งานวิจัยจาก Lifesum แพลตฟอร์มชั้นนำด้านการกินอาหารเพื่อสุขภาพระดับโลก เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม Amplify โดย TrendWatching ชี้ให้เห็นว่า Gen Z และ Millennials กำลังเป็นผู้นำกระแสการกินอาหารเพื่อสุขภาพท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพ โดยลดการใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น รวมถึงบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix
รายงาน State of Healthy Eating and Well-being ปี 2024 ของ Lifesum ที่สำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารของผู้บริโภคเผยให้เห็นถึงการเสียสละที่ Gen Z และ Millennials พร้อมทำเพื่อการกินอาหารที่ดีขึ้นในช่วงวิกฤตค่าครองชีพ รวมถึงแฟชั่น เทคโนโลยี และบริการสตรีมมิ่ง
โดยต่อไปนี้คืออัตราร้อยละของสิ่งที่ Gen Z และ Millennials พร้อมลดการใช้จ่ายเพื่อให้ความสำคัญกับการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ:
- แฟชั่น 62%
- เทคโนโลยีและ Gadget 55%
- คอร์สออนไลน์ 37%
- บริการสตรีมมิ่ง 36%
- การเดินทางท่องเที่ยว 34%
- การดูแลผิวและความงาม 30%
Lifesum ระบุว่า สำหรับ Gen Z และ Millennials การกินอาหารเพื่อสุขภาพกลายเป็นแหล่งความสุขที่เข้าถึงได้ง่ายและราคาถูก ถือเป็นการลงทุนในระยะยาว ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพในอนาคต และสะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการดูแลตัวเองและการใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดชอบ
เทรนด์การกินอาหารเพื่อสุขภาพของ Gen Z และ Millennials ยังทำให้ตลาด Functional Foods หรืออาหารฟังก์ชันเติบโตขึ้นเพราะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ โดยอาหารฟังก์ชันเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากคุณค่าทางโภชนาการพื้นฐาน เช่น ช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง รายงานชี้ให้เห็นว่า Gen Z และ Millennials 73% กินอาหารฟังก์ชันเพื่อเพิ่มระดับพลังงาน, 61% เพื่อเพิ่มการมีสุขภาวะทางจิตที่ดี และ 40% เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ Lifesum ยังตั้งข้อสังเกตว่า การดูแลสุขภาพและการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการกำลังมีอิทธิพลต่อด้านอื่นๆ ของชีวิตผู้คน เช่น การทำงาน โดยถึงขนาดที่ 71% ของ Gen Z และ Millennials พร้อมที่จะลาออกจากงานในวันพรุ่งนี้เพื่อหางานที่ช่วยให้พวกเขาดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น
ขอบคุณที่มา: TrendWatching, ThinkNextAsia, Lifesum