แกะเทปภาษาไทย! ต้อง Transkriptor อัดเสียง-แกะเทป-สรุปด้วย AI ส่งเข้าประชุมออนไลน์ก็ได้ แอปเดียวจบ

  • 21
  •  
  •  
  •  
  •  

คุณกำลังหาแอปพลิเคชั่นที่แกะเทปไฟล์เสียงภาษาไทยดีๆอยู่รึเปล่า? ถ้าไม่อยากปวดหัวกับ Google Doc ที่มีข้อจำกัด หรือไม่อยากรอ Notes ใน iPhone อัพเดทให้รองรับภาษาไทย เราอยากให้คุณไปลองแอปพลิเคชั่น Transkriptor แอปพลิเคชั่นช่วยอัดเสียงที่อัพเดทมาใหม่ ช่วยแกะเทปได้ง่ายขึ้น พร้อมกับมี AI ช่วยสรุป ที่รองรับภาษาไทยแถมยังแม่นยำแบบสุดๆ ยิ่งกว่านั้น เรายังสามารถส่ง Transkriptor เข้าไประชุมออนไลน์ได้ด้วย

Transkriptor คืออะไร?

Transkriptor คือแอปพลิเคชั่นที่รองรับทั้ง Android และ iOS มีไว้สำหรับทั้งคนทำงานที่ต้องเข้าประชุม สรุปการประชุม เข้าฟังสัมมนา คนสายข่าวที่ต้องสัมภาษณ์แหล่งข่าว คนทำงานที่ต้องรับบรีฟจากลูกค้า รวมไปถึงนักเรียนนักศึกษาที่ต้องฟังเลคเชอร์ยาวๆ

ฟีเจอร์เด่นๆก็คือการ อัดเสียง แกะเทปเสียง ถอดความเป็นตัวอักษร และนำไปใช้งานต่อ เช่น ทำรายงานการประชุม เขียนบทความ สรุปเนื้อหาการเรียนการสอน และอื่นๆได้อย่างสะดวก

เจ้าแอป Transkriptor รองรับได้หลายภาษา โดยเฉพาะภาษาไทยที่สามารถแกะออกมาได้อย่างแม่นยำ แม้จะเป็นการพูดแบบ “ไทยปนอังกฤษ” ก็สามารถแกะออกมาได้แบบไม่เพี้ยน นอกจากนี้ยัง “แยกผู้พูด” ออกได้ด้วย

นอกจากนี้ในเวอร์ชั่ใหม่ๆ แอป Transkriptor ยังมี AI มาช่วยงานเราด้วย เราสามารถ Chat กับ AI ให้มาช่วยสรุปเนื้อหาจากข้อความที่แกะเทปออกมาได้ทั้งหมด หรือแม้แต่จะสั่งให้ “เขียนบทความ” จากการแกะเทปออกมาเลยก็ทำได้ด้วย

วิธีใช้ Transkriptor

เริ่มต้นด้วยการไปดาวน์โหลด Transkriptor มาก่อนโดยสามารถโหลดได้จากทั้ง Google Play Store สำหรับคนใช้ Android และ App Store ของ iOS จากนั้นเมื่อกดเข้าไปในแอปพลิเคชั่นก็จะเจอเมนูหลักๆที่แอปแนะนำ ให้เรากดไปที่ Get Started

เมื่อเข้าไปแล้วเราจะเจอกับเมนูหลักที่แอปมีบริการให้เรา โดยเมนูหลักๆก็จะมีตั้งแต่

  • Upload a File – อัพโหลดไฟล์เสียงเข้าไปแกะเทปด้วย
  • YouTube to Text – ใส่ link YouTube เข้าไปแกะเทปได้
  • Use Cloud Files – ใส่ link ไฟล์จาก Google Drive, Dropbox หรือ OneDrive เข้ามาแกะเทปได้
  • Record Audio – อัดเสียงได้จากในแอปโดยตรงแล้วระบบจะแกะเทปได้
  • Voice Note – ฟีเจอร์จดบันทึกด้วยเสียง
  • Take Note – สามารถพิมพ์จดบันทึกเข้าไปในแอปได้โดยตรง

ในกรณีที่เราอัดเสียงแล้วกด Save แล้ว Transkriptor จะพาเราเข้าสู่ระบบ Transcribe โดยถ้าไฟล์ที่เราอัดเสียงมาเป็นภาษาไทย ให้เราเลือกเปลี่ยนภาษาจาก “ภาษาอังกฤษ” ให้เป็น “ภาษาไทย”

เปลี่ยนภาษาเรียบร้อยแล้วให้กด Transcribe ระบบจะใช้เวลาสักนิดขึ้นอยู่กับความยาวของไฟล์เสียงหากไฟล์เสียงราวครึ่งชั่วโมงก็อาจใช้เวลาราว 3-4 นาทีหากไฟล์อัดมายาวกว่านั้นก็จะใช้เวลามากขึ้นไปตามลำดับ

