มีหลายครั้งที่เรามักจะทำผิดหรือทำไม่ถูกต้องกับเทคโนโลยี หรือพวก gadgets ต่างๆ เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องง่ายหรือสบายกว่า แม้ว่ามันจะทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นแย่ลงก็ตาม
แย่ยิ่งกว่าถ้าพฤติกรรมมักง่ายเหล่านี้เอามาใช้กับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัว ย่อมเสี่ยงที่จะเกิดภัยร้ายได้ หรือแม้กระทั่งส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของคุณเองด้วย
ถ้าเช่นนั้นลองมาสำรวจดูพฤติกรรมของคุณดูสิว่า แบบไหนที่เป็นนิสัยแย่ๆ ที่คุณทำในเรื่องเทคโนโลยีบ้าง
1.ใช้พาสเวิร์ดเดียวกันในทุกๆ สิ่ง
แม้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติสามัญที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดเช่นกัน มันง่ายที่จะใช้พาสเวิร์ดเดิมๆ กับทุกๆ accounts ของคุณ ก็ใครจะอยากจะไปจำหลายๆ พาสเวิร์ดล่ะ
แต่บอกเลยว่านี่จะเป็นเรื่องหายนะทีเดียว ถ้าเกิดมีการแฮกข้อมูลอันใดอันหนึ่งของคุณได้ขึ้นมา นั่นหมายความว่าในทุกๆ สิ่งที่เป็นดิจิตอล ไลฟ์ของคุณ จะตกไปอยู่ในมือแฮกเกอร์ทันที
ถ้าหากคุณพอจะมีเวลา ทำไมไม่ลองตั้งพาสเวิร์ดใหม่โดยการใช้แอพพลิเคชั่นช่วย เช่น Last Pass หรือ Dashlane เข้ามาจัดการพาสเวิร์ดของคุณก็ได้
2. ไม่เคยเปลี่ยนพาสเวิร์ดเลย
แม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้พาสเวิร์ดเดียวกันในหลายๆ accounts แต่คุณก็ไม่เคยเปลี่ยนพาสเวิร์ดนั้นๆ เลย คุณควรจะต้องเปลี่ยนพาสเวิร์ดบ้าง ทั้งนี้ Microsoft แนะนำว่าให้เปลี่ยนพาสเวิร์ดในทุกๆ 30-90 วัน เพื่อความปลอดภัย
3.ไม่ใช้ 2 ขั้นตอนของ Authentication เพื่อปกป้อง accounts สำคัญของคุณ
ในยุคที่เต็มไปด้วยแฮกเกอร์ฝีมือเทพและช่องโหว่ของระบบต่างๆ เช่นการเกิดขึ้นของ Heartbleed bug ดังนั้น สำคัญมากที่จะเซ็ทค่าการป้องกันของคุณใน accounts ต่างๆ ทั้งนี้ มีบริการการทำ 2 ขั้นตอนของ Authentication ใน Gmail และ Dropbox ซึ่งจะช่วยให้สมาร์ทโฟนของคุณใช้ได้หลาย identity เวลาที่ logging เข้าไปใน account
การทำ 2 ขั้นตอนของ Authentication ก็เพื่อป้องกันแฮกเกอร์เจาะเข้า account ของคุณแม้ว่าแฮกเกอร์จะได้พาสเวิร์ดของคุณมาแล้วก็ตาม
4.ลืมลบภาพหรือเพลงในมือถือ
หนทางหนึ่งที่จะทำให้คุณเปลืองพื้นที่ในมือถือมากที่สุด หนึ่งในนั้นก็คือการไม่ลบสิ่งที่ไม่จำเป็นในมือถือเลย ทุกๆ ครั้งที่คุณได้ทำกิจกรรมอะไรลงไปต้องล้างมันออกเสียบ้าง เช่น รูปเก่าๆ ใน Gallery หรือใน Camera Roll ทำเช่นนี้กับคลังเพลงของคุณด้วยเพราะมันกินพื้นที่มือถือของคุณมากกว่าภาพเสียอีก
ถ้าคุณเสียดายภาพหรือเพลงแนะนำให้แบ็กอัพไฟลส์ผ่านบริการ cloud ก็จะช่วยได้มาก หรือจะเป็นตัวอื่นๆ ก็ได้ เช่น Dropbox หรือ Google Drive เป็นต้น
5.นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ในท่าที่ไม่ถูกต้อง
เชื่อว่าหลายคนที่อ่านบทความนี้อยู่เป็นคนนั่งทำงานหน้าโต๊ะ ทั้งนี้ มีงานวิจัยระบุว่าการนั่งทำงานติดต่อกัน 8 ชั่วโมงต่อวันหรือมากกว่านั้น จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคระบบกล้ามเนื้อ โรคอ้วน และความผิดปกติอื่นๆ
