โลกโซเชียลฯ อาลัย แมนเดลา วีรบุรุษแอฟริกาใต้ถึงแก่อสัญกรรม

httpv://youtu.be/fPofm50MHW8

วีดีโอการให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวครั้งแรกของแมนเดลา

Los Angles Times ติดตามสถานการณ์การถึงแก่อสัญกรรมของ เนลสัน แมนเดลา อดีตผู้นำแห่งแอฟริกาใต้และสัญลักษณ์การต่อสู้เพื่อต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวในวัย 95 ปี หลังจากป่วยเรื้อรังมานานหลายเดือน โอกาสนี้มีคนดัง นักข่าว เซเลบริตี้ และองค์กรระดับชาติชื่อดังมากมายเขียนข้อความไว้อาลัยบนโลกโซเชียลเน็คเวิร์กอย่างคับคั่งดังตัวอย่างต่อไปนี้

ประวัติเนลสัน แมนเดลา

เนลสัน แมนเดลา เกิดเมื่อวันที่ 18 July 1918 ทางตะวันออกของแหลมเคป ประเทศแอฟริกาใต้ เดิมชื่อ มาดิบา ผู้ที่ตั้งชื่อว่าแมนเดลาให้คืออาจารย์สอนภาษาอังกฤษ อายุ 9 ขวบ บิดาของแมนเดลาซึ่งเป็นที่ปรึกษาของตระกูลผู้ปกครองชาวเทมบูเสียชีวิตลง เขาจึงได้รับการอุปการะจากผู้สำเร็จราชการแทน อายุ 23 ปี แมนเดลาหนีการแต่งงานคลุมถุงชนไปยังเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ก่อนจะเข้าเรียนวิชากฏหมายที่มหาวิทยาลัยวิทส์วอเทอแรนด์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เองที่แมนเดลาพบเจอกับผู้คนหลากเชื้อชาติ หลายวรรณะ และได้รับการปลูกฝังความคิดแบบเสรีนิยม ซึ่งนำไปสู่แนวทางการต่อสู้เพื่อปลดแอกชาวแอฟริกันในเวลาต่อมา

ปี 1943 แมนเดลาเข้าร่วม สมาชิกพรรคสภาแห่งชาติแอฟริกัน หรือเอเอ็นซี และต่อมาได้ร่วมก่อตั้งสันนิบาตยุวชนเอเอ็นซี ปี 1952 รณรงค์ต่อต้านระบอบการปกครองเหยียดผิวของพรรคคนผิวขาว ทำให้ต่อมาอีก 4 ปี แมนเดลาถูกตั้งข้อหากบฏพร้อมนักเคลื่อนไหวอีก 155 คน แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องหลังสอบสวนนานกว่า 4 ปี

เหตุการณ์ทำท่าจะเงียบสงบ แต่กฏหมาย Pass Laws ฉบับใหม่ซึ่งจำกัดเขตอยู่อาศัยและทำมาหากินของคนผิวดำ ทำให้กระแสต่อต้านการเหยียดผิวได้ขยายตัวไปทั่วแอฟริกาใต้ ส่วนพรรคเอเอ็นซีถูกประกาศให้หมดสภาพทางการเมืองในปี 1960 ทำให้ แมนเดลา ต้องเลี่ยงไปเคลื่อนไหวเป็นขบวนการใต้ดิน เหตุการณ์รุนแรงจนนำไปสู่การสังหารคนผิวดำถึง 69 คน แมนเดลาซึ่งขณะนั้นเป็นรองประธานเอเอ็นซีจึงทำการต่อต้านรัฐบาลด้วยการกบฏทางเศรษฐกิจส่งผลให้เขาถูกแจ้งข้อหาพยายามโค่นล้มรัฐบาล นำมาสู่คำพูดอมตะซึ่งมาจากคำให้การในศาลของแมนเดลาขณะถูกไต่สวน

“ผมเชิดชูอุดมคติเรื่องสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพ ที่ซึ่งคนทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์ และได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือสังคมอุดมคติที่ผมปรารถนาจะไปให้ถึง เป็นอุดมคติที่ผมพร้อมจะอุทิศชีวิตให้”

ปี 1964 แมนเดลาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โอลิเวอร์ แทมโบ เพื่อนของแมนเดลาที่ลี้ภัยไปต่างประเทศเริ่มรณรงค์ให้ชาวโลกร่วมกดดันเพื่อให้ปล่อยตัวแมนเดลา นำไปสู่การปล่อยตัวและยกเลิกการแบนพรรคเอเอ็นซีในเวลาต่อมา ปี 1993 แมนเดลาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพก่อนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้โดยนับเป็นการเลือกตั้งแบบประชาธิบไตยครั้งแรกของประเทศ ระหว่างอยู่ในตำแหน่งเขาทำประโยชน์เพื่อชาติและประชาคมโลกมากมาย ก่อนจะประกาศลาออกจากตำแหน่งในปี 1999 แต่ยังเป็นรัฐบุรุษอาวุโส จนเกษียณอย่างแท้จริงจากทุกตำแหน่งในวัย 85 ปี เนื่องจากปัญหาสุขภาพ อันนำมาสู่การเสียชีวิตจากอาการปอดติดเชื้อเรื้อรังในครั้งนี้