อะไรทำให้ Brain Dots แอพฯเกมดังจากโตเกียวกวาดยอดโหลดกว่า 10 ล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

BrainDots

ดังฟ้าฝ่าระลอกสองสำหรับผู้พัฒนาโมบายเกม Translimit จากโตเกียวที่เมื่อต้นปีเพิ่งทำยอดดาวน์โหลดเกม BrainWars ได้ทะลุเป้ากว่า 10 ล้านดาวน์โหลด ล่าสุดพวกเขาส่ง Brain Dots เกมใหม่ที่ทำลายสถิติยอดดาวน์โหลด 10 ล้านเช่นเดียวแต่ภายในหนึ่งเดือน! ขณะที่เกมกลายเป็นไวรัลฮิตไปนานาชาติภายใน 8 เดือน

Brain Dots เปิดให้โหลดในวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ iOS และ Android เช่นเดียวกับเกมก่อน Brain Dots ยังเป็นเกม “ฝึกสมอง” ที่มีเกมตระกูลปริศนาและการแก้ปัญหาแบบผู้เล่นเดียว ผู้เล่นจะได้รับบอลสองลูกคือสีฟ้าและชมพู เป้าหมายคือนำบอลทั้งสองลูกกระแทกกัน วิธีการคือคุณต้องวาดเส้นหรือรูปภาพด้วยนิ้วเพื่อสร้างกฏแรงดึงดูด หากใครยังไม่แน่ใจว่าเล่นยังไงลองดูที่วีดีโอได้เลยครับ

httpv://youtu.be/koBJ0qVG2eM

ที่น่าสนใจคือ Brain Dots ประสบความสำเร็จในระดับโลกด้วยเช่นกัน โดยตอนนี้ผู้ใช้นอกญี่ปุ่นถือเป็นฐานผู้เล่นกว่า 96% ของแอพฯ ตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดคือเกาหลี 11.4% สหรัฐ 10.9% และรัสเซีย 9.1% ด้านแฟลตฟอร์ม Android มี 65% และ iOS มี 35%

BrainDots-graph

Hiroki Takaba ระบุว่า หลังจากพวกเขาได้ประสบการณ์จากการสร้าง BrainWars แล้ว พวกเขาจะโฟกัสที่สามสิ่งคือกฏเรียบง่าย อวัจนะภาษา และการทำให้เป็นท้องถิ่น ซึ่งถ้าเฉพาะ 3 เรื่องนี้เขาคิดว่า Brain Dots ยอดเยี่ยมกว่ารุ่นพี่แน่นอน

สำหรับสถิติการใช้งาน ผู้เล่นส่วนใหญ่จะใช้เวลาเฉลี่ยกับแอพฯ นี้ประมาณครึ่งชั่วโมงทุกวัน และเล่น 100 ล้านครั้งต่อวันผ่าน 420 สเตจ การอัพเดทต่อๆ ไปก็จะเพิ่มสเตจเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ตะลุยด่านให้แก่ผู้ใช้

ส่วนที่ผมชอบการสรุปของ Takaba ที่สุดคือการบอกว่าเกมที่ดีต้องประกอบไปด้วยความเรียบง่าย อวัจนะภาษา และการทำให้เป็นท้องถิ่นแต่หากเราดูเกมบนแฟลตฟอร์มอื่น เราจะพบว่าสูตรสำเร็จนี้อาจไม่จริงเสมอไป เช่น League of Legend เกมแนว MOBA ที่มียอดผู้เล่นมากที่สุดในโลกตอนนี้ พวกเขาเน้นการสร้าง Community ที่เข้มแข็ง ขณะที่ไม่บังคับให้ผู้เล่นต้องรวมตัวแต่ปัจจัยที่จะทำให้เก่งและมีชัยเหนือคู่แข่งได้คือ “การเล่นเป็นทีม”

ในมุมมองของผม เกมที่สามารถสร้าง Community ที่ไม่อึดอัดเกินไปขณะเดียวกันก็ไม่หลวมเกินไปนั้นเป็นเกมที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง