จบไปแล้วสำหรับงาน Chang Carnival (ช้าง คาร์นิวัล) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13-14 มิถุนายน 2558 ณ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ หลังจากที่เคลื่อนขบวนไปกระจายความสุขตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จุดหมายปลายทางสุดท้ายก็คือ กรุงเทพฯ การมาในครั้งนี้ของ “ช้าง” จึงได้เติมเต็มความสนุกในหน้าร้อนไปด้วยความสุข และความประทับใจ
ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ ก็เป็นครั้งแรกที่ช้างได้สร้างสรรค์กิจกรรมที่แปลกใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์ ยกความสนุกบนชายหาดมาไว้ใจกลางเมือง พร้อม 12 โซนกิจกรรม และยังได้ระดมศิลปินแนวหน้าของเมืองไทยมากมาย เป็นการนำความสนุกจากรถบรรทุกในโฆษณาเรื่องล่าสุดของช้าง บรรทุกมาให้ทุกคนได้ เติมเต็มคำว่าเพื่อน พร้อมกับแฟนของช้างในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
แม้จะเป็นแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ไม่สามารถทำตลาดในแง่ของการเชิญชวนให้ซื้อได้มากนัก “ช้าง” ก็ตระหนักถึงสภาวะแวดล้อมในปัจจุบันได้ดี ไม่ได้ทำตลาดเฉพาะการขาย การโฆษณา แต่กลับมองว่า การตลาด ยังต้องครอบคลุมถึงการบริหารประสบการณ์ของลูกค้า สร้างสัมพันธ์แบบใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ ความภักดีต่อแบรนด์ ให้สอดคล้องกับสโลแกน “เติมเต็ม…คำว่าเพื่อน”
เน้นการสร้างประสบการณ์
กลยุทธ์ที่ “ช้าง” นำมาใช้กับงาน Chang Carnival นั้น สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี แนวคิดที่ว่านี้ เป็นแนวคิดของความเป็น “เพื่อน” เพราะคงไม่มีใครมางานนี้คนเดียว การมาเที่ยวทะเลกับเพื่อน ได้เจอคนหลากหลาย ได้ฉลองส่งท้ายซัมเมอร์ จึงเป็นการสร้างประสบการณ์ และช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดให้แก่ผู้มาร่วมงาน
ว่าด้วยเรื่องการสร้างประสบการณ์ ภายในงาน Chang Carnival มีโซนกิจกรรมมากถึง 12 โซน อาทิ Chang Giant Gang Slider สไลเดอร์ยักษ์ความยาวกว่า 70 เมตร สูงเท่าตึกสองชั้น โซน Chang Bermuda ดีเจพูลปาร์ตี้พร้อมดนตรีแนว EDM, โซน Chang Goal’n’Wet เป็นการรวมเอากีฬาฟุตบอลและสาวน้อยตกน้ำมาไว้ด้วยกันอย่าง ลงตัว และโซน Chang Food Truck บรรทุกอาหารจากร้านดังมาบริการถึงที่ซึ่งเป็นเทรน ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นต้น
ที่ผ่านมาคุณจะเห็นว่า “ช้าง” จัดอีเว้นท์อยู่บ่อยๆ ทั้งงานที่เกี่ยวกับเพลง กีฬา และการสร้างประสบการณ์ ทำให้“ช้าง” ตอบกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น และครั้งนี้ ช้าง เนรมิตแคมเปญในรูปแบบใหม่
เมื่อมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ก็ต้องเข้าถึง Social
“ช้าง” ก็เป็นอีกแบรนด์ ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ Social Network ที่สามารถนำมาเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้ เพราะในงาน Chang Carnival ได้มีบริการลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้า หรือถ้ายังไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้ามาก็สามารถลงทะเบียนหน้างานได้ และจะได้ QR Cord เพื่ออำนวยความสะดวกในการร่วมกิจกรรมในโซนต่างๆ โดยไม่ต้องใช้บัตร เพียงแค่ยื่น QR Cord นี้ก็สามารถร่วมกิจกรรมได้เลยทันที และยังสามารถใช้แอด ID Line กับเพื่อนใหม่ได้อีกด้วย ซึ่งยังมีโซนเซลฟ์ฟี่ ที่ให้ผู้มาร่วมงานถ่ายรูปสวยๆ และอัพโหลดลงใน Social Network ของตัวเอง เพื่อบอกให้เพื่อนๆ ได้รู้ว่ามางานนี้แล้ว นอกจากนี้ผู้มาร่วมงานยังจะได้รับรูปฟรี เพียงแค่ใส่ #ChangCarnival ใต้ภาพ ก็จะได้รับรูปกลับบ้านเป็นที่ระลึกทันที ในส่วนของการทำ Real-time Marketing ทางช้างเองก็ได้อัพโหลดภาพกิจกรรมลงใน www.facebook.com/ChangWorld และยังรายงานแฟชั่นเก๋ๆ ภายในงานจาก Fashion Community ชื่อดังอย่าง www.facebook.com/cheezemagazine www.facebook.com/siam2nite เป็นต้น เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เห็นบรรยากาศความสนุนภายในงาน หากจะบอกว่าเวลานี้ไม่มีใครไม่รู้จักงาน ช้าง คาร์นิวัล ก็คงไม่ผิดนัก เพราะช้างได้ทำการตลาดแบบ “บอกต่อ” อย่างแท้จริง
ช้างได้แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรม อีเว้นท์โดยใช้กลยุธต์ และการใช้ Social Media ก็สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย สร้างกระแส สร้างการรับรู้ได้ ตลอดจนการสร้าง Brand loyalty ผ่านการมีส่วนร่วมในลักษณะต่างๆ เป็นแคมเปญการตลาดที่ครบวงจร และสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง
Chang Carnival ไม่เพียงแต่จะสร้างกระแสให้วงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แน่นอนว่ายังสร้างประสบการณ์ และความทรงจำดีๆ ให้ผู้มาร่วมงานอีกด้วย ใครที่อยากสั มผัสกับประสบการณ์แบบนี้ ต้องรอดูกันว่าในครั้งต่อไป “ช้าง” จะมีกิจกรรมอีกเมื่อไร ติดตามได้ที่ www.changcarnival.com , www.facebook.com/ChangWorld และ #Changcarnival