เบบี้มายด์ เจาะกลุ่มวัยรุ่น

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่ เบบี้มายด์ (โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง) ทุ่มงบเกือบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญเบบี้มายด์ “สวีทตี้พิงค์ สวีทตี้ เลิฟ เล็ตเตอร์” แคมเปญชิงโชค เพื่อรองรับกับการแข่งขันสงครามราคา ซื้อ 1 แถม 1 และแคมเปญชิงโชค ของคู่แข่งอย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 22% และแป้งเด็กแคร์ 42-43% เนื่องจากทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งลดลง

โอสถสภา เห็นว่าการทำแคมเปญต้องมุ่งเน้นกลุ่มวัยรุ่น เพราะมีกำลังการซื้อเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นตลาดใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มคุณแม่ที่มีลูก และที่ผ่านมา ปรับโพซิชันนิง และชูจุดขายฟังก์ชันนัล ให้มีความชัดเจนมากขึ้น คาดว่า เบบี้มายด์ จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้น และสามารถกระตุ้นยอดขาย 30% โดยปัจจุบันแป้งเบบี้มายด์ สวีทตี้พิงค์ เจาะกลุ่มวัยรุ่น เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 40%

ในปีนี้โอสถสภาตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 22% เป็น 25% จากการเติบโต 30% ขึ้นเป็นอันดับ 2 อย่างชัดเจน และทำให้ทิ้งห่าง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 2 กับเบบี้มายด์

ส่วนตลาดแป้งเด็ก มีมูลค่า 2,100 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5-7% จากปีที่ผ่านมาโต 9% ขณะที่ตลาดแป้งโดยรวมปีที่ผ่านมา 4,000 ล้านบาท เติบโต 4%

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาแป้งเย็นทเวลพลัส ในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยนำดาราจากเกาหลี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ประมาณว่า ปีนี้ตลาดแป้งเย็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท ไม่เติบโตหรือมีโอกาสติดลบ จากปีที่ผ่านมาตลาดแป้งเย็นหดตัว 4%

ผลประกอบการโอสถสภามาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือมีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท ปีที่ผ่านมาเติบโตเกิน 10% หรือมีรายได้ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท โดยสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ มาจากกลุ่มแป้งเด็กเบบี้มายด์ และแป้งเย็นทเวลพลัส ตามด้วยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

สรุปข่าวจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์