ในขณะที่คุณทำงาน คุณสามารถหันไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อก็ได้ แต่ถ้าคุณต้องการรักษามาตรฐานการนั่งทำงานของคุณต่อไป คุณควรที่จะทำให้แน่ใจว่า เวลาที่คุณนั่งจุดบนสุดของมอนิเตอร์อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาของคุณ 2-3 นิ้ว เพื่อไม่ให้หลังงอหรือก้มหน้ามองจอจนเมื่อยไหล่
6.อย่าลืม log out ดีไวซ์ที่ไม่ใช่แล้วด้วย
สมัยเรียนคุณอาจจะเคยมีบ้างใช่ไหม ที่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแล้วไม่ได้ log out ออก ทำให้อาจมีเพื่อนๆ คนอื่นเข้า logged in ได้ แต่ไม่ควรทำให้มันเกิดขึ้นอีก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้อง log out ในทุกๆ devices ออก และเคลียร์ประวัติเบราวเซอร์ของคุณด้วย
ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการล็อกอินเข้าไปใน accounts ประเภทแบงก์กิ้งต่างๆ ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ส่วนตัวของคุณ ส่วนโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่าคิดว่าไม่สำคัญควร log out ออกทุกครั้งหลังไม่ใช้แล้ว อาทิ Google, Facebook หรือ Skype เป็นต้น
7.ไม่เคย restart คอมพิวเตอร์เลย
บ่อยครั้งที่เวลาคุณออกจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ คุณมักจะตั้งเป็นโหมด sleep หรือ standby แม้ว่ามันจะไม่ทำลายคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่มันจะทำให้การใช้งานช้าลง
ให้คอมพิวเตอร์ของคุณได้ restart บ้าง มันเป็นหนทางที่ดีที่จะจัดการโปรแกรมอื่นๆ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณอืดหรือช้าลงด้วย
8.ติดนิสัยเช็คมือถือทุกครั้งก่อนนอน
มีข้อมูลจาก ACS (the American Chemical Society) ว่าแสงจากมือถืออาจเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคนอนไม่หลับในมนุษย์ยุคใหม่ได้ และการใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก่อนนอนก็อาจจะทำให้วงจรการนอนหลับของคุณสับสนเช่นกัน เพราะว่าแสงสีฟ้าจากมือถือหรืออุปกรณ์ device ต่างๆ จะทำให้ร่างกายของคุณคิดเอาเองว่านี่เป็นเวลาเช้า
9.การผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะอัพเดทการดาวน์โหลดสำคัญๆ
การอัพเดทการดาวน์โหลด (Installing updates) อาจจะกินเวลานานและน่ารำคาญ แต่มันสำคญมาก การอัพเดทซอฟท์แวร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมาร์ทโฟนของคุณมักจะมากับการแก้ไข bugs ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มือถือของคุณช้าลงหรือทำให้ระบบป้องกันอ่อนแอ ดังนั้น เมื่อคุณเห็นการแจ้งเตือนว่าพร้อมให้อัพเดทได้แล้ว อย่าเพิกเฉย ควรรีบทำมันเสียเลย
10.ไม่เคย backing up ข้อมูลใดๆ เลย
โชคยังดีที่มือถือของคุณส่วนใหญ่จะ back up ทั้งภาพ คอนแท็กส์ และข้อความเอาไว้ที่ iCloud หรือ Google Drive แต่ถ้าคุณทำงานเยอะมากบนหน้าเดสก์ท็อป อย่าง Microsoft Office คุณต้องไม่ลืมที่จะ back up งานของคุณด้วย
แม้ว่าบริการ cloud จะมีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่คุณจะเก็บทุกอย่างที่สำคัญทั้งหมดลงในที่ๆ เดียว ยกตัวอย่าง Google Drive แม้จะเก็บข้อมูลได้มากมายบนพื้นที่ใหญ่ถึง terabyte แต่ก็คิดเงินกับเรา 10 ดอลล่าร์ต่อเดือนทีเดียว
จากทั้งหมด 10 ข้อ คุณคิดว่ามีพฤติกรรมไหนตรงกับคุณบ้าง หรือคุณอาจทำทั้งหมดนี่เลย อ่านถึงตรงนี้แล้วยังไม่สายที่จะเลิกพฤติกรรมเหล่านั้นเสีย เพราะมันไม่ดีต่อการทำงานและสุขภาพของคุณเอง