ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Google แทบจะเป็นหน้าแรกของการเปิดเข้าเว็บไซต์ ด้วยประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลที่เรียกว่า อยากรู้อะไรให้ถาม “อากู๋” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้จะมี Search Engine ต่างๆ มากมายออกมาพยายามสร้างความแตกต่าง แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนจะเข็นไม่ขึ้น เพราะสิ่งหนึ่งที่ Google โดดเด่นคือฐานข้อมูลที่มหาศาลเข้าถึงได้แทบทุกเว็บบนโลก
แต่ตอนนี้บัลลังค์ของ Google เริ่มสั่นคลอนหลังการเข้ามาของ OpenAI โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT เทคโนโลยี AI ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานตามความต้องการ รวมไปถึงการค้นหาข้อมูลต่างๆ แม้ช่วงที่ผ่านมาการค้นหาข้อมูลของ ChatGPT จะออกอาการมั่วบ้างหรือได้ข้อมูลที่ไม่มีที่มาที่ไปในการอ้างอิง
แต่ล่าสุด มีการประกาศเปิดตัวต้นแบบเครื่องมือค้นหาผ่านระบบ AI อย่าง SearchGPT โดยเครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลผ่านรูปแบบการพูดคุย ซึ่งสามารถระบุรายละเอียดการค้นหาที่จะช่วยให้ค้นหาได้แม่นยำมากขึ้น และยังสามารถระบุแหล่งที่มาของข้อมูลได้อีกด้วย ช่วยให้การค้นหามีความแม่นยำน่าเชื่อถือมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ ผู้ใช้งานไม่ต้องถูกกวนใจด้วยโฆษณาเว็บไซต์ในอันดับแรกแบบในการค้นหาของ Google แต่สามารถยิงตรงถึงเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที่ต้องการค้นหา โดย SearchGPT เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเป็นผู้นำในด้าน “Multimodality” หรือความสามารถในการเสนอสื่อที่สร้างด้วย AI หลากหลายประเภท เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ และการค้นหา ภายในเครื่องมือเดียวอย่าง ChatGPT
ด้านนักลงทุนเริ่มมีความกังวลว่า OpenAI อาจเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก Google ในการค้นหาข้อมูล ด้วยการเปิดช่องทางใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคในการค้นหาข้อมูลออนไลน์ ซึ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Google มีการเปิดตัว AI Overview โดยเปิดให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งสามารถดูสรุปคำตอบของคำค้นหาที่ด้านบนสุดของการค้นหา Google ได้
แต่ในมุมมองของนักโฆษณามองว่า ระบบเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการโฆษณาในระบบ Search Engine แบบเดิมที่จะปรากฎบนหน้าแรกของการค้นหา
อย่างไรก็ตาม SearchGPT อนุญาตให้ใช้งานเฉพาะกลุ่มคนเล็กๆ ที่ได้รับการคัดเลือกให้ใช้งานดังกล่าว
ต้องจับตาดูกันว่า Google จะแก้เกมนี้อย่างไรเพื่อให้บัลลังค์ผู้นำ Search Engine ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
Source: CNBC