กางโรดแมพ “แกร็บ ประเทศไทย” นำ AI & ML ช่วยผลักดันบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 5 กลุ่ม ยกระดับคุณภาพชีวิตและการทำงาน

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันอย่างไม่ต้องสงสัย ล่าสุด แกร็บ ประเทศไทย (Grab Thailand) ก็ประกาศเดินหน้าบริการใหม่ๆ ผ่าน 3 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ AI & Machine learning, IoT (อุปกรณ์ที่เชื่อมโยงด้วยอินเทอร์เน็ต) และ In-app Solutions (โซลูชันนวัตกรรมบนแอปพลิเคชัน) เพื่อเป้าหมายของการทำให้ชีวิตผู้บริโภคและสังคมดีขึ้น

 

วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า กว่าทศวรรษของการดำเนินธุรกิจ แกร็บยึดมั่นในพันธกิจ GrabForGood หรือ ‘แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ที่มุ่งพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคมาโดยตลอด โดยแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของแกร็บ เริ่มต้นจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตและทำความเข้าใจอินไซต์ของผู้บริโภค รวมถึงคนในวงจรธุรกิจ (Ecosystem) ไม่ว่าจะเป็น คนขับหรือผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหาร ตลอดจนติดตามและเรียนรู้ประเด็นความสนใจและความท้าทายของสังคม เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดผลในวงกว้าง โดยปัจจุบันแกร็บมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ใน 4 ประเด็นหลัก คือ การเสริมประสิทธิภาพการทำงาน (Efficiency) การเพิ่มศักยภาพและผลิตผล (Productivity) การยกระดับประสบการณ์การใช้งาน (Experience) และการสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact)

 

“สำหรับในประเทศไทยการนำเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI Technology) มาใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลัก (4A) ที่เราประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปีเพื่อรักษาความเป็นผู้นำทั้งบริการการเดินทางและเดลิเวอรี โดยในปีนี้เรามุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาและใช้ประโยชน์เทคโนโลยีใน 3 ส่วนหลัก คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุปกรณ์ที่เชื่อมโยงด้วยอินเทอร์เน็ต (IoT) และโซลูชันนวัตกรรมบนแอปพลิเคชันของเรา (In-app Solutions) เพื่อช่วยตอบโจทย์และเติมเต็มความต้องการของคนในอีโคซิสเต็มในด้านต่างๆ อย่างสร้างสรรค์”

 

เทคโนโลยีสร้างโซลูชั่นให้ 5 Stakeholder สำคัญของแกร็บ

1.ผู้ใช้บริการ (Users)

เทคโนโลยีที่เข้าใจ “ผู้ใช้บริการ” ทุกบริการและนวัตกรรมของแกร็บถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ปัญหา (pain point) ในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยผ่านการศึกษาพฤติกรรมและบริบทของการใช้งานเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด พร้อมเพิ่ม 2 บริการนวัตกรรมใหม่ให้ ได้แก่ บัญชีครอบครัว (Family Account) และ ฟู้ดล็อกเกอร์ (Food Lockers)

คำสั่งซื้อกลุ่ม (Group Order)

  • 93% ของผู้ใช้ GrabFood ในประเทศไทย ใช้บริการแบบ Group Order
  • 85% ของผู้ใช้ Group Order มักจะสั่งในมื้อเที่ยงและมื้อเย็
  • Feature Highlight ได้แก่ สมาชิกสามารถแทร็กกิ้งออร์เดอร์ได้ / สามารถกำหนดเดดไลน์ในการยกเลิกกลุ่มการสั่งได้ / สามารถแชร์โปรโมฯคูปองร่วมกันได้ / แชร์ค่าใช้จ่ายของใครของมันได้ ไม่ต้องหารเท่า /เลือกว่าใครจะเป็นคนจ่ายได้ / แต่ละคนสามารถคัสโทไมซ์ออร์เดอร์ของตัวเองได้

บัญชีครอบครัว (Family Account)

  • พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ ให้กับสมาชิกในครอบครัว โดยผู้ใช้บริการสามารถเรียกรถ ตรวจสอบตำแหน่งการเดินทาง สื่อสารผ่านแชตกับคนขับ และชำระค่าบริการให้กับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างสะดวกสบาย

ฟู้ดล็อกเกอร์ (Food Lockers)

  • ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับพนักงานออฟฟิศที่ชอบสั่งอาหารผ่านแอปฯ แต่บางครั้งอาจติดประชุมหรือไม่สามารถลงมารับอาหารได้ทันที
  • ช่วยให้ไรเดอร์สะดวกในการส่งมอบอาหารได้เร็วขึ้นไม่ต้องรอคอยลูกค้า
  • ปัจจุบันเริ่มนำร่อง 4 แห่งก่อน ได้แก่ The PARQ, ตึก FYI, The9th Towers และ Centralworld Offices
  • หลังเปิดให้บริการพบว่า ผู้ใช้หันมาใช้บริการ 20%

2.คนขับ (Drivers)

