
ขณะที่ราคาสำหรับการเพิ่มส่วนประกอบในเมนูเบอร์เกอร์ของแม็คโดนัลด์สาขาต่างๆ จะเปิดเผยในปี 2559
นอกจากรูปแบบการเพิ่มส่วนประกอบตามใจคนกินแบบ My Burger แล้ว แม็คโดนัลด์ ยังได้ทดลองนำเครื่อง Mc Easy Order เป็นเครื่องที่สั่งเบอร์เกอร์ได้ตามต้องการเช่นเดียวกัน โดยมีทั้งหมด 20 เครื่อง วางให้บริการในแม็คโดนัลด์ 10 สาขา เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว, สยามพารากอน เพื่อทดลองว่าคนไทยจะนิยมการสั่งผ่านอุปกรณ์หรือไม่
ต้องยอมรับว่าเป็นความพยายามของ แม็คโดนัลด์ ในการสร้างสรรค์รูปแบบการบริโภคอาหาร Fast Food ให้มีความเฉพาะตัวมากขึ้น ชอบอะไรก็ใส่เพิ่มได้ตามใจ (และจ่ายเงินเพิ่มด้วย) เป็นอีกแคมเปญใหญ่ของแม็คโดนัลด์ที่น่าจับตามองในปี 59