ดิ เอ็มควอเทียร์ ตอกย้ำศูนย์กลางแฟชั่น เทียบชั้นมหานครแฟชั่นระดับโลก เปิด 2 พื้นที่ คอนเซ็ปต์สโตร์ คิวเรเตอร์ (Qurator) รวมผลงานไทยดีไซน์เนอร์ใหญ่ที่สุด พร้อม คิวสเตเดียม (Qstadium) สตรีทแฟชั่นชั้นนำ สร้างความแตกต่างเหนือระดับ เจาะกลุ่ม Young Executive
หลังเปิดตัว ดิ เอ็มควอเทียร์ ภายใต้โครงการ “ดิ เอ็ม ดิสทริค” (The EM District) ในคอนเซ็ปต์ Fashion Invader เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อเผยโฉมปรากฏการณ์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ของ ดิ เอ็มควอเทียร์ ที่รวบรวมแฟชั่นซูเปอร์แบรนด์ระดับโลก, แบรนด์ชั้นนำที่ทั่วโลกรู้จัก ตลอดจนแบรนด์แฟชั่นฮิตอย่าง Stylenanda จากเกาหลี หรือ Beams แฟชั่นไลฟ์สไตล์ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี จากญี่ปุ่น มาเปิดสาขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรกที่ ดิ เอ็มควอเทียร์
และเพื่อตอกย้ำภาพของศูนย์รวมแฟชั่นที่เทียบชั้นมหานครแฟชั่นระดับโลก จึงเพิ่ม 2 พื้นที่แฟชั่นโซนใหม่ภายใต้รูปแบบคอนเซ็ปต์สโตร์ ภายใต้ชื่อ คิวเรเตอร์ (Qurator) พื้นที่ที่รวบรวมสุดยอดผลงานของดีไซเนอร์ไทยชั้นนำ และดีไซเนอร์ไทยหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งมีแบรนด์มากที่สุดในประเทศไทยกว่า 60 แบรนด์ และคิวสเตเดียม (Q stadium) คอนเซ็ปต์สโตร์แห่งใหม่ที่รวบรวมแบรนด์เสื้อผ้า และแอคเซสเซอรี่สุดฮิปสำหรับคนเมือง ที่คัดสรรแบรนด์แฟชั่นสดใหม่ทั้งจากไทยและทั่วโลก
โดย คุณรวิมน ฐานิตารมภ์ ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึง คิวเรเตอร์ (Qurator) ว่า เป็นพื้นที่ รวบรวมผลงานแฟชั่นของดีไซน์เนอร์คนไทย รวมกว่า 60 แบรนด์ ซึ่งมากที่สุดในประเทศ บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 2 อาคารเดอะวอเทอร์ฟอลควอเทียร์ (THE WATERFALL QUARTIER) พร้อมการออกแบบพื้นที่และบรรยากาศให้เหมาะกับการนำเสนอและชมแฟชั่นได้ ภายใต้แนวความคิด “The Ultimate Thai Designers Showcase” โดยพื้นที่พิเศษแห่งนี้จะเป็นมากกว่าร้านค้า เพราะจะเป็นพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมของกลุ่มดีไซน์เนอร์ไทย ทั้งไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ในวงการแฟชั่นในประเทศไทย จะถูกรวบรวม และต่อยอดเป็นคอลเล็กชั่นเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อปรากฏสู่สายตาแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว จัดทำขึ้นเพื่อต่อยอดความสำเร็จของสินค้าแฟชั่นไทยดีไซน์เนอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ มียอดขายเฉลี่ยในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน สินค้าแฟชั่นไทยดีไซน์เนอร์ มีกลุ่มลูกค้าประจำของแต่ละแบรนด์ชัดเจน มีการทำการตลาดใน Social Network โดยเฉพาะอินสตาแกรมที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งแต่ละแบรนด์มียอดการติดตามบนโซเชียลมีเดียเฉลี่ยประมาณ 50,000 คน ที่สำคัญกลุ่มลูกค้าของไทยดีไซน์เนอร์เป็นกลุ่ม Young Executive ที่มีไลฟ์สไตล์แฟชั่นชัดเจน และมีกำลังซื้อ ซึ่งโดยเฉลี่ยแฟชั่นในกลุ่มไทยดีไซน์เนอร์มีราคาต่อชิ้นเฉลี่ย 5,000 บาทขึ้นไป จึงสอดคล้องกับลูกค้าในย่านสุขุมวิท คาดว่าคิวเรเตอร์จะประสบความสำเร็จและมียอดขายไม่ต่ำกว่า 850 ล้านบาท ในปีแรกของการเปิดพื้นที่
