ในยุคปัจจุบัน โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไม่เพียงแต่ช่วยเชื่อมต่อและแบ่งปันประสบการณ์ แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลและความบันเทิง แต่การใช้งาน Social Media อย่างหนักอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของผู้ใช้ ทำให้เกิดความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และปัญหาอื่นๆ
Frank McCourt มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ กำลังพยายามเตรียมแผนเข้าซื้อกิจการ TikTok ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการเพิ่มทรัพย์สิน โดยหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านลบที่แพลตฟอร์มเหล่านี้สร้างขึ้น
สำหรับแรงบันดาลใจครั้งนี้มาจากการสังเกตเห็นผลกระทบที่สื่อสังคมออนไลน์มีต่อลูกทั้ง 7 คนของเขาเอง ทำให้เขาตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างแพลตฟอร์มที่ไม่เพียงแค่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นมิตรต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของผู้ใช้
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Project Liberty ซึ่งเป็นโปรโตคอลโอเพนซอร์สที่กระจายศูนย์กลาง สำหรับเป้าหมายของ Project Liberty คือการให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ไม่ว่าจะใช้แอปพลิเคชันสื่อสังคมใดก็ตาม
นำไปสู่แผนการเข้าซื้อกิจการ TikTok ซึ่งอยู่ในช่วง 270 วันสำหรับการค้นหาผู้ซื้อที่ไม่ใช่คนจีน ก่อนจะถูกแบนจากสหรัฐฯ แผนการเข้าซื้อ TikTok จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายขนาดของ Project Liberty ให้กว้างไกล อย่างไรก็ตาม การขาย TikTok ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก
การเปิดเผยปัญหาการจัดเก็บข้อมูลของ TikTok จะช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูลของตนเองมากขึ้น Project Liberty จะเครื่องมือสำหรับของทุกคน โดยที่ผู้ใช้จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการถูกติดตามหรือการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ การเข้าซื้อ TikTok ยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ว่า การรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้เป็นเรื่องที่สำคัญ และไม่ควรถูกมองข้าม
แม้ว่าอนาคตของการเข้าซื้อ TikTok จะยังไม่แน่นอน แต่ความพยายามของ McCourt ในการสร้างอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้นถือเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการและผู้ใช้งานทั่วโลกในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีขึ้นให้กับสังคมออนไลน์
Source: Japan Today