7 เรื่องที่ทำให้ยูสเซอร์เกลียดเว็บเพจของคุณเป็นที่สุด!

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

SideHustle

ท่ามกลางเว็บไซต์ที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเชื่อไหมว่ามีเว็บไซต์เพียงหยิบมือเท่านั้นที่เป็นมิตรกับยูสเซอร์อย่างแท้จริง! อะไรเป็นเหตุผลหลักให้ยูสเซอร์เบื่อหน่ายเว็บไซต์ที่หนาแน่นไปด้วยข้อมูลหรือเว็บไซต์ที่เนื้อหาน่าเบื่อแต่มีรูปภาพขนาดใหญ่ยักษ์โหลดนาน ลองดูพิจารณา 7 ข้อนี้แล้วดูสิว่าเว็บไซต์ของคุณเข้าข่ายน่าเบื่อหน่ายกับเขาหรือเปล่าครับ

1.มีข้อความมากเกินไป

โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้อ่านจะอ่าน text ในเว็บไซต์ของคุณเพียง 28% ของทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้นให้เตรียมข้อมูลที่คุณคิดว่าจำเป็นสำหรับผู้บริโภค ใส่รูปภาพและเติมแต่งวีดีโอที่ดีให้เว็บไซต์ดูน่าคบหากันดีกว่า

2.โหลดนานเกินไป

ต้องยอมรับว่าเรากำลังอยู่ในสังคมที่เกลียดการรอคอยจนเข้าสายเลือด กว่า 40% ของผู้เข้าเยี่ยมชมจะคลิกปิดหน้าเว็บทันทีหากมันโหลดเกิน 3 วินาที มาร์เกตเตอร์ต้องคอยเช็คระยะเวลาโหลดหน้าเว็บให้ดีและอาจหาดีไซน์เนอร์เก่งๆ มาช่วยออกแบบเว็บให้สวยงามแต่กินทรัพยากรน้อยด้วยก็ได้

3.ใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไม่ได้

ยึค multi-screen ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เมื่อทุกวันนี้กว่า 60% ของการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมาจากโมบาย นั้นหมายความว่าหากเว็บของคุณยังไม่ได้ปรับตัวให้ใช้งานได้ดีบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็เตรียมตัวเสียลูกค้ากันได้เลย

4.มี pop-ups มากเกินไป

แน่นอนว่ากว่า 90-95% ของผู้เข้าชมเว็บจะคลิกปิดทันทีหากเขาเห็น pop-ups เด้งขึ้นมาที่หน้าจอ นอกจากนี้ Google เว็บเสิร์จเอนจิ้นขนาดยักษ์ยังประกาศว่า algorithm ใหม่จะไม่ค่อยแสดงเว็บที่มี pop-ups เยอะให้ผู้บริโภคเห็น ดังนั้นหากคุณยังจำเป็นต้องใช้ pop-ups เหล่านี้ก็ย่อให้มันเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า

5.วีดีโอที่มี autoplay เอง

หลายคนคงเคยเจอประสบการณ์เปิดทุกแท็บเพื่อหาว่าแท็บไหนกันแน่ที่มีเพลงเล่นออกมา จากการวิจัยพบว่าทริคลักษณะนี้เป็นทริคที่ผู้บริโภคเกลียดที่สุดและพวกเขาจะไม่ให้อภัยกับแบรนด์ของคุณหากคุณทำวีดีโอลักษณะดังกล่าว หากจะเพิ่มวีดีโอเข้าไปต้องมั่นใจว่าวีดีโอนั้นจะปิดหรืออย่างน้อยก็เล่นแบบไม่เปิดเสียงอยู่ตอนที่ผู้อ่านเปิดเข้าไปเห็นมัน

6. มีประสบการณ์ที่เลวร้ายในการซื้อของออนไลน์

บางครั้งเมื่อผู้บริโภคคลิกปุ่ม “ซื้อ” เว็บไซต์กลับลิงค์พวกเขาไปยังหน้าเว็บใหม่ที่พวกเขาไม่คุ้นเคยและมีขั้นตอนมากมาย สุดท้ายทุกอย่างลงเอยด้วยการที่พวกเขาไม่ซื้อสินค้าและปิดหน้าเว็บไปเฉยๆ ดังนั้น ให้สร้างหน้าเว็บของคุณเป็น one stop service อย่าพยายามเชื่อมต่อเว็บไซต์ไปยังเว็บอื่นที่ผู้บริโภคไม่คุ้นเคยเลยหากคุณไม่อยากเสียลูกค้า

7. ติดต่อ customer service ไม่ได้

เว็บที่มีการเชื่อมต่อระหว่าง customer service และลูกค้าจะต้องมั่นใจว่าลูกค้าสามารถติดต่อคุณได้โดยง่าย ยิ่งหากคุณมีแอพฯ หรือมีฟีเจอร์เก๋ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถพูดคุยกับคุณได้ง่ายมากขึ้น จงจัดไปทุกอย่างแต่ต้องมั่นใจว่ามีศักยภาพเพียงพอจะทำด้วยนะ

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง