Marketing Oops! Podcast : Oops! Unbox Idea ชวนฟังเรื่องราวสนุก เกี่ยวกับแวดวงโฆษณา แคมเปญการตลาด และการใช้ไอเดียสร้างสรรค์ผลักดันในการทำธุรกิจ ผ่านแง่มุมต่างๆ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากกับการทำงานโฆษณาในปัจจุบัน ซึ่งเราได้มีโอกาสคุยกับ CCO เอเจนซี่ในมุมมองนี้ไปแล้วหลายครั้ง มาทางฝั่งโปรดักชั่นเฮาส์กันบ้างว่า เขามีมุมมองในเรื่องนี้อย่างไร เทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็มหรือเข้ามา “แย่งงาน” กันแน่!! มาฟังจากตัวพ่อแห่งวงการโปรดักชั่นมือรางวัล แล้วยังเป็นหนึ่งในเฮาส์ที่ฉายภาพของการพาไก่ไปอวกาศให้เราได้เห็นมาแล้ว ได้แก่ คุณเอ๋ – ธีระพล สุเนต์ตา ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาและผู้ก่อตั้ง Suneta House
คุณเอ๋ เริ่มต้นอย่างไม่รีรอถึงเทรนด์ AI ที่ใครก็ไม่อาจปฏิเสธ ซึ่งมองว่า เป็นเทคโนโลยีที่มาแรง ฝั่งโปรดักชั่นเองก็เช่นกัน โดยงานที่นำ AI มาใช้งานเริ่มตั้งแต่ Pre-production ไปจนถึง Post-production เลยทีเดียว เช่น การแยกเสียงแทรกของรถมอเตอร์ไซค์ ออกจากเสียงคุยหรือเสียงนักร้อง ซึ่งทำให้การทำงานรวดเร็ว ร่นเวลาในการทำงานดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ หนึ่งในงานที่ถือว่าเป็นไวรัลเลยทีเดียว ซึ่งเป็นงานที่ Suneta House ใช้ในการทำชิ้นงานโฆษณาและคว้ารางวัลมาได้ด้วย ได้แก่งาน “ถ้าได้โอกาสอีกครั้ง…คุณจะทำอะไร” โดยลูกค้าแบรนด์ “ห้าดาว” (Five Star Chicken Thailand) ซึ่งใช้ทั้งเทคโนโลยี Deep Fake และการใช้แว่น VR (Virtual Reality) นำเสนอผ่านเรื่องจริงของลูกสาวที่คิดถึงคุณแม่ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็กดๆ และหากมีโอกาสสักครั้งก็อยากจะได้เห็นคุณแม่ของเธออีก ซึ่งด้วยครีเอทีฟไอเดีย และเทคโนโลยีก็ทำให้เธอได้สมหวังอีกครั้ง
สำหรับโฆษณาชิ้นนี้ มียอดวิวมากกว่า 2 ล้านวิว พร้อมกับคว้ารางวัลทางด้านโฆษณาในหลายเวที แต่ที่สำคัญคือ ได้รับคำชมและเสียงตอบรับจากผู้ชมมากมายเลยทีเดียว
คุณเอ๋ เล่าว่า นอกเหนือจากการใช้เวลาในการแคสต์หานักแสดงที่ใช่ หาสตอรี่ที่ลงตัวแล้ว วิธีการที่จะได้มาซึ่งภาพของคุณแม่ของเธอ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2553 ประมาณ 14 ปีที่แล้ว นับเป็นเรื่องยากเป็นอย่างยิ่ง เพราะในยุคสมัยนั้นทั้งภาพถ่ายและภาพวิดีโอไม่ได้เรื่องง่าย และไม่ได้มีมากมายเหมือนกับในปัจจุบัน แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ของทีมงาน หรือโชคชะตาอะไรบางอย่างก็ทำให้อุปสรรคทุกอย่างลุล่วงไปได้ (ไปฟังเรื่องราวสนุกๆ และความท้าทายแบบเต็มๆ ของการถ่ายงานโฆษณาชิ้นนี้ได้ที่ podcast)
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ คุณเอ๋ เองก็มองว่า คนทำงานโปรดักส์ชั่นเฮาส์ จะต้องคอยอัปเดทตัวเอง และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้อยู่เสมอด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว นอกจากมันจะมาแทนที่เราแล้ว เราก็จะไม่สามารถฝ่าวิกฤตต่างๆ ได้ โดยเฉพาะที่ผ่านมาโควิด-19 มันสอนให้เราได้เรียนรู้ถึงความลำบากและความจำเป็นของคนทำงานโปรดักส์ชั่นเฮาส์เลย จากออกกองกันเป็นร้อย เหลือแค่ 10-20 คน ถ้าเราไม่พัฒนา ไม่ปรับปรุงตัวเอง เมื่อไหร่ที่เจอวิกฤตหรือการดิสรัพท์เราก็อาจจะไม่รอด
เรายังชวนคุณเอ๋คุยเรื่อง Shit Happening ที่เป็นเสน่ห์ของงานโฆษณาว่า เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทแล้วจะทำให้เสน่ห์เหล่านี้หายไปหรือไม่ คุณเอ๋ มองว่า สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้เทคโนโลยี แต่ถึงกระนั้น ในตอนนี้ที่เราเห็นภาพคือความเพอร์เฟคที่ AI สร้างออกมานั้น คนเริ่มดูออกแล้วว่ามันสวยเกินไป มันงดงามเกินไป น่าจะไม่ใช่ “คน” หรือมนุษย์ทำแน่ๆ คนเริ่มจับทางตรงนี้ได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ AI ได้ค่อยๆ เรียนรู้ว่า ไม่ต้องทำออกมาดีเป๊ะ สวยเวอร์ คือทำเลียนแบบมนุษย์ได้มากขึ้น มีจุดบกพร่องเหมือนมนุษย์ด้วย เชื่อว่าสิ่งนี้ไม่ช้าก็เร็ว มันจะเรียนรู้ได้และทำได้เหมือนมนุษย์จริงๆ ทำ
อย่างไรก็ตาม ในเวลาที่ยังไม่ไปตรงนั้น หรือในเวลาที่เรายังไม่ตกงาน คิดว่า ตำแหน่งที่จะไม่ถูกดิสรัพท์แน่ๆ ก็คือ “คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจได้” Decision Maker คนที่ทำตำแหน่งแบบนี้ ยังไงก็ไม่ถูกแทนที่ เพราะไม่มีใครมาแทนได้
“ผมก็อาจจะตอบแทนโปรดักชั่นเฮาส์อื่นไม่ค่อยได้นะ แต่ว่าเท่าที่เห็นก็คือทุกคนก็พยายามปรับตัว และใช่เทคโนโลยี AI เราเรียกเป็น New era นะคือหมายถึงว่ามันมาในขณะที่เราบางคนก็ยังตั้งรับไม่ทันยังอยู่ที่เดิม แต่ว่าซักวันสักวันหนึ่งพวกเขาก็จะค่อยๆ ปรับตัว เพราะว่า ทั้งฝั่งเฮาส์เอง เอเจนซี่เอง รวมถึงลูกค้าด้วย ซึ่งอาจจะไวกว่าเราเสียด้วยซ้ำ ซึ่งตรงจุดนี้แหละที่มันจะบีบให้เราไม่ช้าก็เร็วทำให้เราต้องเร่งปรับตัวมากขึ้น และคนที่ปรับตัวได้ คนนั้นก็จะอยู่รอด”