เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2556 ที่ผ่านมา ทาง Property Perfect ได้สร้างสถิติใหม่ของการถ่ายทอดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ “Happy Living Concert The Star 9” จากโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ ไปยังลูกบ้านทุกหลังที่ชื่นชอบ The Star ให้ได้ชมคอนเสิร์ตแบบออนไลน์พร้อมกัน
คอนเสิร์ตในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Property Perfect, The Star 9 และ Google ประเทศไทย ในการนำเทคโนโลยีโซเชียลแพลตฟอร์มของ Google+ มาสร้าง Virtual Concert หรือการถ่ายทอดคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่ที่สามารถให้ลูกบ้านของ Property Perfect ทั่วประเทศได้ร่วมชมคอนเสิร์ตพร้อมกัน และยังต่อยอดความบันเทิงนี้ไปสู่ เด็กผู้ด้อยโอกาสและเด็กพิการจากสถานสงเคราะห์บ้านนนทภูมิได้ร่วมชมผ่านระบบออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน
ความสำเร็จไม่ใช่เพียงการนำโซเชียลแพลตฟอร์มใหม่มาใช้งาน แต่เป็นความสำเร็จของลูกบ้านกว่า 5,000 หลังทั่วประเทศที่ร่วมชมคอนเสิร์ตและประมูลของรักของ The Star 9 ร่วมกัน ซึ่งทำให้เกิดสถิติใหม่ของวงการออนไลน์ และอสังหาริมทรัพท์ของไทยไปพร้อมๆ กัน
คุณวสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ผู้บริหารของทางProperty Perfect แจ้งว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของไทย ที่ถือเป็นการรวมตัวของลูกบ้านมากกว่า 5,000 หลังในการชมคอนเสิร์ตและร่วมทำกุศลไปพร้อมๆ กัน เพราะทาง Property Perfect ถือโอกาสนี้ถ่ายทอดคอนเสิร์ตไปยังเด็กผู้ด้อยโอกาสบ้านนนทภูมิ ให้ได้ชมคอนเสิร์ตไปพร้อมๆกันอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้จัดการประมูลการกุศลผ่านทางออนไลน์ให้ลูกบ้านได้ร่วมประมูลของรักจากเหล่าศิลปิน The Star 9 โดยลูกบ้านสามารถประมูลแข่งกันผ่านทางออนไลน์อีกด้วย
[ภาพผู้บริหาร PF คุณวสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่]
ที่มาของโครงการ Happy Living Concert The Star 9 และการถ่ายทอดสดผ่าน Google+
Happy Living ถือเป็นDNA ของ Property Perfect หรือเป็นสโลแกนของบริษัท ซึ่งเราเน้นในเรื่องของQuality, Environment, Security และ Lifestyleโดยไม่ว่าการนำเสนอใดๆจากทาง Property Perfect จะเกิดภายใต้คอนเซ็ปท์Happy Living ทั้งหมด ซึ่งสามารถแปลตรงตัวได้เลยว่าเป็นการสร้างให้เกิดความสุขหรือสร้างให้เกิดรอยยิ้มกับลูกบ้าน
Happy Living Concert The Star 9 จึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราจัดให้กับลูกบ้านของเรา เนื่องจากทางโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่ศิลปิน The Star 9 ใช้เป็นสถานที่เก็บตัวศิลปินตลอดการแข่งขันอยู่แล้ว ทางเราจึงถือโอกาสนี้จัดคอนเสิร์ตHappy Living Concert The Star 9 ให้กับลูกบ้าน และได้ร่วมมือกับ Google ประเทศไทย ในการเปลี่ยนคอนเสิร์ตนี้ให้เป็น Virtual Concert หรือคอนเสิร์ตออนไลน์เพื่อเปิดกว้างให้กับลูกบ้านของ Property Perfect ทั่วประเทศได้ร่วมชมพร้อมกัน
