ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์คงกำลังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ได้ยินแต่ประโยคที่ว่า “สื่อสิ่งพิมพ์กำลังจะตาย” หมดยุคของสื่อสิ่งพิมพ์ไปแล้ว เพราะมี E-Book, E-Magazine หรือเว็บไซต์ต่างๆ เข้ามาแทนที่
อย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่ช็อกวงการสื่อสิ่งพิมพ์อย่างมากคือ นิตยสารเปรียว นิตยสารแฟชั่นที่ดำเนินกิจการมายาวนานถึง 35 ปี ได้ประกาศปิดตัวลง และจะวางแผนเล่มสุดท้ายในเดือนธันวาคมปีนี้ โดย คุณพณิชนาฏ แย้มเพกา บรรณาธิการบริหารของนิตยสารเปรียว กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าหมดยุคของนิตยสารกระดาษแล้ว เพราะปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น จึงเป็นเรื่องยากที่สื่อสิ่งพิมพ์จะสู้กับความรวดเร็วของสื่อดิจิทัลได้
เมื่อเทียบสัดส่วนการใช้งบโฆษณาตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2558 พบว่า สื่อสิ่งพิมพ์/หนังสือพิมพ์ 10,009 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 6.55% และสื่อนิตยสาร 3,541 ล้านบาท ลดลง 13.06% จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงตอนนี้ สัดส่วนงบโฆษณาก็ลดลงไปไม่น้อย แตกต่างจากทีวีดิจิทัล และสื่ออินเตอร์เน็ตที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อแบรนด์เริ่มหันมาใช้สื่อดิจิทัล และอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้สื่อสิ่งพิมพ์อยู่ยากขึ้นทุกวัน จากเดิมที่ขายหน้าโฆษณาได้ยาวเป็นปีๆ ลูกค้าก็เปลี่ยนมาซื้อโฆษณาแบบเดือนต่อเดือน หรือต้องพ่วง Facebook หรือเว็บไซต์ไปด้วย เพื่อความอยู่รอด
แต่ทั้งนี้ สื่อสิ่งพิมพ์ (หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร) ก็ยังเป็นสื่อที่อยู่ในลำดับต้นๆ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ (เป็นรองแค่ทีวีอนาล็อค และทีวีดิจิทัล) ที่เข้าถึงผู้คนได้หลากหลายกว่า ที่จะลำบากหน่อยก็คงเป็นสื่อนิตยสาร ที่มีการใช้งบโฆษณาไปเท่าๆ กับสื่อบนรถประจำทาง หรือสื่อนอกบ้าน แต่เมื่อเทียบกับการเข้าถึงแล้ว นิตยสารก็ยังต้องทำงานหนักกว่าอยู่ดี
นอกจากนิตยสารวัยรุ่น และแฟชั่นที่ปิดตัวไป นิตยสารเฉพาะกลุ่มอย่าง รถยนต์ บ้านและตกแต่ง รวมทั้งท่องเที่ยว ยังสามารถอยู่รอดได้ เพราะมีฐานลูกค้าที่มั่นคง และมีความชอบที่ชัดเจน
สิ่งที่ผู้ประกอบการสื่อสิ่งพิมพ์ต้องทำในวันนี้คือ ยอมรับความจริง และต้องปรับตัวให้ได้ อย่าเมินเฉยต่อโลกดิจิทัล พยายามผลิตคอนเทนต์ให้มีคุณภาพที่สุด เพราะคุณจะไม่มีเวลาให้มานั่งท้อใจแล้ว ถ้ายังอยากเดินทางสายนี้อยู่ ก็ต้องลงมือเปลี่ยนแปลงให้เร็วที่สุด หรือก้าวไปพร้อมกับโลกดิจิทัลเลยดีกว่า