ในช่วงที่รออยู่นี้เราสามารถปิดหน้าแอปไปทำอย่างอื่นได้ โดยเมื่อ Transkriptor แกะเทปให้เราเสร็จจะแจ้งเตือนเป็น Notification กับเราในสมาร์ทโฟนด้วยทันที ซึ่งเราก็สามารถกดเข้ามาและจะได้หน้าเจอกับหน้าจอที่ระบบแกะเสียงให้เราเรียบร้อยแล้ว

สำหรับหน้าจอนี้ระบบจะแกะเทปโดยแยกผู้พูดมาให้เราเบื้องต้น เราสามารถกด Double Tab เข้าไปแก้ไขข้อความที่ถูกถอดออกมาได้ สามารถ “กดฟัง” ย้อนหลังเป็นส่วนๆได้ นอกจากนี้เรายังสามารถระบุชื่อผู้พูดได้ด้วย ซึ่งเราเปลี่ยนแค่ครั้งเดียว ระบบจะตรวจจับและเปลี่ยนชื่อผู้พูดให้ทั้งไฟล์ได้เลย

สำหรับวิธีการนำ Text ออกมาใช้ก็สามารถทำได้ด้วยการ กดปุ่ม 3 จุดมุมซ้ายล่างของแอป > กด Export > เลือกสไตล์ (เอาแค่ Text หรือจะทั้ง Text & Timestamps หรือ Text & Timestamps & Speakers) > เลือก Format (เอา PDF, TXT, SRT หรือ VVT) ก็ได้

นอกจากแกะเทปออกมาเป็น Text ได้แล้ว Transkriptor ยังมี AI อยู่เบื้องหลังที่จะช่วยเราสามารถพูดคุยกับเนื้อหาทั้งหมดได้ด้วย โดยสามารถกดเข้าไปที่ “Chat” ระบบจะพาเข้ามาในหน้าที่เราสามารถ Chat พูดคุยกับ AI ได้ เราก็สามารถพิมพ์ Prompt ให้ AI ทำตามที่เราต้องการได้เลย

ความสามารถของ AI ใน Transkriptor ทำได้ตั้งแต่การ “สรุปเนื้อหา” หรือแม้แต่การ “เขียนบทความ” ก็ยังทำได้ก็เพียงแค่ Chat คุยกับ AI ในระบบของ Transkriptor ง่ายๆเช่น “สรุปบทสนทนานี้ให้หน่อย” หรือ “เขียนบทความจากบทสนทนานี้” แค่นั้นเลย ที่เราต้องทำก็แค่ Copy เนื้อหาเหล่านั้นออกไป ปรับแก้ หรือ นำไปใช้ได้ทันที

ส่ง Transkriptor เข้าไปสรุปประชุมออนไลน์

แถมให้อีกนิด ด้วยฟีเจอร์น่าสนใจอีกอย่างนั่นก็คือ “Meeting” เราสามารถส่ง Transkriptor เข้าไปฟังประชุมได้ โดยไปที่หน้าแรกของแอป เลือกไปที่ Meeting > Join Meeting > ใส่ลิงก์ประชุมจาก Zoom, Google Meet หรือ Team ได้

กรณีที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ Host จะต้อง กดรับ Transkriptor ของเราเข้าสู่ห้องประชุมเหมือนกับเป็นสมาชิกผู้เข้าประชุมอีกคนหนึ่ง เมื่อการประชุมเสร็จสิ้น transkriptor จะส่ง Text ที่ถอดความเสร็จเรียบร้อยเข้ามาอยู่ที่เมนู Transcription โดยไฟล์จะขึ้นต้นด้วยคำว่า Meeting แยกออกมาจากไฟล์เสียงอื่นๆที่เราแกะเทปเอาไว้ก่อนหน้า เมื่อเรากดเลือกเข้าไป เราก็สามารถเข้าไปแก้ไข ทำสรุป และนำ Text เหล่านั้นมาใช้ได้เลย

สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้ Transkriptor

ผู้ใช้ใหม่มีเครดิตให้ใช้งานแกะเทปฟรี 90 นาที หลังจากนั้นจะต้องสมัครบริการแบบ Premium มีให้ใช้ 2,400 นาทีต่อเดือน

  • Premium แบบรายเดือน 699 บาทต่อเดือน
  • Premium แบบรายปี 3,900 บาท หรือ 332 บาทต่อเดือน

ทั้งหมดคือความสามารถบางส่วนของ Tranksriptor เท่านั้น ใครที่ต้องใช้การอัดเสียงในการทำงานเยอะๆ ไม่ว่าจะภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆก็แนะนำให้ไปลองใช้กันดู


  • 21
  •  
  •  
  •  
  •