ทำไมถึงเลือก Google Hangout เป็นเทคโนโลยีหลักในการถ่ายทอดสด
จริงๆ แล้วเรามองว่าการถ่ายทอดสดแบบออนไลน์สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งโดยปกติใครๆ ก็ทำได้ แต่ทางProperty Perfect ไม่เพียงต้องการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องการให้ลูกบ้านสามารถพูดคุย และประมูลสินค้าผ่านออนไลน์ได้ในขณะชมคอนเสิร์ต รวมถึงการเข้าชมคอนเสิร์ตในที่ใดก็ได้ของตัวบ้าน หรือแม้ขณะเดินทาง เราจึงมองว่าการถ่ายทอดสดในแบบทั่วไปนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นข้อจำกัดทางด้านระยะเวลาการดำเนินงาน ต้นทุน ผู้เชี่ยวชาญ ทรัพยากรหลายด้าน และที่สำคัญคือข้อจำกัดของอุปกรณ์ในการรับชม เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์ในการเข้าถึงความบันเทิงนั้นมีความหลากหลายมากขึ้น และมีการใช้งานมากขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์ แทปเล็ต โทรศัพท์มือถือ และรวมไปถึงสมาร์ททีวี ซึ่งทางเราเชื่อว่าลูกบ้านของเราเป็นผู้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง และเพื่อความสะดวกในการรับชม ประกอบกับการร่วมมือกับทาง Google ประเทศไทย ทาง Google จึงยินดีนำเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดมาใช้สนับสนุนคอนเสิร์ตในครั้งนี้
ซึ่งทำให้เรามั่นใจถึงความเสถียรภาพของการรับชม ประกอบกับเอไอเอส ซึ่งถือเป็นพาร์ทเนอร์หลักอีกราย ที่เข้ามาสนับสนุนการให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทำให้การรับชมคอนเสิร์ตของลูกบ้าน สามารถขยายวงกว้างมากขึ้น ลูกบ้านของ Property Perfect ทั่วประเทศสามารถเข้าชมได้พร้อมกัน และสามารถชมจากที่ใดก็ได้
โครงการนี้ จัดให้กับเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ ที่เดียวหรือไม่
จริงๆ เราได้ร่วมมือกับ The Star มาหลายปีแล้ว Property Perfect เป็นส่วนหนึ่งในการทำคอนเสิร์ตในการแข่งขันทุกๆปี โดยได้จัดการเรื่องของบ้านให้กับศิลปินThe Star ซึ่งได้ทำต่อเนื่องแล้ว5-6 ปี ซึ่งได้เตรียมบ้านในระดับมาสเตอร์พีชในหลากหลายโครงการ หลายสถานที่ และปีนี้เราได้เตรียมบ้านที่โครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีช รัตนาธิเบศน์ให้กับศิลปิน อยู่อาศัยในช่วงเก็บตัวและใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต
โดยปกติเวลาที่เรามีกิจกรรมการจัดคอนเสิร์ตลักษณะนี้เราไม่สามารถจำกัดความบันเทิงนี้ได้เฉพาะโซนใดโซนหนึ่งหรือเฉพาะที่โซนรัตนาธิเบศน์ เพราะเรามี เพอร์เฟ็กต์แฟมิลี่คลับ คอมมูนิตี้ของลูกบ้านของเรา โดยปกติเราจะเชิญลูกบ้านในอีก 20-30 โครงการมาร่วมชมคอนเสิร์ตด้วย แต่ก็ไม่สามารถเชิญได้ทั้งหมด เนื่องจากยังมีโครงการที่ตั้งอยู่ในโซนอื่นๆ กระจายกันไป ทั้งรังสิต, สุวรรณภูมิ โครงการในเมือง เป็นต้น เพราะฉะนั้นในการเดินทางจะค่อนข้างลำบาก หากต้องเชิญลูกบ้านมาร่วมชมคอนเสิร์ตกันที่รัตนาธิเบศน์ที่เดียว การจัด Virtual Concert ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าบ้านได้ทั่วประเทศ ซึ่งใครอยากมาที่รัตนาธิเบศน์ก็ได้ อยากชมที่สุวรรณภูมิก็ได้ หรือที่ไหนก็ได้ เพียงมี Invitation Code ของลูกบ้านในการเข้ารับชมก็เพียงพอ
ผลตอบรับและผลสำเร็จที่ได้จากงานนี้
จากการตรวจสอบจำนวน IP ที่เข้าชมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ มีมากกว่า 5,000 IP ซึ่งหนึ่ง IP จะสามารถชมกี่ท่านก็ได้เราจึงมองว่าตัวเลข 5,000IP ที่เข้าชมในครั้งนี้ จะสามารถเท่ากับ 5,000 ลูกบ้าน หรือ 10,000-15,000 รายก็เป็นได้ ซึ่งถือว่าเราประสบความสำเร็จค่อนข้างมากกับการจัด Virtual Concert ในครั้งนี้ และค่อนข้างพอใจกับผลตอบรับและยินดีไปกับความสุข ความบันเทิงที่เรามอบให้นั้นส่งต่งไปถึงลูกบ้านกว่า 5,000 หลัง รวมถึงเด็กๆที่บ้านนนทภูมิด้วย
อีกหนึ่งความสำเร็จที่เราได้จากการจัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้คือ ในส่วนที่เรามองว่าสำเร็จเหนือความคาดหมายคือการได้ร่วมมือกับทางพาร์ทเนอร์ของเรา ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดช่องทางของการสื่อสารในทางโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางใหม่ๆ ของตลาดเมืองไทย ตรงจุดนี้เราถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงในการผลักดัน การนำสื่ออินเทอร์เน็ตต่อยอดความสัมพันธ์ให้กับลูกบ้าน
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็มีโอกาสทำได้ เนื่องจากปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ทำด้านเทคโนโลยี มีเครื่องมือมากมาย ที่เราสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำมาร์เกตติ้ง โดยมองในเชิงที่เราจะให้กับลูกค้า เราจะจับเครื่องมือไหนแล้วเอามาผนวกกันอย่างไรเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า กลุ่มเป้าหมายของเรา ซึ่งประเด็นตรงนี้ในครั้งนี้ ผมต้องบอกว่าเราประสบความสำเร็จมากในครั้งนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเกิดกระแส เกิดความแฮปปี้ของทางกลุ่มที่เข้าชมครั้งนี้ ประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักของเรา และที่เราได้แน่ๆ คือเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์กับลูกบ้าน จากเดิมที่เราเคยสร้างความสัมพันธ์กับลูกบ้านได้สัก 1 พันคน และตอนนี้ไกลจาก 1 พัน เรามองว่ากลายเป็น 5 เท่าทันที ก็คือเราสามารถสร้างการเข้าถึงของกลุ่มได้มากขึ้น
ประสิทธิภาพและผลจากการใช้สื่อออนไลน์ได้ช่วย Property Perfect ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้ซื้ออย่างไรบ้าง
เราเริ่มจากการพัฒนาเว็บไซต์ และการทำออนไลน์แบบจริงจัง ประมาณ 2ปีที่ผ่านมา โดย 2 ปีที่ผ่านมา เราเน้นในเรื่องของเว็บไซต์เป็นหลัก ถ้ามองจากสถิติของเว็บไซต์แล้วVisitor ของเราจากหลักแสน ซึ่งเรามีผู้เข้าชมเว็บไซต์ประมาณ 300,000Visitorsในปี 2553 และในปี 2554 จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มีจำนวนมากขึ้นเป็น 700,000ต่อปี และต่อมาในปี 2555 จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มีจำนวนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด คือ 2 