โลกปัจจุบัน E-Commerce ยกระดับขึ้นมาเป็นหัวใจหลักของหลายธุรกิจไปเสียแล้ว ทำให้ปัจจุบันลูกค้าหลายคนหนีขึ้นไปช็อปปิ้งให้เจริญใจบนออนไลน์แทนออฟไลน์กันแล้ว
แต่บางครั้ง การช็อปปิ้งออนไลน์ก็มีความเสี่ยงหลายอย่างที่ต้องระวัง อย่าเชื่อสิ่งที่คนอื่นพูดเพราะมันอาจเป็นเพราะพวกเขาอยากขายของคุณหรืออยากโกงคุณก็เป็นได้
1.เชื่อถือรีวิวบนโซเชียลมีเดียสิ
โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่เป็นแหล่งติดต่อระหว่างเพื่อนกับเพื่อนหรือแฟนคลับกับอินฟลูเอนเซอร์ ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่เข้าหาบริษัทหรอกนอกจากจะอยากบ่นอะไร ดังนั้นรีวิวด้านบวกบนโซเชียลหลายครั้งมักเป็นสิ่งที่พวกเซลล์เป็นคนเขียนขึ้นมาเองเพื่อล่อลูกค้าให้ซื้อสินค้า ยิ่งในยุคที่การปลอมไอดีทำกันแพร่สะพัดแบบนี้ คุณยังหวังหาความจริงจากโซเชียลมีเดียอยู่อีกเหรอ
ด้านผู้ใช้ พวกเขาก็จะเชื่อถือแต่รีวิวที่อยู่ในกลุ่มเว็บบอร์ดหรือพื้นที่ของตัวเอง มากกว่านั้นหากมีคอมมิวนิตี้เข้มแข็ง พวกเขาอาจเลือกเชื่อ “บุคคล” หรือชื่อยูสเซอร์ที่พวกเขาไว้ใจอีกด้วย ดังนั้น การจะเนียนเข้าไปรีวิวสินค้าตัวเองดีไม่ดีอาจโดนจับได้และกลายเป็นดราม่าออนไลน์ก็เป็นได้นะ
2. เชื่อถือเว็บไซต์ที่ทุกคนแนะนำมาสิ
ลูกค้าไม่กี่คนหรอกที่รู้กลไกการป้องกันข้อมูลของเว็บไซต์เป็นอย่างดี เว็บไซต์หลายอันนั้นมีการแฮคข้อมูลและขโมยไอดีกันเป็นว่าเล่น หรือร้ายกว่านั้นมันอาจลิงค์ออนไลน์ให้ใครสักคนบังคับคอมฯ คุณได้จากระยะไกล
ส่วนสแกมปกติที่เจอกันบน ecommerce คือสแกมที่จะแอบเก็บรหัสการซื้อของคุณในการซื้อครั้งแรกจากนั้นก็ซื้อสินค้าซ้ำๆ กันหลายครั้งโดยที่คุณไม่ได้สั่งในเวลาต่อมา ทางแก้ง่ายๆ ที่อาจไม่ปลอดภัย 100% แต่ก็พอได้คือลองเสิร์จ Google, Amazon หรือร้านค้าชื่อดังเพื่อหาว่าผู้ขายคนไหนมีความน่าเชื่อถือ
3.ลองเปรียบเทียบราคากับหลายๆ เจ้าดูสิ
อย่าเสียดายตังค์ไม่กี่บาทแลกกับความปลอดภัยและการโดนแฮคเลยดีกว่า หลายครั้งสินค้าบน ecommerce ราคาค่อนข้างถูกอยู่แล้ว ดังนั้น ยอมเสียเงินแพงกว่าเจ้าอื่นแต่ได้ความปลอดภัยและความอุ่นใจก็ถือเป็นการจ่ายเงินที่คุ้มค่า แบรนด์ที่เชื่อถือได้เช่น Amazon จะมีนโยบายคืนสินค้าและป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้จากผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากนี้หลายแบรนด์ยังมีระบบเรตติ้งซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ของการหาผู้ขายอีกด้วย
4.บราวเซอร์ของคุณปลอดภัยมากๆ
แม้เราจะเชื่อถือบราวเซอร์ของเราอย่าง Chrome, Safari หรือ Firefox แต่จำไว้ว่าไม่มีความปลอดภัยที่แท้จริงบนโลกอินเตอร์เน็ต ดังนั้นเมื่อถูกถามไอดีหรือพาสเวิร์ดต้องตั้งสติและคิดถึงความน่าเชื่อถือของเว็บนั้นทันที
การป้องกันตัวเบื้องต้นคืออย่าให้ไอดีและพาสเวิร์ดถ้าไม่จำเป็นจริงๆ สองคือสร้างไอดีแยกสำหรับเว็บไซต์แต่ล่ะแห่ง การใช้พาสเวิร์ดเดียวกันแต่ต่างไอดีจะทำให้การล็อกอินสะดวกขึ้น
นอกจากนี้หากคุณยังไม่มั่นใจอีกก็ลองใช้ Virtual Private Networks ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเปลี่ยน IP address หรือสถานที่ใช้ขณะที่คุณเข้าสู่เว็บไซต์ นั้นก็จะทำให้การเจาะข้อมูลยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง