ACT(ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ลงนาม MOU กับ ‘Saif Belhasa Holding’ กลุ่มบริษัทชั้นนำที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลางและ UAE เพื่อมุ่งสร้างโซลูชันทางการเงินร่วมกัน โดยใช้ ACT(ACET) ในการชำระเงินและเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ล้ำสมัยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท SBH
นายวรวัฒน์ นาคแนวดี ผู้ก่อตั้งสกุลเงินดิจิทัล ACT(ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยระบบบล็อกเชนเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ ระหว่าง ACT(ACET) และกลุ่มบริษัท Saif Belhasa Holding (SBH) นำโดย Dr. Saif Ahmad Belhasa ประธานและผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Saif Belhasa Holding (SBH) ดำเนินธุรกิจครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง ค้าปลีก อุตสาหกรรมยานยนต์ การศึกษา การเงิน ฯลฯ หลังบรรลุข้อตกลงการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและระบบการชำระเงินดิจิทัลด้วย ACT(ACET) ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ล้ำสมัย มาเป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างไร้รอยต่อในภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัท SBH และ UAE โดยวางโรดแมป 3 ปี ดังนี้
• อสังหาริมทรัพย์: ใช้ ACT(ACET) เป็นสื่อกลางในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ของ SBH พร้อมร่วมกันศึกษาการใช้ NFT Property Tokenization เพื่อให้สามารถถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์แบบแบ่งส่วนผ่านบล็อกเชนได้
• ยานยนต์: ใช้ ACT(ACET) ในการซื้อ และเช่ารถยนต์หรูจากตัวแทนจำหน่ายของ SBH รวมถึงการนำ ACT(ACET) มาใช้เป็นตัวเลือกสำหรับการจัดไฟแนนซ์ที่รองรับคริปโต
• การค้าปลีกและการบริการ: นำ ACT(ACET) มาใช้เป็นวิธีการชำระเงินในศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรมและธุรกิจอื่น ๆ ในเครือของ SBH โดยผู้ถือ ACT(ACET) จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น รางวัลพิเศษ สมาชิกระดับ VIP ส่วนลดอื่น ๆ พร้อมพัฒนาระบบ Next-generation loyalty เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการให้รางวัลลูกค้า
• บริการทางการเงิน: ร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ใช้บล็อกเชน เช่น การให้กู้ยืม การค้ำประกัน (Staking) และสร้างการมีส่วนร่วมในกองทุนการลงทุนเพื่อสำนักงานครอบครัว (Family Offices) และกลุ่มทุนเอกชน เพื่อผลักดันให้ ACT(ACET) ได้รับการยอมรับในระดับสถาบัน พร้อมสำรวจโอกาสในการลงทุนด้าน Venture Capital ที่ใช้สินทรัพย์คริปโตเป็นหลัก
• สัญญาอัจฉริยะและสินทรัพย์ดิจิทัล: บูรณาการโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชน ACT(ACET) เข้ากับระบบการเงินของ SBH เพื่อให้การดำเนินการตามสัญญา การโอนสินทรัพย์ และการชำระเงินโดยอัตโนมัติมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย พร้อมร่วมกันศึกษาแนวทางการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควบคู่กับบล็อกเชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ
• การขยายธุรกิจระดับสถาบันและความร่วมมือกับภาครัฐ: ร่วมมือกันเพื่อปรับแนวทางด้านบล็อกเชนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งดูไบ (Virtual Asset Regulatory Authority: VARA) และตลาดโลกอาบูดาบี (Abu Dhabi Global Market: ADGM) เพื่อส่งเสริมให้ ACT(ACET) ได้การรับรองทางกฎหมายและถูกนำไปใช้ในวงกว้าง
“ความร่วมมือนี้ จะทำให้ ACT(ACET) กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ได้จริงในภาคธุรกิจของ UAE ซึ่งเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งอันดับต้น ๆ ของโลก ผมเชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือนี้จะทำให้ ACT(ACET) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดรวม (MarketCap) ที่สูงขึ้นและกลายเป็นคริปโตชั้นนำของโลกด้วยระยะเวลาที่สั้นลง” นายวรวัฒน์ กล่าว
ด้าน Dr. Saif Ahmad Belhasa ประธานและผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Saif Belhasa Holding (SBH) กล่าวว่า MOU นี้ ทำให้ SBH ได้ก้าวเข้าสู่อนาคตดิจิทัลอย่างกล้าหาญ กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของ UAE ที่ผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าสู่Ecosystem ที่ครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลายของเรา โดยเราจะใช้ ACT(ACET) เป็นวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลอย่างเป็นทางการในภาคธุรกิจที่กำหนด พร้อมส่งเสริมการใช้งานACT(ACET) ในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน พันธมิตรทางธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงสนับสนุนการขับเคลื่อนACT(ACET) ให้ไปสู่ระดับโลก ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และพันธมิตรทางธุรกิจ
“ความร่วมมือระหว่าง SBH กับ ACT(ACET) ในครั้งนี้จะเป็นการพลิกโฉมโซลูชันทางการเงินในรูปแบบใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของ SBH ด้วยบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการชำระเงินด้วยทั้งใน UAE และระดับโลกร่วมกับ ACT(ACET) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ยอดเยี่ยมของเรา” Dr. Saif Ahmad Belhasa กล่าว