ล้าน Visitors ต่อปี และสำหรับปีนี้ เพียงครึ่งปีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์อยู่ที่หนึ่งล้านต้นๆ นี่คือสิ่งที่เราเห็น คือยอดการเติบโตของการบริโภคสื่อของคนไทยกันค่อนข้างเยอะ แต่ปีนี้เราคงต้องดูที่ 6 เดือนหลังนะครับ เพราะ 6 เดือนหลังนี้ 3G พร้อมให้ผู้บริโภคคนไทยได้ใช้งาน ซึ่งเรามองว่าตัวอุปกรณ์ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะช่วยในการเพิ่มจำนวนจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ดังนั้น เรามองว่าช่องทางที่เราทำผ่านทางสื่อออนไลน์นี้ ตลาดในเมืองไทย กลุ่มลูกค้าเบบี้บูมอาจจะมีการใช้งานไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่กลุ่มใหม่ๆ อายุประมาณสัก 40 ลงมา ซึ่งเป็นฐานที่มีกลุ่มใหญ่มากขึ้น เพราะการบริโภคสื่อของเขาเปลี่ยนแปลง เขาไม่ได้มองแค่หนังสือพิมพ์ ไม่ได้มองแค่ทีวี ซึ่งเราจะได้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง โดยเปลี่ยนไปให้ความสนใจไปในทางสื่อออนไลน์ค่อนข้างมาก
ปัจจุบัน Property Perfect มีชาแนลในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านทางโซเชียลมีเดียใดบ้าง
ปัจจุบันเรามีครบในสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คของคนไทยที่นิยมใช้งานกัน คือ Facebook, Instagram, Twitter และGoogle+ ก็ถือว่ามีครบ
ออนไลน์ชาแนลใดที่ทาง Property Perfect ให้ความสนใจพิเศษ
สำหรับออนไลน์ชาแชล เราให้ความสำคัญอันดับหนึ่งไปที่เว็บไซต์ ซึ่งเรามองว่าเป็น Information Base ที่ดีที่สุด ถัดมาคือ Facebook และ Instagram หรือช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เราใช้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
ตอนนี้ผมเชื่อว่าเว็บไซต์จะก้าวกระโดดมาก เพราะบ้านถือเป็นสินค้าที่เป็น HighMovement เรามีคนซื้อคอนโดมิเนียมของเราตั้งแต่ราคาหนึ่งล้านบาท สองล้าน สามล้าน จนถึงบ้านราคา 50ล้านบาท ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงต้องการข้อมูลเกี่ยวกับโครงการมากที่สุด ซึ่งรวมถึงภาพลักษณ์ของบริษัทและเว็บไซต์จะเป็นที่แรกที่พวกเขาจะเข้ามาเพื่อข้อมูลและความมั่นใจ เพราะฉะนั้น เราจึงมองว่าสิ่งที่เราจะให้ความสำคัญมากที่สุดในปีนี้ก็คือในเรื่องของการพัฒนาเว็บไซต์ให้ได้ดีที่สุด
อันดับแรกคือ การเพิ่มระบบนัดหมายเข้าชมโครงการให้กับลูกค้า ที่สามารถนัดหมายผ่านทางเว็บไซต์โดยการลงทะเบียนรับ Green Code เพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการ ก็จะได้รับบริการพิเศษจากทีมงาน พร้อมข้อเสนอพิเศษจากทางโครงการอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ แคมเปญ สนับสนุนโครงการใหม่ของทาง Property Perfect ซึ่งเราตั้งใจจัดทำเป็นแคมเปญไซต์เฉพาะของโครงการใหม่ๆ โดยจะมีข้อมูลของโครงการนั้น และอาจจะมีภาพยนตร์ตัวอย่างเพิ่มเติม ซึ่งแคมเปญไซต์นี้ เราอาจจะทำเป็นลักษณะของห้องพิเศษสำหรับคนที่เข้ามาที่เว็บไซต์ เรียกว่าเป็นเคมเปญไซต์ที่คุณเข้ามาแล้วคุณไม่เจอที่อื่น อันนี้จะเป็นรายละเอียดที่เพิ่มให้สำหรับคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ ซึ่งเราได้ทำตรงนี้มาแล้วสักสองปี และปีนี้เราก็จะพัฒนาเพิ่มขึ้น ให้ง่ายขึ้น เพราะเรามีโครงการอสังหาฯมากกว่า 30 โครงการ ดังนั้นความง่ายในการเข้าถึงแต่ละโครงการจึงจำเป็นต้องง่ายและใช้เวลาน้อย ดังนั้นเราเชื่อว่าตอนนี้ทุกคนมีการบ้านเหมือนกันคือจะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของตัวเอง simple มากที่สุด หาง่ายที่สุด ดูง่ายมากที่สุด และนี่คือโจทย์ที่เรานำมาปรับปรุงในปีนี้
ทิศทางการทำการตลาดออนไลน์ของทาง Property Perfect ในครึ่งปีหลังของปี 2013 เป็นอย่างไร
ทาง Property Perfect ได้มีการพัฒนารูปแบบของเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่กลางปีนี้ เพราะฉะนั้นในครึ่งปีหลังเราคงจะต้องเตรียมการในเรื่องของซอฟต์แวร์เพื่อเรียนรู้เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภคที่เข้ามาที่เว็บไซต์ของเรามากขึ้น ซึ่งถือเป็นระบบหลังบ้านที่เราจะพัฒนา ส่วนระบบหน้าบ้านเราจะบุกตลาด ในเรื่องของการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า กลุ่มเป้าหมายของเราที่จะเข้ามา ที่เราต้องการจะสื่อสารกับเขาให้ได้มากที่สุดนั้นคืออะไร เราคงไม่ได้ทุ่มเฉพาะการซื้อสื่อโฆษณาแบนเนอร์ แต่จะต้องมองในเรื่องของตัวโซเชียลมีเดียที่ทำ เช่น ตอนนี้เราอาจจะต้องมองในเรื่องของการผลิตวิดีโอคอนเท้นท์ในยูทูป ซึ่งในอดีตเราเคยทำภาพยนตร์ซีรีย์ แต่ตอนนั้นกระแสยังไม่มา ซึ่งหากว่าเราจะทำ คงต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เราเคยทำ เพราะการทำภาพยนตร์ซีรีย์ให้ประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์ ซึ่งคอนเท้นท์ออฟไลน์และออนไลน์ก็ต่างกัน บางครั้งนักการตลาดประสบความสำเร็จในเรื่องของออฟไลน์ แต่ไม่สามารถประสบความสำเร็จบนโลกของออนไลน์ได้ ซึ่งเราผ่านจุดนี้มาแล้ว เพราะฉะนั้นครึ่งปีหลังเราคงทำการบ้านตรงนี้มากขึ้น และจะใช้การเปิดตัวคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลัง กับการทำวิดีโอคอนเท้นท์มากขึ้นซึ่งจะเป็นแคมเปญที่เราต้องการให้ลูกค้ารู้จักโปรดักส์ของเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวแบบบ้านใหม่ หรือในเรื่องของการเปิดตัวโครงการใหม่ อันนี้เราจะทำแคมเปญไซต์ขึ้นมารองรับคู่กับออฟไลน์ไปเลย
เพราะฉะนั้นในการทำการตลาดของ Property Perfect คือการทำทั้งสองขา คือขาออฟไลน์และขาออนไลน์ โดยสัดส่วนในการทำการตลาดของเราได้แบ่งเป็นประมาณ 90% กว่ากับ 10% อยู่ระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์ เพราะฉะนั้นเราต้องให้ออฟไลน์ขึ้นมาก่อน แล้วทำให้ออนไลน์เป็นสิ่งที่ซับพอร์ต และยังมีในส่วนออฟไลน์ที่ไม่สามารถทำได้ แต่ออนไลน์สามารถทำได้ ก็คือการสร้างสื่อผ่านโซเชียลมีเดีย
นับได้ว่าการร่วมมือกันระหว่าง Property Perfect, The Star 9, Google ประเทศไทย และเอไอเอส ในครั้งนี้ สามารถสร้างสถิติสัมพันธ์ใหม่กับกลุ่มผู้บริโภคได้ในแบบ Exclusive และยังสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จให้กับโลกออนไลน์ของไทยอีกด้วย