เทคโนโลยีที่เสริมประสิทธิภาพ “คนขับและไรเดอร์” เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับคนขับ คือ การอำนวยความสะดวกและช่วยให้คนกลุ่มนี้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการหารายได้ให้กับพวกเขา เน้นการช่วยการประหยัดเวลา และเพื่อรับออร์เดอร์เพิ่มขึ้น และนำมาสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning (ML) มาช่วยในระบบจัดสรรงานสำหรับคนขับและวางแผนระบบปฏิบัติการหลังบ้าน

  • ระบบจัดสรรคำสั่งซื้อแบบทันเวลาพอดี (Just-in-Time Allocation) ที่ใช้ Machine Learning มาประเมินเวลาการเตรียมอาหารของร้านค้าก่อนจะส่งงานให้คนขับ เพื่อลดระยะเวลาการรอรับอาหารให้สั้นที่สุด
  •  การพัฒนาแผนที่ในอาคาร (Indoor Map) ที่ช่วยแนะนำเส้นทางและบอกตำแหน่งของร้านอาหารภายในห้างหรืออาคาร ซึ่ง ช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาได้ถึง 20%
  • KartaCam2 ติกล้องไว้ที่หน้ารถคนขับ พร้อมรายงานอุบัติเหตุ หรือจุดปิดถนน จุดน้ำท่วมขัง ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคในการขับขี่ โดยจะมีการนำข้อมูลการรายงานนี้เผยแพร่ เพื่อให้คนขับหลีกเลี่ยงจุดดังกล่าวได้ และสามารถช่วยให้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้น

3.ผู้ประกอบการ-ร้านอาหาร (Merchants)

เทคโนโลยีที่เสริมโอกาสทางธุรกิจให้กับ “ผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหาร” การช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับคนกลุ่มนี้

  • AI Generate Image – เทคโนโลยี AI มาช่วยสร้างหรือออกแบบ ภาพอาหารให้ใกล้เคียงของจริงที่สุด ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านค้า โดยที่ภาพที่ เจนฯโดย AI จะมีลายน้ำพาดอยู่ เพื่อความเป็นธรรมก่อนตัดสินใจสั่งอาหาร รวมถึงพยายามป้องกันเรื่องของอาหารไม่ตรงปก ก็จะมีการพัฒนาตรงนี้เพื่อความถูกต้องให้มากขึ้น
  • Machine Learning – มาใช้ประเมินศักยภาพและอนุมัติวงเงินที่เหมาะสมให้พาร์ทเนอร์ร้านค้าโดยพิจารณาจากข้อมูลการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มของแกร็บ

4.สังคมและสิ่งแวดล้อม (Society)

เทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาและพัฒนา “สังคมและสิ่งแวดล้อม” โดยแกร็บมุ่งให้ความสำคัญกับประเด็น ด้านความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ดังนั้น จึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ใช้บริการและคนขับอย่างต่อเนื่อง

ครอบคลุมตั้งแต่ก่อน ระหว่างและหลังจบการเดินทาง อาทิ ระบบยืนยันตัวตนของคนขับด้วยการสแกนใบหน้า (Biometric Authentication) ระบบตรวจสอบการเดินทางแบบเรียลไทม์ (Real-time Trip Monitoring) หรือระบบบันทึกเสียงระหว่างการเดินทาง (AudioProtect) ที่ช่วยป้องกันเหตุร้ายและใช้เป็นหลักฐานหากเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้โดยสารและคนขับ ขณะเดียวกัน แกร็บยังได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อรับมือกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การพัฒนาฟีเจอร์ไม่รับช้อนส้อมพลาสติก (Plastic Cutlery Opt-Out) และฟีเจอร์ชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) ที่ผู้ใช้บริการสามารถร่วมบริจาคเพื่อนำเงินไปซื้อคาร์บอนเครดิตและปลูกต้นไม้ ซึ่งได้รับความสนใจและการมีส่วนร่วมอย่างดีจากผู้ใช้บริการ

5.Grabbers (พนักงานแกร็บ)

เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมศักยภาพของ “พนักงาน” เพื่อมุ่งสู่การเป็น AI-led Organization ในปีนี้แกร็บได้ส่งเสริมและผลักดันให้พนักงานทั่วทั้งภูมิภาคก้าวทันเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านโปรแกรมพัฒนาและฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีที่มีความเข้มข้น โดยเฉพาะ Generative AI พร้อมพัฒนาเครื่องมือที่ออกแบบโดยทีมเทคภายในองค์กร

  • โปรแกรม GrabGPT เครื่องมือที่นำเทคโนโลยี Large Language Models (LLMs) เข้ามาช่วยในการผลิตเนื้อหาและภาพประกอบ
  • โปรแกรม Mystique เครื่องมือที่ช่วยในการเขียนคำโฆษณา ซึ่งจะช่วยย่นเวลาการทำงานของฝ่ายการตลาดและครีเอทีฟ

“สำหรับแกร็บ เราไม่ได้มุ่งเน้นการใช้หรือพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องล้ำสมัยที่สุด แต่เราให้ความสำคัญกับเป้าหมายของคนในอีโคซิสเต็มและอรรถประโยชน์ของเทคโนโลยี คือ ต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาของคนในอีโคซิสเต็มได้จริงๆ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเราจะยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจ GrabForGood เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่อนาคตต่อไป” นายวรฉัตร ปิดท้าย

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!