สำหรับแบรนด์ในพื้นที่ คิว เรเตอร์ ประกอบด้วยแบรนด์ในกลุ่มสมาคมแฟชั่นไทยดีไซน์เนอร์ หรือ BFS (Bangkok Fashion Society) ได้แก่ Asava, Disaya, Greyhound, Issue, Kloset, Milin, Playhound by Grayhound, Senada, Sretis, Vickteerut, Curated by Ek Thongprasert กลุ่มที่ 2 คือ แบรนด์ไทยดีไซน์เนอร์ที่รู้จักกันดี อาทิ Flynow, Irada, It’s happened to be a closet, Janesuda, JNBY, Kingkan, Kwankao, และสุดท้าย คือกลุ่มผลงานไทยดีไซน์เนอร์ที่น่าจับตามอง ได้แก่ A Personal Uniform แฟชั่นสำหรับสาวที่ต้องการเสริมลุคส์เท่ห์ๆ อาทิ Dry Clean Only แฟชั่นสำหรับสาวเปรี้ยว ที่ต้องการเสื้อผ้าหลากสีสัน โดดเด่นด้วยงานปัก อาทิ Mimi แบรนด์ลูกจาก Milin ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ พารากอน ดีพาร์ทเม้นต์ สโตร์ และ คิว เรเตอร์
ด้าน คุณชัยโรจน์ ศรีเดชะรินทร์กุล ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า พื้นที่สตรีทแฟชั่น ที่เรียกว่า คิว สเตเดียม (Q stadium) อยู่บริเวณชั้น M และชั้น 1 อาคารเดอะวอเทอร์ฟอล ควอเทียร์ (THE WATERFALL QUARTIER) เป็นพื้นที่รวมสตรีทแฟชั่นชั้นนำ 53 แบรนด์ อาทิ Adidas Neo, The Adjective, Carnival, Fly London, Leisure Project Store, Penfield, Superdry, Travel Fox, Vanquish ฯลฯ ในรูปแบบคอนเซ็ปต์สโตร์ บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร แต่ละแบรนด์นำเสนอสินค้าแบบ Full Concept Fashion ทั้งหญิงและชาย พื้นที่นี้โดดเด่นที่การแยกแฟชั่นสำหรับกลุ่ม Younger และ Young Executive อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งคือกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ในย่านสุขุมวิท ที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะ และต้องการความสด ใหม่ของสินค้า และความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญของการนำเสนอสินค้าในกลุ่มแฟชั่นของ ดิ เอ็มควอเทียร์ โดยคาดการณ์สำหรับยอดขายในปีแรกของพื้นที่คิวสเตเดียม (Qstadium) ประมาณ 750 ล้านบาท
คิว สเตเดียม นับเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งใหม่ที่รวบรวมแบรนด์เสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่สุดฮิปสำหรับคนเมือง (The Urbanwear Multi-Label Store) เป็นศูนย์รวมความทันสมัยที่คัดสรรแบรนด์แฟชั่นสดใหม่ทั้งจากไทยและทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ที่ก้าวข้ามเรื่องเทรนด์และแฟชั่น แต่ให้ความสำคัญกับรสนิยมและสไตล์อันโดดเด่นเฉพาะตัว บรรยากาศที่ออกแบบเป็นพิเศษในรูปแบบ “The Urban Playground” ยังเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์
ทั้งนี้ พื้นที่ คิวเรเตอร์ และ พื้นที่ คิวสเตเดียม ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมของสองพื้นที่ในปีแรกรวมกว่า 1,600 ล้านบาท โดยวางงบประมาณการทำการตลาดไว้ทั้งสิ้นประมาณ 80 ล้านบาท จะเป็นพื้นที่สำหรับสินค้าแฟชั่นที่สำคัญ และทำให้ ดิ เอ็มควอเทียร์ มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆในย่านสุขุมวิท สำหรับการนำเสนอสินค้าแฟชั่น ซึ่งหลังเปิดให้บริการของ ดิ เอ็มควอเทียร์ 3 สัปดาห์ มีลูกค้าหมุนเวียนแล้วมากกว่า 150,000 คนต่อวันและเฉพาะ 2 พื้นที่ คิวเรเตอร์ และ คิวสเตเดียม มียอดขายในช่วงการเปิดบริการ 5 วันแรก รวมกว่า 33 ล้านบาท
