หากลองถามนักธุรกิจมือใหม่ ว่าอะไรคือการเริ่มต้นที่ยากที่สุด คำตอบส่วนใหญ่ที่จะได้ยินคือ การเข้าถึงลูกค้า และแน่นอนว่าการจะเข้าถึงลูกค้าได้นั้นต้องใช้เม็ดเงินจำนวนไม่น้อย ซึ่งเหล่า Startup อาจไม่มีงบประมาณมากพอ หรือถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็ก SMEs ที่ไม่มีงบว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด และอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ บทความนี้จึงต้องการบอกถึงวิธีการทำตลาดโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่สุด
1. สร้างการรับรู้ในท้องถิ่น
ทุกวันนี้สื่อท้องถิ่นมีอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารและเว็บไซต์ ซึ่งจะเปิดช่องทางให้คุณได้โปรโมทแบรนด์และบอกกล่าวผู้บริโภคว่าธุรกิจคุณคืออะไร เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคในท้องที่นั้นๆ ในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ นี้ คุณจะได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และถ้าสินค้าและบริการของคุณดีจริง มันก็จะประชาสัมพันธ์ได้ด้วยตัวเอง
วิธีเริ่มต้นง่ายๆ คือ การสร้างคอนเท้นต์ที่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับเครื่องจักรกล คุณก็เขียนบทความเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ให้มีประสิทธิการทำงานสูงสุด หรือเมื่อใช้อุปกรณ์นี้แล้วจะช่วยให้เครื่องทำงานได้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง เป็นคอนเท้นต์ที่มีประโยชน์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริง และเมื่อได้คอนเท้นต์แล้วคุณจะโพสลงเว็บไซต์ของบริษัท หรือฝากประชาสัมพันธ์บทความในสำนักข่าวท้องถิ่น เพื่อกระจายข่าวสารออกไปสู่สาธารณะ
2. ใช้ E-Mail Marketing สร้างโอกาสและการรับของผู้บริโภค
E-Mail Marketing เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ในช่วงแรกจะเป็นการแนะนำตัวต่อผู้บริโภค คุณสามารถส่งอีเมลไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อนำเสนอสินค้า โปรโมชั่นพิเศษ และข้อมูลเบื้องต้นขององค์กรได้ แต่ก็ไม่ควรส่งบ่อยเกินไป จนทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญและไม่ประทับใจ
3. ใช้ประโยชน์จาก Social Media
ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ใครๆ ก็ต้องมีสื่อออนไลน์ของตัวเองทั้งนั้น นั่นก็เพราะมันฟรี! เริ่มต้นง่ายๆ และมีเครือข่ายขนาดใหญ่ ที่จะทำให้คุณค้นพบลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง แต่ส่วนที่ยากคือ จำนวนผู้ติดตาม ถึงแม้จะมีมากแต่ถ้าไม่ซื้อสินค้าทุกอย่างก็จบ คุณต้องแน่ใจว่าผู้ติดตามที่คุณมีจะเน้นที่คุณภาพ มากกว่าปริมาณ ช่องทางที่คุณจำเป็นต้องมี Facebook, Twitter, Pinterest, Instagram, LinkedIn และ Ello เรียกได้ว่าคุณต้องใช้สื่อออนไลน์ให้ครบทุกอย่าง
ในช่วงแรกคุณจะได้เรียนรู้พฤติกรรม ความชอบ ความสนใจของผู้ติดตาม ว่าพวกเขามีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการโพสของคุณ อย่าโพสบ่อยเกินไป ลองดูว่าคอนเท้นต์แบบไหนที่ผู้บริโภคชื่นชอบ และค้นหาแนวทางในการสร้างคอนเท้นต์ต่อไป
4. การตลาดแบบปากต่อปาก
เมื่อทำตลาดได้สักพัก คุณก็จะได้ทราบผลตอบรับจากลูกค้า ซึ่งคุณสามารถนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาทำตลาดได้ ใช้การมีส่วนร่วมของลูกค้าให้เกิดประโยชน์ เรียกได้ว่าเป็นการตลาดแบบปากต่อปากนั่นเอง
การทำตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือเป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน สิ่งสำคัญอาจไม่ได้อยู่ที่เงินลงทุนเสมอไป ผู้ประกอบการต้องคิดให้ดีก่อนจ่ายเงินก้อนใหญ่สักก้อน ซึ่งกว่าจะใช้เวลาค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้นั้นก็ว่ายากแล้ว แต่การกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้านั้นยากกว่า คุณจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป โดยควบคุมค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด