ความแตกต่างของ Influencer VS Ambassadors VS Blogger

  • 65
  •  
  •  
  •  
  •  

ThinkstockPhotos-474070865-higlight

ทุกวันนี้การใช้พรีเซ็นเตอร์ หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ บางแบรนด์ก็ต้องใช้เน็ตไอดอล หรือ Influencer ในแขนงนั้นๆ ให้มาช่วยเป็นกระบอกเสียงด้วยอีกแรง ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าผู้บริโภคบางส่วนอาจสับสนว่า ใครกันแน่คือตัวแทนของแบรนด์

ไม่ว่าคุณจะเรียกพวกเขาว่า Influencer, Blogger หรือ Brand ambassador สิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำเหมือนกันคือ การถูกว่าจ้างจากแบรนด์ ทว่า พวกเขาก็ยังถือว่าเป็นคนดัง และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเหมือนกัน คราวนี้มาดูกันว่า Influencer และ Ambassadors แตกต่างกันอย่างไร

1. Influencer

ถ้าคุณมีแผนจะว่าจ้าง Influences คุณต้องพิจารณาให้แน่ใจเสียก่อนว่าพวกเขาเหมาะกับแบรนด์ของคุณจริงๆ บางคนอาจมีแค่เว็บไซต์อย่างเดียว บางคนอาจมีหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งถ้าต้องการทุกช่องทาง ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วจะว่าจ้างกันเป็นงานๆ ไป เป็นแคมเปญระยะสั้นมากกว่า

• ความเป็นเอกลักษณ์ของ Influencer จะอยู่ที่ความเป็นตัวของตัวเอง
• ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนพวกเขาก็พร้อมที่จะปกป้องในฐานะที่แบรนด์ได้เลือกให้เป็นตัวแทน
• เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
• พวกเขามักจะใช้บล็อก หรือ Social Media เพื่อการทำธุรกิจเท่านั้น
• สามารถทำงานแทน Brand ambassador ได้เลย
• ถ้าไม่รับเงิน พวกเขาก็ทำงานเพื่อแลกกับสินค้าได้
• มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
• มีความน่าไว้วางใจ

2. Brand ambassador

Brand ambassador จะได้รับการว่าจ้างจากแบรนด์สินค้าเป็นแบบสัญญาระยะยาว ซึ่งจะแตกต่างจาก Influencer ที่เหมาะกับแคมเปญระยะสั้น ซึ่งการจ้าง Brand ambassador จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นดารา หรือคนดัง

• หน้าที่ของ Brand ambassador คือ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์
• Brand ambassador จะได้รับค่าจ้างสูง
• ทำให้ Brand ambassador ต้องศึกษาข้อมูลจนมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแบรนด์ หรือสินค้า
• ด้วยความเป็นตัวแทน หรือทูตของแบรนด์ พวกเขาจะเป็นกระบอกเสียง ส่งผ่านความภูมิใจนี้ไปยังช่องทางต่างๆ

3. Blogger

บล็อกเกอร์ หรือนักเขียนก็ถือเป็น Influences เช่นกัน โดยจะวัดจากการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม ถ้าพวกเขาเขียนบล็อก แบรนด์ก็ต้องคอยดูว่ามีคนให้ความสนใจมากแค่ไหน แน่นอนว่า ยิ่งมากก็ยิ่งดี

• บางคนอาจเขียนบล็อกเป็นงานอดิเรก หรือเป็นงานประจำที่ทำจากที่บ้านก็ได้
• บล็อกเกอร์บางคนต้องการแรงจูงใจในการทำงาน พวกเขาค่อนข้างเลือกงานที่จะเข้ามา
• พวกเขาต้องมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน หรือไม่ก็ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายร่วมกับแบรนด์
• บางคนรับค่าตอบแทนเป็นเงิน หรือสินค้า
• และบางคนก็ต้องการแค่การยอมรับ หรือสร้างการรับรู้
• ระดับความรู้ ความสามารถของบล็อกเกอร์ จะแตกต่างกันไปตามความถนัด หรือหัวข้อนั้นๆ
• แม้จะไม่ได้โด่งดังเหมือนเน็ตไอดอล หรือดารา แต่บล็อกเกอร์ก็พร้อมที่จะให้ความรู้ และข้อมูลแก่ผู้อ่าน

4. Advocates (กองเชียร์)

จากข้อมูลของ nuttaputch.com ได้กล่าวว่า Brand Advocate นั้นมีผสมกันไปทั้งคนดังบ้างและคนธรรมดาบ้าง แต่ที่น่าจะเป็นจุดเด่นของคนกลุ่มนี้คือการเป็น “กองเชียร์” ให้กับแบรนด์ที่ตัวเองรักโดยที่แบรนด์ไม่ต้องออกเงินเพื่อทำการว่าจ้างให้ช่วยโปรโมตสินค้าหรือบริการแต่อย่างใด ซึ่งต่างจากรูปแบบของ Influencer

ซึ่งกองเชียร์กลุ่มนี้จะเป็นแฟนพันธ์แท้ และมีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะมีกิจกรรมอะไร พวกเชาก็จะเข้าร่วมด้วย พร้อมกับชักชวนเพื่อนๆ หรือครอบครัวให้มาร่วมด้วย

5. แฟน

สำหรับแฟนๆ ของแบรนด์ บางคนอาจไม่ใช้ Social Media แต่พวกเขาจะซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ และเป็นลูกค้าที่ดี

• เมื่อแบรนด์ต้องการข้อเสนอแนะ พวกเขาก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ
• แฟนๆ บางคนอาจสลักชื่อแบรนด์อยู่ในใจตลอดเวลา แม้จะไม่แสดงออก
• ต้องการมีส่วนร่วม และตอบสนองต่อทุกกิจกรรม
• อย่าคาดหวังเรื่องสิ่งตอบแทนจากพวกเขา
• คนที่มีอิทธิพลต่อคนกลุ่มนี้คือ เพื่อน

 

แหล่งที่มา

 


  • 65
  •  
  •  
  •  
  •